มีเรื่องน่าขบขันชวนหัวของขบวนการมุ้งมิ้งที่จงใจสร้างกระแสให้ตัวเอง ด้วยการป่าวประกาศตะโกนก้องว่า จะไม่เข้าพิธิรับปริญญาบัตร การตะโกนก้องบอกสังคมด้วยเรื่องเช่นนี้ ทำให้สาธารณชนเกิดอาการขบขันผสมกับความสมเพชเวทนาขึ้นในบัดดล แต่ถึงกระนั้นวิญญูชนในสังคมก็ไม่ได้ให้ความสำคัญใดๆ กับการตะโกนร้องในเรื่องดังกล่าวของขบวนการมุ้งมิ้ง เพราะเข้าใจดีว่า มันเป็นเพียงการสร้างกระแสความอยากดัง เนื่องจากผู้ตะโกนไม่มีเรื่องดีอื่นใดให้ตะโกนบอกกับสังคม
การที่คนอยากดังออกมาตะโกนร้องบอกสังคมเพื่อสร้างภาพว่า พวกเขาจะไม่รับปริญญาบัตร คือการแสดงความเขลาที่สุดประการหนึ่งของกลุ่มคนที่หลงเรียกตัวเองว่านิสิต นักศึกษา ปัญญาชน คนอยากปลดแอก
ขอถามกลับว่า มีใครในประเทศไทยบังคับให้ผู้ที่ไม่ต้องการรับปริญญาต้องฝืนใจเข้ารับปริญญาบัตรกระนั้นหรือ มีข้อบังคับใดกำหนดไว้หรือ ดังนั้น การออกมาแหกปากตะโกนร้องในเรื่องที่ไม่มีใครบังคับ หรือกำหนดเอาไว้ จึงเท่ากับแสดงความอับจนและไร้ปัญญาของผู้ตะโกน และยังประจานอีกว่าผู้ที่แสดงกิริยาเช่นนั้นไม่ใช่ปัญญาชนที่แท้จริง ต่อให้ผู้ตะโกนจะสามารถสอบผ่านเข้าไปศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำหรือชั้นไม่นำได้ก็เถอะ
ขอถามอีกทีเถอะว่า การออกมาตะโกนป่าวประกาศว่าจะไม่รับปริญญาบัตร คือการแสดงความมีปัญญาตรงไหนหรือ ผู้ตะโกนคงหลงตัวลืมตน แล้วคิดเอาเองว่าตนเองคือชนชั้นปัญญาชน ซึ่งอันที่จริงต้องบอกชัดๆ ว่าคนที่ตะโกนในเรื่องนี้ ลืมไปว่าคนบนโลกใบนี้อีกจำนวนไม่น้อย ไม่เคยสนใจใบปริญญาบัตร เพราะคนจำนวนไม่น้อยเหล่านั้นไม่สนใจ และไม่ให้ความสำคัญกับการเรียนหนังสือในระดับอุดมศึกษา โดยเฉพาะในประเทศที่การศึกษาระดับอุดมศึกษามีแต่กระพี้ แต่หาแก่นสารสาระไม่พบ สาเหตุที่พวกเขาไม่สนใจปริญญาบัตร เพราะพวกเขาไม่เคยเชื่อว่าการศึกษาระดับอุดมศึกษาสามารถสร้างปัญญาที่แท้จริงให้พวกเขาได้ ดังนั้น พวกเขาจึงปฏิเสธปริญญาทุกชนิด ไม่ว่าจะตรี โท หรือเอก
คนไร้ปัญญานั้น ต่อให้พวกเขาสามารถสอบผ่านแล้วเข้าไปเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาแห่งใดได้ก็ตาม ก็จะไม่มีวันมีสติปัญญาขึ้นมาได้ เพราะคนหลงตัวเองแยกไม่ออกว่า อะไรคือปัญญาที่แท้จริง และอะไรคือการจำขี้ปากคนอื่นมาพูด แล้วก็พูดไปเรื่อยๆ โดยไม่เคยคิด ไม่เคยวิเคราะห์ เพียงสักแต่ว่าพูดไปตามความคะนองของปาก รวมถึงพูดไปเพราะถูกคนอื่นลากจูงจมูก
เมืองใด ประเทศใดก็ตามที่มีสมาชิกเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง หลงตัวเอง หลงผิดในสาระสำคัญของสังคม แต่แล้วคนจำพวกดังกล่าวก็ยังเข้าใจผิดคิดว่าตนเองคือปัญญาชน โดยหารู้ไม่ว่าเป็นได้แค่เพียงปัญญาชนกำมะลอ ประเทศเช่นนั้นจะไม่มีวันเจริญ ไม่มีวันพัฒนา ต่อให้มีคนที่คิดว่าพวกเขาคือปัญญาชนมากมายจนล้นประเทศก็ตามที
คนที่เป็นปัญญาชนโดยแท้นั้นต้องคิดและทำแต่เฉพาะเรื่องที่เป็นประโยชน์แท้จริงต่อสาธารณะ ไม่ใช่ทำได้แต่สิ่งไร้สาระ แล้วก็กลับเข้าใจว่าความไร้สาระคือสารัตถะ แต่การจะทำให้คนไร้ปัญญาสามารถบังเกิดความเข้าใจถ่องแท้ว่าสิ่งใดมีสาระหรือปราศจากสาระ จำเป็นต้องอาศัยผู้มีความสามารถถ่ายทอดวิชาการและปลูกฝังสัมมาทิฐิที่แท้จริงให้กับเยาวชน แต่ถ้าหากเยาวชนคนมุ้งมิ้งยังคงปราศจากสัมมาทิฐิ ก็นับว่าเปล่าประโยชน์กับการเสียเวลาเข้าไปเล่าเรียนในสถาบันอุดมศึกษาใดๆ เพราะเรียนไปก็คงไม่เกิดปัญญา เมื่อปัญญาไม่บังเกิดก็ไม่มีวันเข้าถึงสาระสำคัญใดๆ ได้ ดังนั้นคนจำพวกนี้ก็จึงออกมาตะโกนว่าไม่รับปริญญา ขอถามจริงๆ เถอะนะ ที่ตะโกนว่าไม่รับปริญญานั้น พวกคนมุ้งมิ้งสำเร็จการศึกษาแล้วหรือ แล้วมั่นใจหรือว่าจะมีปัญญาสำเร็จการศึกษาได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี