หยุดไม่อยู่แล้ว สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช ถือเป็นจังหวัดเดียว จังหวัดต้นแบบที่แทบไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 การคมนาคมการท่องเที่ยว เทศกาลงานประเพณี ขยายตัวอย่างเต็มที่ด้วยอิทธิฤทธิ์และอานุภาพของ “ไอ้ไข่” หรือ “ตาไข่” แห่งวัดเจดีย์ อ.สิชล ผู้คนทั่วประเทศไปขอโชคลาภมากมาย
“ไอ้ไข่” ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชาวบ้านมีงานทำ สายการบินต่างๆ มุ่งหน้าสู่เมืองคอนเหมือนรถตุ๊กตุ๊ก โรงแรมต่างๆ เต็มทุกที่ กิจกรรมต่างๆ ทั้งภาครัฐเอกชน จึงมุ่งหน้าสู่เมืองคอน เช่นเดียวกัน
วันก่อน สัณหพจน์ สุขศรีเมือง สส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานคนที่ 1 คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาเศรษฐกิจสภาผู้แทนราษฎร นำคณะ กมธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ติดตามคืบหน้าการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อกระจายศักยภาพการท่องเที่ยวสู่ชุมชนของ จ.นครศรีธรรมราช ทั้งส่งข่าวมาให้ผมช่วยประชาสัมพันธ์ในฐานะคนบ้านเดียวกัน
โดยโฟกัสไปที่ลุ่มน้ำปากพนัง ที่กำลังมาแรง ซึ่งนอกจากได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวในพื้นที่แล้ว ยังกระตุ้นความสนใจต่อชาวต่างชาติ ช่วยสร้างความ เข้มแข็งและยั่งยืน สร้างรายได้ และเศรษฐกิจฐานรากให้ชุมชนในพื้นที่ เป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
ต่อจากนั้นได้เยี่ยมชมการผลิตขนมลา การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ จากรังนกนางแอ่น เยี่ยมชมสวนส้มโอทับทิม บ้านแสงวิมาน ชมวิถีชุมชนบ้านท้องโกงกางและการศึกษาดูงานโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ปากพนัง ในส่วนของ อ.หัวไทร และ อ.เชียรใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ อาทิ ชายทะเลบ้านหน้าศาล อ.หัวไทร วัดแม่เจ้าอยู่หัว พระนางเลือดขาว และตลาดริมคลองเชียรใหญ่
โดยคณะกมธ.ท่องเที่ยว ได้สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวอันสำคัญ อาทิ พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช อนุสาวรีย์พระเจ้าศรีธรรมโศกราช ศาลหลักเมืองประจำจังหวัด และวัดนางพระยา ท้าวจตุคามรามเทพ อีกด้วย
อีกกิจกรรมหนึ่ง เครือข่าย เยาวชนนครศรีฯ ดีจังฮู้ร่วมสมาคมเพื่อนเยาวชนและพัฒนาสังคมภาคใต้ตอนบนมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมจัดงาน“มหกรรมสร้างสรรค์นครศรีฯ ดีจังฮู้ Forum Youth for change เยาวชนเปลี่ยนได้ (พลิกเสี่ยงเปลี่ยนเป็นบวก-พัฒนากิจกรรมสร้างสรรค์-สืบสานคุณค่าภูมิปัญญาถิ่น
สู่การสร้างสรรค์นครศรีฯ ดีจังฮู้) หอประชุมภักดีดำรงฤทธิ์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
นอกเหนือไปจากการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในหลายรูปแบบแล้ว ยังมีการต่อยอดเติมความรู้อีกหลายด้าน ต้องขอบคุณ นายองอาจ พรหมมงคล นายกสมาคมเพื่อนเยาวชนและพัฒนาสังคมภาคใต้ตอนบน ซึ่งเป็นโต้โผใหญ่ ช่วยเติมพื้นที่ ให้สร้างสรรค์ปลอดภัย รักษาสืบทอด ภูมิปัญญาและศิลปวัฒนธรรม เพื่อสืบทอดและหวงแหนไว้ซึ่งของดีที่เป็นความภาคภูมิใจคน จ.นครศรีธรรมราช และสร้างสรรค์สื่อสารสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นแนวทางของเยาวชนสมัยใหม่
ขณะที่ นางสาวกันยารัตน์ ทองสองแก้ว เยาวชนโรงเรียนปากพนัง ตัวแทนกลุ่ม “เด็กปากพนังบอกรักภูมิปัญญา” กล่าวว่า ได้ทำโครงงานเกี่ยวกับเรื่องป่าจากเพราะพื้นที่แห่งนี้มีต้นจากจำนวนมาก คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ประโยชน์จากต้นจาก ซึ่งควรอยู่คู่กับปากพนัง ต้องอนุรักษ์ไว้ ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จากนั้นจึงได้ร่วมกับโครงการนครศรีฯ ดีจังฮู้ เข้ามาช่วยสนับสนุนบูรณาการและมีอาจารย์เข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษา เกิดแนวคิดนำนักเรียนทั้งมัธยมต้นและมัธยมปลาย กว่า 150 คน เข้ามารวมกลุ่มเรียนรู้เรื่องราว ความเป็นมา ประโยชน์สารพัดเกี่ยวกับต้นจาก ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากต้นจาก เรียกว่าใช้งานได้ทุกส่วน เช่น แผ่นรองภาชนะในครัวเรือน การทำไม้กวาด น้ำตาลจาก น้ำส้มจาก รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับเพลงบอก ปราชญ์ชาวบ้าน คือสิ่งที่เป็นภูมิปัญญาอย่างหนึ่งของชาวปากพนัง ส่วนการที่ได้มาร่วมทำกิจกรรมตรงนี้มันทำให้เรามีความเป็นผู้นำ มีศักยภาพมากขึ้น รู้สึกมีแรงผลักดันมากขึ้น และเห็นคนที่เข้ามาร่วมกิจกรรมมากเท่าไหร่ยิ่งภูมิใจในสิ่งที่ทำ
ก็ต้องขอบคุณข้อมูลพี่ๆ น้องๆ ที่ไปร่วมกิจกรรมกับ สส.นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง รวมทั้ง กิจกรรมของเครือข่าย เยาวชนนครศรีฯดีจังฮู้ และสสส.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ส่งมาให้ผมช่วยเผยแพร่ครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี