แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
■■ “รักเอยรักลูก แม่จึงปลูกคุณธรรมให้รักษา รดความรัก พรวนความดีมีเมตตา ลูกเติบใหญ่ แทนคุณค่าของแผ่นดิน” (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2563)...
■■ กระแสข่าวเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ดูเสมือนว่าลดความร้อนแรงลงไปมาก หลังจากมีข่าวยืนยันว่าล่าสุดได้มีการทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อบุคคลที่จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ก็ต้องรอว่าจะทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งลงมาในวันใด แต่ประเด็นที่น่าสนใจหลังการปรับคณะรัฐมนตรีคือ จะมีคนอกหักกี่คน แล้วคนอกหักจะสร้างกระแสก่อกวน ตีรวนการทำงานของรัฐบาลมากหรือน้อยเพียงใด สาธารณชนกำลังเฝ้าจับตามองกลุ่มคนอกหัก เพราะพลาดเก้าอี้รัฐมนตรีว่าจะออกมาเล่นละครการเมืองอะไรหลังจากนี้ แต่เท่าที่ได้ยินจากปากคำของ สมศักดิ์ เทพสุทิน จากพรรคพลังประชารัฐที่ยังกินตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม คือต้องมีคนอกหักอย่างแน่นอน แต่คนอกหักก็จะทำใจยอมรับสถานการณ์ได้เร็ว และในส่วนพรรคพลังประชารัฐไม่มีปัญหาใดๆ กับนายกรัฐมนตรี เพราะให้เกียรติท่านนายกฯ...
■■ แวะไปดูเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ กันบ้าง เพราะจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในเรื่องชื่อเสียงและตัวตนของผู้ท้าชิงตำแหน่งนี้ ถึงแม้จะเป็นตำแหน่งสำคัญระดับชาติ ทั้งๆ ที่เป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นก็ตาม ล่าสุดคู่แข่งทุกฝ่ายก็ยังคงกั๊กกันอยู่ โดยยังไม่ประกาศตัวผู้สมัครอย่างชัดเจน แต่เท่าที่เห็นว่าพยายามสร้างกระแสข่าวเรื่องนี้เป็นระยะๆ คือพรรคเพื่อไทย ล่าสุดมีข่าวลือข่าวลวงผสมกับข่าวจริงบางส่วนว่า หญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์แกนนำพรรค ได้รับไฟเขียวจากทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรค ให้ลงชิงตำแหน่งผู้ว่ากรุงเทพฯ แต่คนในพรรคเพื่อไทยก็ไม่ค่อยเห็นด้วยมากนัก แต่ล่าสุดมีข่าวว่าหญิงหน่อยพยายามเชื้อเชิญให้ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้เปลี่ยนใจลงสมัครชิงตำแหน่งนี้ในนามของพรรคเพื่อไทยแต่ถึงกระนั้นก็มีคนรู้ทันเกมการเมืองของเพื่อไทยตั้งประเด็นว่า ชัชชาติ คงไม่ตอบรับคำเชิญของหญิงหน่อย เพราะรู้ดีว่าหญิงหน่อยมีน้ำหนักมากน้อยเพียงใดในพรรค แต่ต้องชมว่าหญิงหน่อยยังตีบทได้เนียนมาก โดยอ้างว่าต่อให้ชัชชาติปฏิเสธ แต่ชัชชาติก็คือคนของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ต้องขอคุยกันก่อน เมื่อหญิงหน่อยพูดเช่นนี้ คอการเมืองจึงปรบมือให้ แล้วบอกว่าเล่ห์เหลี่ยมการเมืองยังคงแพรวพราวอยู่เหมือนเดิม...
■■ กระบวนการต่อลมหายใจอันรวยรินของการบินไทยยังคงให้ความสำคัญเรื่องหนึ่งกับการขอความร่วมมือจากพนักงานทุกคนให้เข้าร่วมโครงการ TogetherWe Can สาระสำคัญของการนี้คือ ขอให้พนักงานลาหยุดโดยไม่รับค่าตอบแทน ตามประกาศของบริษัท เลขที่ 048/2563 เรื่องการปรับลดเงินเดือนและค่าตอบแทนและโครงการลาหยุดโดยไม่รับเงินเดือนและค่าตอบแทน ซึ่งมีรายละเอียดโดยสังเขป ดังนี้ ระดับรองกรรมการผู้อำนวยการ(EVP) ที่มาโดยสัญญาจ้าง (ซึ่งได้รับเงินเดือนแพงลิบลิ่ว) ปรับลดเงินเดือนและค่าตอบแทน 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วน EVP ที่ไม่ได้มาจากสัญญาจ้างปรับลดเงินเดือนและค่าตอบแทน 50 เปอร์เซ็นต์ ระดับผู้อำนวยการใหญ่(VP) ปรับลด 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพนักงานที่ได้รับเงินเดือนอัตรา 2 แสน 1 บาทขึ้นไป ปรับลด 33.33 เปอร์เซ็นต์ส่วนพนักงานที่ได้รับเงินเดือนไม่เกิน 2 หมื่นบาท ปรับลด3.33 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพนักงานอื่นๆ ก็ปรับลดลดหลั่นกันไปตั้งแต่ 6.67-30 เปอร์เซ็นต์ โดยพิจารณาตามระดับเงินเดือน โดยประกาศนี้มีผลบังคับตั้งแต่ 1 สิงหาคมถึง31 ธันวาคม 2563...
■■ ไปดูผลดำเนินกิจการของการบินไทย ประจำปี 2562 กันบ้าง พบว่าการบินไทยและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 184,046 ล้านบาท รายได้ลดลงกว่าปี 2561 จำนวน 15,454 ล้านบาท หรือลดลง 7.7 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่สำคัญคือ เมื่อคิดคำนวณตัวเลขการขาดทุนทั้งหมดของการบินไทยและบริษัทย่อยแล้วพบว่าขาดทุนรวม 12,424 ล้านบาท โดยขาดทุนมากกว่าปี 2561 จำนวน 3,366 ล้านบาท หรือขาดทุน37.2 เปอร์เซ็นต์...
■■ เมื่อพูดถึงการบินไทย คนที่ติดตามเรื่องของการบินไทยมาอย่างใกล้ชิด ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ช่างเป็นสายการบินที่แสนมหัศจรรย์” เพราะยิ่งขุดยิ่งคุ้ยลงไป ก็จะเจอความพิสดาร ความมหัศจรรย์ ความแปลกประหลาดชนิดที่เรียกได้ว่า “สุดแสน Amazing”เพราะมีการทุจริตฉ้อฉลสารพัดสารพันภายในองค์กร ซึ่งมีมากจนเกินบรรยายให้จบสิ้นได้ในระยะเวลาเพียงสั้นๆ แล้วผลของความเน่าเฟะสารพัดชนิดภายในการบินไทยก็ระเบิดออกมาจนทำให้การบินไทยในวาระที่มีอายุครบ 60 ปี ต้องกลายเป็นองค์กรที่เผชิญกับสภาวะล้มละลาย จนต้องนำการบินไทยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ดังนั้น แทนที่ในวาระครบแซยิด จะได้ยินเสียงเพลง Happy Birthdayให้การบินไทยอย่างกึกก้อง แต่กลายเป็นต้องเปิดเพลงพญาโศกให้การบินไทย ส่วนกลุ่มคนที่ทำให้การบินไทยต้องประสบกับความวิบัติก็ยังคงอู้ฟู่ เพราะอิ่มหมีพีมันจากการกอบโกยผลประโยชน์จำนวนมหาศาลเข้าพกเข้าห่อของตนเอง ขอถามตรงๆ ว่า จะมีใครสามารถลากคอคนโกงการบินไทยไปลงโทษได้บ้างไหมหนอ หรือว่าโกงแล้วโกงเลย คนโกงยังลอยนวล แต่การบินไทยถึงกาลวิบัติ...
■■ บริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เริ่มวิตกว่ารายได้มหาศาล ที่ถูกวิจารณ์เป็นเสือนอนกิน จะลดหายไป เพราะผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ผู้คนจำนวนมากไม่ใช้บริการสายการบินส่งผลให้ไม่มีการใช้บริการสนามบินในความดูแลของ ทอท.ตามไปด้วย นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ทอท. บอกว่าในปี 2563 ทอท. ยังไม่ประสบขาดทุน เพราะช่วงก่อนหน้าที่จะเกิดไวรัสโควิด-19 ระบาด ทอท. ได้ตุนเงินไว้จำนวนมาก แต่เป็นห่วงว่าในปี 2564 ทอท. อาจประสบปัญหาขาดทุน เมื่อคนรู้ทันเสือนอนกินได้ยินเรื่องนี้จึงหัวเราะแล้วบอกว่า นี่ขนาดไม่มีคู่แข่งทางธุรกิจเลย ยังวิตกเรื่องขาดทุน แล้วกิจการที่มีคู่แข่งดุเดือดจะประสบปัญหาหนักกว่านี้กี่พันเท่า...■■
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี