“ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ตำรวจ มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยให้ประชาชน ในอดีต “ตำรวจ” มีศักดิ์ศรีสมคำเล่าลือ ประชาชนคนไทยทั่วประเทศไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่กลัวตำรวจกันหมด แม้กระทั่งเด็กกำลังร้องไห้งอแงพ่อแม่ต้องขู่ว่า ถ้าไม่หยุดจะเรียกตำรวจมาจับ เด็กที่กำลังงอแงหยุดร้องไห้ทันที ตำรวจมีศักดิ์ศรีมากกว่าหน่วยงานอื่นๆ แต่ขณะนี้“ตำรวจ” แทบไม่อยู่ในสายตาประชาชน เนื่องจากตำรวจส่วนหนึ่งทำตัวเป็นกาฝากใช้เครื่องแบบตำรวจหาผลประโยชน์ใส่ตนทั้งทางตรงและทางอ้อม
ตำรวจสันติบาลเป็นหน่วยงานสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศมีงานสำคัญที่ต้องติดต่อประสานกับหน่วยงานที่มีความสำคัญของประเทศแต่มีตำรวจ “กาฝาก” แฝงตัวอยู่ใน “สำนักงานตำรวจสันติบาล” ใช้ตำแหน่งหน้าที่ของหน่วยงานไปแสวงหาผลประโยชน์นอกหน่วยมาปิดปากผู้บังคับบัญชาระดับสูงเพื่อไม่ให้การรีดส่วยสะดุดลงด้วยการเข้าไปตีสนิทกับหน้าห้องของผู้บังคับบัญชาด้วยการให้ตำรวจหน้าสำนักงานขึ้นไปกินอาหารฟรีบนอาคารโภชนาการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพียงแต่ลงชื่อในสมุดที่นายตำรวจคนนี้ระบุไว้ บรรดาร้านค้าที่นายตำรวจคนนี้จ่ายเงินค่าอาหารให้ตำรวจหน้าห้องผู้บังคับบัญชามากินอาหารกันทุกมื้อ เขาพากันสงสัยว่านายตำรวจคนนี้พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวยได้รับเงินเดือนประมาณเดือนละไม่เกิน 50,000 บาท แต่มีรายจ่ายเดือนหนึ่งเกือบแสนไปเอาเงินมาจากไหนถ้าใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปเดินเก็บส่วยต้องมีความช่ำชองในการรีดส่วยมือรีดส่วยอันดับ 1 ของหน่วยงาน นายตำรวจที่เขาเห็นการกระทำของนายตำรวจคนนี้และทำการตรวจสอบประวัติดูแล้วไม่ธรรมดาเขาคือมาเฟียในคราบตำรวจที่นักธุรกิจสีดำรู้จักดีและการที่นายตำรวจมาเฟียคนนี้สามารถเดินรีดไถนักธุรกิจสีดำได้ เพราะเขามีนักการเมืองระดับประเทศหนุนหลังอยู่ เขาจึงไม่กลัวใครรีดเงินนักธุรกิจสีเทามาใช้จ่าย ชนิดตำรวจด้วยกันเห็นแล้วอิจฉา
ขณะที่นายตำรวจคนนี้เข้ามานั่งอยู่ในหน่วยในอดีตเขาสามารถเรียกเจ้าของกิจการสีเทามาจ่ายเงินนอกระบบให้นายใหญ่ของเขาด้วยการสั่งให้เจ้าของสถานบริการทุกชนิดนำเงินมาจ่ายให้ผู้บริหารของเขาเดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนบาทแต่มีผู้บังคับบัญชาบางคนที่รู้พฤติการณ์ของเขาไม่ยอมให้เขาเข้าห้องเด็ดขาด ที่สำคัญเขาอ้างว่าเขานำผลประโยชน์ที่รับมาไปให้ผู้บริหารประเทศบางคนด้วย นายตำรวจคนนี้เป็นที่รู้จักกันในวงการธุรกิจที่เขาไปเดินเก็บเบี้ยทราบมาว่าไม่ใช่นักธุรกิจใน กทม. และจังหวัดใกล้เคียงเท่านั้น นักธุรกิจทางภาคใต้รู้จักกันดีแต่พวกเขาไม่กล้าเปิดเผยเพราะเขากลัวมือปืนที่สนิทกับนักการเมืองที่ชอบอ้างว่าเป็นคนสนิทของ “บิ๊ก” ในรัฐบาลท่านหนึ่งที่นักธุรกิจเกรงกลัวมาก ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ควรระวังตัวด้วยเขาอาจจะอ้างว่าเขารับใช้ท่าน และคอยดูแลผลประโยชน์ให้ท่านอย่าให้นายตำรวจคนนี้เข้าถึงตัวท่านได้จะเสียชื่อเสียงโดยไม่รู้ตัว ทั้งหมดนี้ติงมาให้ผู้บริหารของ สตช.ช่วยกันตรวจสอบเพื่อไม่ให้ สตช.เกิดความเสียหายอีกต่อไป “อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูมิรู้หาย” .....สวัสดี.....เกลือสมุทร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี