ต้องยอมรับว่ามีคนบางกลุ่มในสังคมไทยต้องการล้มล้าง ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยคนกลุ่มดังกล่าวมีหน้าตา ตัวตนเช่นไร วิญญูชนในสังคมไทยย่อมตระหนักและประจักษ์ดีอยู่แล้ว แต่ครั้นจะใช้กระบวนการทางกฎหมายเข้าไปจัดการกับกลุ่มคนพรรค์อย่างว่า ก็ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากคนกลุ่มนั้นหลบหนีไปอยู่นอกพระราชอาณาจักรไทย
แต่เมื่อมีผู้ถามต่อไปว่า แล้วผู้มีอำนาจรัฐของไทย และกฎบัตรกฎหมายของไทยไม่สามารถนำตัวคนที่จงใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์กลับมาลงโทษในพระราชอาณาจักรไทยได้หรือก็ตอบว่า ทำไม่ได้ เนื่องจากดินแดนที่คนเหล่านั้นหลบเข้าไปซ่อนตัวเพื่อหนีกฎหมายไทยไม่ได้พิจารณาว่าพฤติกรรมที่คนเหล่านั้นกระทำถือเป็นความผิดตามหลักกฎหมายของเขา
คนที่ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ใช้กลอุบายกล่าวร้ายใส่ความต่างๆ นานาว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยไม่มีคุณประโยชน์ต่อแผ่นดิน ครั้นเมื่อมีการตั้งคำถามกลับไปยังกลุ่มคนที่จงใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า ไม่เคยเห็นเลยหรือว่าสถาบันดังกล่าวนั้นทำคุณประโยชน์สารพัดสารพันให้กับประเทศไทย และคนไทยมาโดยตลอดตั้งแต่สถาปนาพระราชวงศ์จักรีขึ้นมา และที่สำคัญยิ่งกว่าคือสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเสาหลักในการรวมจิตรวมใจของคนไทยทั้งแผ่นดิน โดยเฉพาะในยามที่บ้านเมืองต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ต่างๆ คนไทยจากทุกสารทิศก็สามารถรวมตัวกันได้ด้วยสถาบันหลักนี้ ในยามที่คนไทยประสบภัยพิบัติต่างๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณช่วยปัดเป่าความเดือดร้อนแสนสาหัสให้ผ่อนบรรเทาลงได้ สิ่งเหล่านี้ทั่วโลกประจักษ์ชัดมาโดยตลอด แต่เหตุใดคนที่ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์จึงอ้างว่าไม่เคยรับรู้นั่นเป็นเพราะความมืดบอดด้วยอคติของตน ใช่หรือไม่
คนที่จงใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อ้างว่าการมีสถาบันพระมหากษัตริย์คือเครื่องแสดงถึงชนชั้นทางสังคม และเป็นการกดขี่ทางสังคม เมื่อมีคำกล่าวร้ายเช่นนี้ก็มีผู้ถามกลับว่าพระมหากษัตริย์ของไทยกดขี่ข่มเหงใคร เมื่อไร และอย่างไร กรุณาบอกให้ชัดเจนด้วย เพราะการกล่าวอ้างแบบลอยๆ ไร้หลักฐาน ไร้ข้อพิสูจน์ไม่ใช่สิ่งที่วิญญูชนพึงกระทำ และพึงให้ความเชื่อถือ ก็ได้รับการแก้ตัวแบบเลื่อนลอยว่าพูดไม่ได้ เพราะมีมาตรา 112 เป็นเครื่องขัดขวางการพูดความจริง เมื่อผู้จงใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตย์อ้างเช่นนั้น ก็จึงมีคำถามตามต่อไปอีกว่า หากมีหลักฐานชัดเจน ช่วยนำมาเสนอ นำมาตีแผ่ให้สาธารณชนได้รับทราบด้วย หากทุกอย่างเป็นความจริง สาธารณชนจะคิดด้วยตัวของเขาเองว่าจะยังคงต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไปหรือไม่ ดังนั้น ขอให้นำความจริง และหลักฐานมาเปิดเผย โดยไม่อ้างว่าพูดไม่ได้เนื่องจากติดขัดข้อกฎหมายใดๆเพราะนั้นคือการโป้ปดมดเท็จอย่างซึ่งๆ หน้า แล้วสุดท้ายก็ไม่มีหลักฐานใดๆ จากผู้ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์มายืนยัน แต่คนกลุ่มดังกล่าวก็ยังคงกล่าวร้ายใส่ความสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อไป โดยเปลี่ยนไปโกหกกับคนที่ไร้คำถามโต้กลับ และไร้สติปัญญาที่จะใคร่ครวญและพิจารณาว่าอะไรคือความจริง และอะไรคือคำโกหกมดเท็จ
คนที่ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ยังอ้างว่า พระมหากษัตริย์ไทยทรงร่ำรวยล้นฟ้า ก็มีคำถามกลับไปว่า หลักฐานอยู่ตรงไหน แล้วถ้าหากพระมหากษัตริย์ไทยจะทรงมีพระราชทรัพย์จริงเป็นความผิดตรงไหนมิทราบ หากทรงมีแหล่งที่มาของพระราชทรัพย์ที่ถูกกฎหมาย หรือมีข้อกำหนดใดบังคับไว้หรือว่าพระมหากษัตริย์ไทยต้องไม่ทรงมีพระราชทรัพย์ใดๆ แล้วทำไมคนอื่นๆ ในเมืองไทยสามารถมีทรัพย์สินล้นฟ้าล้นดินได้ภายในเวลาอันแสนสั้น โดยไม่สามารถเปิดเผยที่มาของทรัพย์สินเหล่านั้นได้ แล้วเหตุใดพระมหากษัตริย์ไทยซึ่งทรงมีพระราชอำนาจมาตั้งแต่ทรงสถาปนากรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยาจึงจะมีพระราชทรัพย์ไม่ได้ การห้ามแบบนี้เป็นธรรมกับพระมหากษัตริย์กระนั้นหรือ
อันที่จริงมีคำถามโต้กลับคนที่จงใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ในทุกประเด็น แต่พื้นที่สำหรับบทความหมดลงแล้ว จึงขอฝากข้อคิดให้คนไทยช่วยกันถามกลับไปยังคนที่จงใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยเมื่อทุกครั้งที่ได้ยินคำกล่าวร้ายใส่ความต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วดูว่าคนที่จงใจโกหกมดเท็จมีคำตอบให้คุณอย่างไร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี