“ประเพณีทั้งหลายย่อมมีประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของคนแต่ละคน เรามีประเพณีของชาติไทยเป็นสมบัติ เราควรยินดีอย่างยิ่ง และช่วยกันส่งเสริมรักษาไว้ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ...” พระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานในพระราชพิธีพระราชทานปริญญาบัตรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(21 เมษายน 2503)...
nn ล้มอัตลักษณ์เท่ากับล้มชาติ “บุคคลแนวหน้าในนสพ.แนวหน้า สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา www.naewna.com” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม”อัญเชิญพระบรมราโชวาทพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงทุ่มเทพระวรกายบำบัดทุกข์บำรุงสุขอาณาประชาราษฎร์ของพระองค์ตลอด 78 ปีแห่งการครองราชย์ด้วย “ทศพิธราชธรรม”ตาม “ปฐมบรมราชโองการ – เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เพื่อเตือนสติ “กลุ่มบุคคลชังชาติ” ที่ย่ำยีสถาบันหลักของชาติ 3 สถาบัน เพื่อให้เกิดสำนึกรักชาติและประโยชน์ของประชาชนแทนการยุยงปลุกปั่นให้ยุวชนเยาวชนของชาติเป็นเด็กก้าวร้าว...
nn เครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพของ “นักแสวงหาอำนาจทางการเมือง” คือ การทำสงครามข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์ “เต็มรูปแบบเฟคนิวส์ – ข่าวปล่อยข่าวลวง – ให้ร้ายป้ายสีทางการเมืองฝ่ายตรงข้าม”เหิมเกริมก้าวล่วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ศูนย์รวมศรัทธาและจิตใจของปวงชนชาวไทย การให้คน “กลุ่มน้อย” ออกมาใช้อำนาจท้าทายกฎหมายบ้านเมืองคือสัญญาณอันตราย “การจัดชุมนุมของชมรมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จนถึงกลุ่มประชาชนปลดแอก” เมื่อวันที่ 19-20 กันยายน ที่ผ่านมา ชี้ให้สังคมเห็นชัดเจนว่า มี “ขบวนการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” โดยยึดโยงแอบอิงความเป็นคนรุ่นใหม่ นิสิต นักศึกษา เหมือนที่ “จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีพม.” กล่าวไว้ระหว่างบรรยายพิเศษเรื่อง “ความท้าทายในการทำงานภายใต้ภาวะนิว นอร์มอล” ว่า ที่เด็กมาเดินขบวนมาเรียกร้องทั้งหลาย เด็กถูกหลอกใช้จากชาติมหาอำนาจที่ชิงจะเข้ามามีบทบาทครอบงำประเทศไทย เพราะไทยมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ความมั่นคงเรื่องเหล่านี้ลองเสิร์จหาในกูเกิ้ล “เรื่องปัญหาทะเลจีนใต้” ดูก็จะมีผลตรงนี้อยู่ “เรื่องนี้ไม่มีวันจบ เพราะวันนี้รัฐบาลทหารแก่ไม่โง่ “จับได้แล้วท่อน้ำเลี้ยงช่วยนักศึกษาหลายร้อยล้านจากต่างประเทศผ่านมูลนิธิ” ทว่าภาพผู้ชุมนุมกลับเป็นผู้สูงวัย หรือ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ที่สนับสนุน “ระบอบทักษิณ -แบ่งแยก – แทรกแซง โกงกิน – หมิ่นเจ้า” และเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันกับผู้ชุมนุมเผาบ้านเผาเมือง เมื่อปี 2553...
nn ยังไม่หยุดเท่านี้กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าเดิมนัดรวมตัวเพื่อกดดันท่านผู้ทรงเกียรติที่บริเวณรัฐสภาใหม่ (เกียกกาย) ซึ่งมีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติด่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ญัตติ ทั้งของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน กลุ่ม I Low ภาคประชาชน เป็นต้น เพื่อทวงถามข้อเรียกร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ญัตติที่เกิดขึ้นจะกล่าวอ้างว่า เป็นความต้องการของประชาชน แต่โดยเนื้อหาแล้ว ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า อานิสงส์หลักใหญ่ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 มีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ผลประโยชน์ของบรรดานักการเมืองโดยเฉพาะหมวดว่าด้วยการเลือกตั้ง จึงต้องพิจารณาให้รอบด้านสมควรที่จะเต้นตาม นักการเมืองอาชีพ – คนอาชีพนักการเมือง – นักเลือกตั้งลากตั้ง – นักประดิษฐ์วาทกรรม - สัมภเวสีคาบประชาธิปไตย และ กลุ่มการเมืองที่มีเจตนาซ่อนเร้นแอบแฝงหรือไม่ เริ่มต้นการเขียน “รัฐธรรมนูญลูกลาน” ครั้งนี้จาก “การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ” โดยอ้างว่าเพื่อปราศจากการครอบงำจากผู้มีอำนาจรัฐ แต่ไม่คิดป้องกันการครอบงำจากนักธุรกิจการเมืองคนอาชีพนักการเมืองที่ย่อมต้องต่อรองกับผู้สมัคร ส.ส.ร.เพื่อให้เกิดผลการเลือกตั้ง เน้นอีกครั้งว่า "รัฐธรรมนูญลูกลาน" เนื่องจากออมาเพื่อฆ่าแม่(รัฐธรรมนูญพ.ศ.2560) โดยเฉพาะ...
nn อดีตคือบทเรียนที่ต้องจดจำเสมอ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ที่ยกร่างโดยส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง “ที่ว่ากันว่าดีที่สุด” นั้น เราได้คนอาชีพ “นักธุรกิจการเมือง” เข้ามาบริหารประเทศอาศัยช่องว่างของรัฐธรรมนูญสร้างอสูรร้ายตัวใหม่ชื่อว่า “เผด็จการรัฐสภา” ด้วยยุทธการควบรวมพรรคการเมืองต่างๆ จะด้วยอำนาจเงินซื้อควบรวมหรือมองอย่างโลกสวยด้วยแนวทางอุดมการณ์ที่ตรงกันก็ตามทีนำมาซึ่ง “ระบอบทักษิณ” จนเกิดการออกกฎหมายแก้กฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัวและพวกพ้องหลายฉบับที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติบ้านเมือง อาทิ ออกกฎหมายแปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต ที่บริษัทในตระกูล “ชินวัตร”ได้รับผลประโยชน์จากการนี้ โดยทำให้บ้านเมืองสูญเสียรายได้กว่า 6.6 หมื่นล้านบาท ล่าสุด สดๆ ร้อนๆ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” มีคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรที่มี “วัฒนา เมืองสุข เป็นรมว.พม.ในยุคเผด็จการรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 พร้อมพวกรวม14 คน” เป็นจำเลย ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นตาม ป.อาญามาตรา 148 จำนวน 11 กระทง กระทงละ 9 ปี รวม 99 ปี จำคุกจริง 50 ปี ทว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ติ่งลิ่วล้อคนเหล่านี้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยให้สิทธิ์สามารถอุทธรณ์คดีในที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ใน 30 วัน โดยจำเลยอยู่ระหว่างประกันตัวเพื่อยื่นอุทธรณ์คดี “ไม้หน้าสาม”ถามตรงนี้จะเดินทางไปต่างประเทศคลอเคลียแข้งขา “ทักษิณ – ยิ่งลักษณ์”ยังแดนไกลหรือไม่ จับตามองเอาไว้ให้ดีเถอะ...
nn “ตำรับยาสมุนไพรไทย” ของ “หมอเณร-ชัยรัตน์ นนทชัย” ปราชญ์ชาวบ้านแห่งห้วยกระเจา เมืองกาญจนบุรี แม้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะไม่สนใจไยดีกับผลงานการรักษาด้วยสมุนไพรไทยหายจากโรคร้าย ไม่ว่าจะเป็นเบาหวานแผลเน่าไม่ต้องตัดเท้่าตัดขา หรือโรคหัวใจไม่ต้องลงมีดผ่าตัด เพราะการให้ยาสมุนไพรปรับสมดุลร่างกาย ตั้งไฟธาตุนั้นมีดีจริง ล่าสุดมีข่าวดี “ผู้มีปัญญาเล็งเห็น ภูมิปัญญาบรรพบุรุษ – มรดกล้ำค่า” แผ่นดินไทยกำลังระดมทุนทรัพย์สนับสนุนเป็น “ศูนย์สมุนไพรแห่งชาติ” เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยาก อีกทั้งยังส่งผลดีต่อเกษตรกรได้เพาะปลูกสมุนไพรสร้างเสริมรายได้ให้มั่นคง เพราะตลอดระยะเวลาที่หมอเณรเรียกร้องมาหลายยุคสมัยรัฐบาล ก็ไม่อาจฝ่าดงอรหันต์ซ้ำเจอบรรดาคุณหมอฉีดยาวางยาจนสะบักสะบอม ขอส่งแรงใจให้ผู้สนับสนุนสรรสร้างฮับสมุนไพรเพื่อเป็นมรดกสืบทอดให้ลูกหลานและชาวโลกสืบไป...
nn ข่าวมงคล ... วัชรินทร์ และ อมรา วามะสุรีย์ อดีตผู้จัดการ KBANK พัฒน์พงศ์ และ สะพานเหลือง แต่งงานลูกชาย เสาร์ที่ 26 ก.ย. 2563 ที่ โรงแรม Waldoft Astoria Bangkok, งานนี้ ทั้ง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และ คุณชนะ รุ่งแสง อดีต Big Boss KBANK ให้เกียรติเป็นประธาน เช้า/เย็น...เพื่อนๆ ร่วมรุ่น มธ.13 (50 ปี) ขอร่วมแสดงความยินดี Happy Wedding กับ บ่าว-สาว, วรภพ วามะสุรีย์ - นิธิมา ติงธนาธิกุล
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี