ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ไม่มีถนนใหญ่ที่ราบเรียบปราศจากหลุมบ่อและความขรุขระให้เราเดินได้อย่างสะดวกสบายตามใจชอบ แม้ในทะเล ในแม่น้ำหรือในลำธารเล็กๆก็ยังมีหินโสโครกน้อยใหญ่ที่เป็นอันตรายได้ นี่เป็นสัจธรรมที่ต้องระลึกไว้ตลอดเวลาสำหรับผู้ทำงานทั้งหลาย ไม่ว่างานนั้นจะใหญ่หรือเล็ก
เป็นเครื่องเตือนใจและเตือนสติให้ต้องคอยระวังอยู่ตลอดเวลาในการทำงาน เพื่อมิให้ประสบอุปสรรคหรือเกิดอันตรายตามมาได้ ยิ่งงานใหญ่เท่าไรก็ยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น แม้กระทั่งการขี่ม้าก็ต้องคอยคิดถึงเรื่องที่จะตกม้าไว้ด้วยตลอดเวลา อย่าคิดแต่เพียงว่าขี่เก่งแล้ว หรือมีแส้ที่จะหวดม้าอยู่ในมือ จะบังคับม้าอย่างไรก็บังคับได้ตามใจชอบ ถ้าคิดอย่างนี้หรือเป็นคนอย่างนี้แล้วอาจตกม้าตายได้ง่ายๆ
ก็เหมือนคิดจะปกครองบ้านเมืองนั่นแหละถ้ากระทำเพราะว่าขณะนี้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในอำนาจของตนเองหมดแล้ว เหมือนมีแส้บังคับม้า จะบังคับมันอย่างไรก็ได้นั่นเอง ถ้าคิดอย่างนี้ และใช้อำนาจอย่างนี้การปกครองบ้านเมืองไม่ราบรื่นแน่ เพราะบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีผู้ใดอาจเข้าครองได้ด้วยกำลังไม่อาจยึดถือเป็นของส่วนตัวได้ จะต้องพ่ายแพ้และจะต้องสูญเสียอำนาจในที่สุด เพราะประชาชนจะต่อต้านและคอยขัดขวางอย่างไม่เกรงกลัวอะไร
ไม่มีอันตรายใดๆที่ใหญ่ยิ่งไปกว่าอันตรายที่เกิดจากการลุแก่อำนาจ ใช้อำนาจบังคับประชาชนให้ต้องเดินตาม หากกระทำเช่นนี้ประชาชนนั้นแหละที่จะพากันออกมาขับไล่และต่อสู้กันอีกเหมือนอดีตที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นผู้มีอำนาจทั้งหลายต้องพึงสังวรและตระหนักให้จงหนักในเรื่องนี้ อย่าลุ่มหลงและเริงใจไปกับอำนาจที่ได้มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร อยากทำอะไรก็ทำตามใจชอบ อยากออกกฎหมายหรือกฎข้อบังคับใด เพื่อประโยชน์ตนเองและพรรคพวก ไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมแล้ว การกระทำเช่นว่านี้ไม่สามารถจะทำการปกครองให้ราบรื่นได้แน่นอน เพราะประชาชนจะไม่ยอมให้ปกครอง
แนวโน้มของเหตุการณ์ไม่สงบและวุ่นวายของบ้านเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปในขณะนี้ กล่าวได้ว่ากำลังมีทิศทางไปในหนทางนั้น แม้จะมีรัฐบาลเกิดขึ้นแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นรัฐบาลที่ยังคงอัตลักษณ์แห่งอำนาจของคณะรัฐประหาร ที่ประกอบไปด้วย ผู้คนที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการทำงานไม่ตรงกับตำแหน่งแห่งที่ที่ได้รับ ทำให้ไม่มั่นใจว่าปัญหาต่างๆที่จะต้องแก้ไข จัดการ ให้ดีขึ้นนั้นคงไม่สำเร็จ
โดยเฉพาะคนที่มีประวัติไม่ดีและเสียหายมาก่อนในบางเรื่องบางราว โดยเฉพาะในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตที่เคยประพฤติปฏิบัติมาในเรื่องเงินๆ ทองๆ ของการรับสินบาทคาดสินบนและค่าคอมมิชชั่นในการจัดซื้อจัดหาต่างๆ นั้น ในไม่ช้าก็คงมีข่าวเปิดเผยออกมาให้ได้รู้จักกันเพราะความจริงย่อมเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ
พูดมาอย่างนี้บางคนอาจบอกว่าให้รอดูหรือให้เขาทำงานไปก่อนน่าจะดีกว่า ซึ่งก็อยากจะบอกว่าไม่เป็นการดีกว่าดอกหรือที่ต้องบอกหรือต้องเตือนกันแต่เนิ่นๆเพื่อไม่ให้เกิดความย่ามใจในอำนาจ ไม่ประพฤติปฏิบัติอย่างนั้นอีก เพราะประชาชนทั้งหลายของบ้านเมืองในยามนี้ อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ไม่ต้องมา “เสียของ” หรือเกิด “ของเสีย” ขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนเดินอยู่ในเขาวงกต หาทางออกให้กับชาติบ้านเมืองกันไม่ได้สักที
การย่ามใจในอำนาจนั้นเป็นการกระทำของคนโง่เขลา เพราะอำนาจนั้นก็เหมือนอาวุธที่มีคน ถ้านำไปใช้อย่างขาดสติ ขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่ฟังความเตือนใจที่ดี อาวุธที่มีคมนั้นย่อมบาดตัวเองให้ได้รับอันตรายง่าย
โดยเฉพาะอำนาจที่ได้มานั้น เป็นอำนาจที่กำหนดขึ้นเองหรือเขียนขึ้นเองหลังการรัฐประหาร อยากมีอำนาจอย่างไร มากน้อยแค่ไหนก็เขียนออกมาในทิศทางที่ต้องการอย่างนั้น อยากเป็นโน่นเป็นนี่ อยากจัดการด้วยวิธีการอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อความรวดเร็วเด็ดขาด ก็ประกาศหรือเขียนมันขึ้นมา ซึ่งมองในแง่หนึ่งก็ดูจะเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้น เพราะจะไปอาศัยกฎหมายธรรมดาที่มีอยู่มันไม่เพียงพอกับการจัดการในการแก้ปัญหา แต่ขณะเดียวกันก็ต้องขึ้นกับคนที่จะนำอำนาจอย่างว่านั้นไปใช้อย่างคนมีสติหรือไม่หรือนำอำนาจอย่างว่านั้นไปกลั่นแกล้ง ข่มขู่ หรือบังคับให้ทำตามที่ตัวชอบหรือไม่ โดยไม่คำนึงถึงความผิดชอบชั่วดี อย่างที่เรียกว่าย่ามใจในการใช้อำนาจนั้น การกระทำอย่างนี้แหละที่เป็นการกระทำที่ไม่ดีไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่มีการกระทำหรือการปฏิบัติการใดๆ ที่สำคัญบางอย่างตามที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ที่กำลังใช้กันอยู่ในขณะนี้หลังการรัฐประหาร โดยเฉพาะในมาตรา 44ซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งที่เขียนไว้ว่า
“ให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีอำนาจสั่งการ ระงับยับยั้ง หรือกระทำการใดๆได้ ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมีผลบังคับทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ ให้ถือว่าคำสั่งหรือการกระทำ รวมทั้งการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่งหรือการกระทำ หรือการปฏิบัติหน้าที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญและเป็นที่สุด...”
ไม่รู้ใครเป็นคนเขียน ที่เขียนอย่างย่ามใจในอำนาจที่สุด ไม่เกรงกลัวแม้กระทั่งคำพิพากษาตัดสินของศาลที่ทำงานภายใต้พระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าจะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างไร
จะหักดิบนิรโทษกรรมให้ก็ได้ยังงั้นหรือ?
(อ่านต่อวันอังคาร)
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี