แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn อุดมคติหรือการปฏิบัติดำเนินการใดๆ ก็ตาม จำเป็นต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง เป็นระเบียบ และสุจริตเป็นพื้นฐาน มิฉะนั้นจะไม่มีวันที่จะทำไปได้ หรือเป็นไปได้อย่างที่คิดเลยเห็นได้จากความที่เป็นมาแล้วไม่ว่าในยุคใดสมัยใด จึงใคร่จะกล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า การฝึกหัดทางใจนี้สำคัญอย่างยิ่งยวด จำเป็นที่จะต้องระมัดระวังฝึกฝนอยู่เสมอตลอดชีวิต จึงจะคงความสุจริต เข้มแข็ง และเป็นระเบียบไว้ได้ ไม่พ่ายแพ้แก่ความลุ่มหลงลืมตัว...(พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 13 กรกฎาคม 2516)...
nn รัฐธรรมนูญคือต้นตอของปัญหาการเมืองไทยจริงหรือ หรือว่าต้นตอของปัญหาการเมืองไทยเกิดมาจากนักการเมือง และรวมถึงใครก็ตามที่อ้างว่าไม่ใช่นักการเมือง แต่กระเสือกกระสนทุรนทุรายตะกายเข้าไปมีอำนาจรัฐโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง นี่คือคำถามที่วิญญูชนในสังคมไทยถามกันมาทุกยุคทุกสมัย เพราะในบางยุคจะเห็นว่ารัฐธรรมนูญนั้นแสนจะดี แต่ในที่สุดก็ยังถูกนักการเมืองที่อ้างว่าชนะการเลือกตั้ง เข้าไปใช้อำนาจรัฐ ด้วยการบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จนสุดท้ายก็นำไปสู่การรัฐประหาร แต่ครั้นเมื่อคณะรัฐประหารเข้าไปมีอำนาจรัฐโดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง ก็กลับตะบี้ตะบันใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง โดยใช้ให้ร่างทรงร่างรัฐธรรมนูญที่เอื้ออำนาจให้กับตนเอง เรื่องราวในการเมืองไทยเป็นเช่นนี้มาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นจะประณามหยามเหยียดว่ารัฐธรรมนูญเลว หรือต้องประณามว่านักการเมืองเลว ประเด็นใดถูกต้องมากที่สุด...
nn สมาชิกวุฒิสภายุคที่หลายคนวิพากษ์ว่าอยู่ใต้อำนาจของ คสช. มีเรื่องประหลาดให้สังคมวิจารณ์ได้ตลอดเวลา เพราะนอกจาก สว. หลายรายจะไร้ประสิทธิภาพในการทำงานแล้วบางไร้ยังมีสภาพไม่ต่างไปจากคนไร้สมรรถนะทางปัญญา เพราะพูดจาไม่รู้เรื่องรู้ราว บางรายดีแต่โฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวเองด้วยเรื่องไร้สาระ ล่าสุด สว. ชุดนี้เกิดอาการ “ปลาเป็น เพราะถูกน้ำร้อนราดหัว”หลังจากมีกระแสกดดันให้ต้องยอมลดอำนาจลง โดยเฉพาะอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันอังคารก็ได้เกิดเรื่องชวนหัวขึ้นในหมู่ สว. อีกครั้ง เมื่อปรากฏว่า สว. กลุ่มใหญ่ที่เคยอ้างว่ามีจำนวนถึง 60 คน โดยเป็นกลุ่มที่ประกาศแบบเสียงเบาๆ ว่าต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่แล้วก็กลับแตกกระสานซ่านเซ็น รวมตัวกันไม่ติด ล่าสุดมีข่าวยืนยันว่าคนกลุ่มนี้ที่เคยอยู่ร่วมกันใน Line กลับถอนตัวออกจาก Line จนเหลือเพียงไม่ถึงครึ่ง แต่ที่สุดแสนตลกก็คือ ที่เคยนัดกันว่าจะไปร่วมหารือแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 8 กันยายน แต่เมื่อถึงเวลานัดหารือจริงๆ กลับมี สว. เพียง 2 ราย ไปปรากฏตัว คือ ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม กับ กิตติศักดิ์รัตนวราหะ...
nn แต่ที่ตลกยิ่งกว่าตลกคือ ดิเรกฤทธิ์อ้างว่าสาเหตุที่ สว. ในกลุ่มหายหน้าหายตาไป ก็เพราะรู้ว่านักข่าวหลายสิบคนจะไปทำข่าวนี้กันก็เลยเกิดอาการฝ่อ แหม! ขอถามหน่อยเถอะพ่อเจ้าประคุณ เหตุใดจึงเกิดเขินอายนักข่าวขึ้นมาแบบกะทันหันเสียเล่า ก็ในเมื่อทุกครั้งที่ สว. เกิดจะอยากเป็นข่าวขึ้นมา ก็เที่ยวได้วิ่งตามขอให้นักข่าวไปทำข่าวให้ หากนักข่าวไปน้อยก็เกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมา แล้วบ่นว่านักข่าวไม่ให้ความสำคัญกับตนเอง แต่มาคราวนี้พอจะมีนักข่าวจำนวนมากไปทำข่าว ก็กลับเกิดอาการเขินอายจนหายหน้าไปหมด ตกลงพ่อเจ้าประคุณจะเอาอะไรกันแน่...
nnคอข่าวการเมืองไทยกลับมาตั้งคำถามกันอีกครั้งว่า ตกลงเมืองไทยในวันข้างหน้า ที่ยังอยู่ในยุคของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีการก่อรัฐประหารอีกหรือไม่ เรื่องนี้ถูกนำมาพูดกันหนาหูมาก จนกระทั่งเมื่อวันอังคาร นักข่าวก็นำเรื่องนี้ถามตรงๆ กับท่านนายกฯ ประยุทธ์ ผลปรากฏว่า “วงแตก” (อีกแล้ว) เพราะเมื่อนักข่าวยิ่งคำถามนี้ใส่ท่านนายกฯ ปรากฏว่าท่านนายกฯ ที่แสนน่ารักเกิดอาการควันออกหู แล้วเดินผละจากโพเดี้ยมโดยพลัน พร้อมกับส่งเสียงบอกว่า เลอะเทอะ...
nn ธรรมกร ขอพาคุณผู้อ่านกลับไปดูเรื่องราวภายในองค์กรสื่อสารมวลชนชนิดพิเศษของประเทศไทยกันอีกครั้ง สาธารณชนตั้งตารอดูว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเชิงบวกบ้างหรือไม่ หลังจากเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เข้าไปรับหน้าที่ประธานกรรมการนโยบายไทยพีบีเอส แทน จุมพล รอดคำดี สำหรับคนที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังที่เข้าข่ายสกปรกโสโครกในไทยพีบีเอสยังคงตั้งตาคอยว่าเจิมศักดิ์จะกวาดบ้านทำความสะอาดให้ไทยพีบีเอสได้มากน้อยเพียงไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้เงินที่ได้มาปีละอย่างน้อย 2 พันล้านบาทแบบที่ไม่น่าจะโปร่งใส เรื่องเล่นเส้นเล่นสาย เล่นพรรคเล่นพวกในองค์กร เรื่องการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมในการโยกย้ายพนักงานเจ้าหน้าที่ เรื่องการตั้งเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร (ระดับผู้อำนวยการ) ชนิดที่ว่าหว่านแหแจกตำแหน่ง โดยไม่ได้ดูเรื่องความเหมาะสมด้านคุณสมบัติและลักษณะของงาน เรื่องการว่าจ้างงานที่ผิดหลักผิดเกณฑ์ผิดฝาผิดตัว เรื่องการทุจริตภายใน เรื่องของหายหลายสิบรายการแต่จับมือหัวขโมยไม่ได้ เรื่องตั้งกรรมการสอบแล้วล้ม ล้มแล้วตั้งใหม่ จนกว่าคนที่ถูกตั้งกรรมการสอบจะพ้นจากความผิด เรื่องจ่ายเงินจำนวนมากมายเพื่อจ่ายให้พนักงานออกจากงานก่อนครบวันเกษียณอายุ แต่แล้วก็กลับจ้างงานในตำแหน่งเดิมกลับเข้ามาอีก แล้วที่สำคัญก็คือจ้างกันแบบไม่โปร่งใสไม่ขาวสะอาด ล่าสุดแว่วข่าวมาว่ามีการจ้างคนอายุเกือบ 60 ปีเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่มีการ early retire ไปแล้ว และล่าของล่าสุดก็มีข่าวว่ามีเหตุไม่น่าจะสุจริตในการจัดซื้อแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อโควิด-19 ภายในองค์กร โดยคนที่ทำหน้าที่จัดซื้อก็เคยมีข่าวหมองๆ มัวๆ มาแล้วหลายเรื่อง แต่เรื่องที่คนในไทยพีบีเอสโจษขานกันไม่วายเว้นคือ องค์กรนี้น่ารักมาก หากใครต้องการได้ตำแหน่งสูงๆ ก็ให้ส่งเสียงโวยวายขึ้นมา แล้วเมื่อโวยวายไปสักพักหนึ่งก็จะได้รับการปูนบำเหน็จด้วยตำแหน่งผู้อำนวยการ เพื่อเป็นการปิดปากไม่ต้องโวยวายต่อไป ขอบอกตรงๆ ว่ายังมีเรื่องสุดแสนมหัศจรรย์อีกมากในไทยพีบีเอส ทีวีที่ได้เงินฟรีๆ มาปีละ 2 พันล้าน เป็นอย่างน้อย...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี