จนถึงวันนี้ เชื่อว่า เสียงข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมได้สะท้อนไปถึงสังคมวงกว้างถ้วนทั่วแล้ว คือ 1.นายกฯ ลาออก 2.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ตามข้อเรียกร้อง 10 ข้อ
1. เมื่อสังคมทั่วไปได้ยินแล้ว จะเห็นด้วยหรือไม่ สนับสนุนหรือไม่? ผู้ชุมนุม แกนนำ ตลอดจน“ผู้มีอิทธิพลความคิดเหนือแกนนำ” ก็ควรเคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นในสังคมด้วย
มิใช่ไปเที่ยวด้อยค่า กล่าวหา บูลลี่ (bully) คนที่เขาไม่สนับสนุนความต้องการของตัวเองว่าเป็นพวกสลิ่ม พวกไดโนเสาร์ พวกหมารับใช้ พวกขี้ข้าเผด็จการ พวกไม่เบิกเนตร หรือแม้แต่เปรียบเทียบกับสัตว์ที่มีแอก ฯลฯ ทำราวคนเหล่านี้ไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ฉลาดล้ำหัวก้าวหน้าเหมือนพวกตน
แล้วเอาทัวร์ไปลง ด่าหยาบคาย หรือไปเที่ยวแบนคนที่เขาไม่สนับสนุนตัวเอง
ถามจริงๆ ตอบตัวเองตรงๆ สนับสนุนพฤติกรรมแบบนี้กันจริงๆ หรือ? ทำไมไม่ป้องปรามไม่เตือนสติกันบ้าง
2. การที่มีประชาชนออกมาใส่เสื้อเหลือง แสดงพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามอำเภอ ตามจังหวัดต่างๆ และประชาชนบางส่วนก็ถึงขนาดเดินทางไปเฝ้าฯรอรับเสด็จสองฝั่งถนนราชดำเนินด้วยตนเอง
“ทรงพระเจริญ” – “ในหลวงสู้ๆ” – “พระราชินีสู้ๆ” ฯลฯ
น่าอนาถใจ... คนที่ยกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เป็นคนเรียกร้องเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ กลับตราหน้าคนเหล่านั้นว่า ถูกเกณฑ์มาปกป้องสถาบัน เสมือนมองไม่เห็นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนเหล่านั้นเลย
ด่าทอว่าพสกนิกรผู้จงรักภักดีนั้น ช่างโง่งม เป็นฝุ่นใต้ตีน
หาว่าเอาจำนวนคนมาข่มขู่ฝ่ายผู้ชุมนุม
ลืมไปแล้วหรือ... คนแรกที่พูดถึงเรื่อง “จำนวนนับ” ว่าเราต้องออกมาเยอะๆ เพื่อแสดงพลัง ก็คือ “นายธนาธรและพวก”
3. นายปิยบุตร แสงกนกกุล และนายธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ทั้งสองคนไม่ประกาศตัวเป็นแกนนำการชุมนุมด้วยตนเอง แต่ล่าสุดยังออกมายืนยันถึงเงื่อนไขสำคัญว่าจะต้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
นายปิยบุตรถึงกับขู่ให้เลือก จะปฏิรูปหรือปฏิวัติ โดยระบุว่า
“..ปฏิรูป ต้องอาศัยความยินยอมพร้อมใจจากฝ่ายที่ครองอำนาจที่ต้องถูกปฏิรูป และร่วมมือกับฝ่ายเรียกร้องให้ปฏิรูป
ปฏิวัติ ต้องอาศัยพลังและการต่อสู้ของคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเข้าทำลายสิ่งที่เป็นอยู่ ในขณะที่ฝ่ายที่ครองอำนาจไม่ยินยอมเปลี่ยนแปลงแต่ก็ต้านทานไม่อยู่
ปฏิรูป คนที่ครองอำนาจอยู่อาจควบคุมและได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงได้อยู่บ้าง
ปฏิวัติ คนที่ครองอำนาจอยู่เดิมสูญเสียอำนาจไปหมดสิ้น
ปฏิรูป ไม่มีวันเกิด หากคนที่ครองอำนาจไม่ให้ความร่วมมือ เช่นกัน ปฏิวัติเกิดขึ้นได้ เมื่อคนที่ครองอำนาจไม่ให้ความร่วมมือ แต่ก็พ่ายแพ้ไป
ดังนั้น ปฏิรูปหรือปฏิวัติ จะออกทางไหน มีเส้นบางๆ กั้นอยู่
ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อสถาบันกษัตริย์ยินยอมด้วย แล้วอะไรถึงจะดลใจให้สถาบันกษัตริย์ยินยอมปฏิรูปด้วยกัน แล้วอะไรจะเกิดขึ้น หากสถาบันกษัตริย์ไม่ยินยอมปฏิรูป...”
คำกล่าวข้างต้นนี้ เจตนาข่มขู่ใคร?
หากนายปิยบุตรและนายธนาธรหวังดีกับผู้ชุมนุมจริง เหตุใดจึงให้ป้องปรามตักเตือนหลายๆ เรื่องที่จาบจ้วงเกินเลย หรือน่าจะออกไปนำการเคลื่อนไหวด้วยตนเอง เพื่อรับผิดชอบอย่างมีธรรมาภิบาล นำการเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่มีวุฒิภาวะตามที่ชอบกล่าวอ้างจริงๆ
หากนายปิยบุตรและนายธนาธรยังจะหลับหูหลับตาอ้างว่าการชุมนุมพูดถึงสถาบันกษัตริย์อย่างมี
วุฒิภาวะ ยังขอท้าให้นำคำด่าในที่ชุมนุมไปด่าออกสื่อด้วยตนเองที่ไหนก็ได้ กล้าทำหรือไม่?
ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันบางข้อ สามารถพูดคุยถกเถียงกันได้ แต่น่าแปลกใจ... ทำไมจึงคิดเองเออเอง สรุปเอาเองว่าการเปลี่ยนแปลงที่ดีเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องทำตาม 10 ข้อที่พวกตนเรียกร้องเท่านั้น
น่าแปลกใจ...เวลาคณะก้าวหน้าลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งจะเกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญปัจจุบัน แกนนำคณะก้าวหน้ากลับยืนยันว่าจะสามารถทำความเจริญก้าวหน้าแก่ท้องถิ่นได้สารพัด โดยไม่เห็นกล่าวเลยว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอุปสรรคอย่างไร และไม่เคยหาเสียงด้วยว่าหากคณะก้าวหน้าได้เป็นผู้บริหารท้องถิ่นจะยกเลิกพิธีกรรมหรือกิจกรรมเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร... เป็นเพราะรู้ว่าจะถูกต่อต้านและจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในท้องถิ่นตามกลไกประชาธิปไตย ใช่หรือไม่?
และน่าสงสัยว่า ทำไมพรรคก้าวไกล และพรรคฝ่ายค้านที่อ้างว่าสนับสนุนการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงไม่นำเสนอเป็นนโยบายพรรค ในการหาเสียงสนับสนุนจากจากประชาชน ตั้งแต่การเลือกตั้งซ่อมครั้งที่จะมาถึงนี้เลย แทนที่จะอ้างว่ามีเสียงสนับสนุนจากผู้ชุมนุมหลายแสนคน หรือนับล้านคน... เป็นเพราะรู้ว่าจะถูกต่อต้าน และจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศตามกลไกประชาธิปไตย ใช่หรือไม่?
4. ปัจจุบันนี้ ยังไม่มีเงื่อนไขที่ยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้ขาดความชอบธรรมร้ายแรง
ที่หยิบยกขึ้นมา ก็มีแต่เรื่องบุคลิกส่วนตัวของนายกฯ เรื่องขายที่ดินพ่อ เรื่องเหมืองทองอัครา(เรื่องเก่าและมีคำชี้แจงทั้งนั้น) เรื่องปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านต่างๆ อ้างแม้กระทั่งตายายเก็บเห็ด เสือดำบ้านพักศาลบนดอย ฯลฯ ซึ่งล้วนมีปัญหาหมักหมมมาก่อน แถมหลายเรื่อง เกิดขึ้นในยุคที่อีกฝ่ายมีอำนาจเป็นรัฐบาลด้วยซ้ำ
ประเด็นเรื่องปัญหาความชอบธรรมของนายกฯ สถานการณ์จึงไม่ต่างกับตอนเป็นรัฐบาลใหม่ๆ
พลเอกประยุทธ์ไม่มีเรื่องทุจริตใดๆ เลย
ปัญหาว่าสืบทอดอำนาจ ก็จำได้ว่า ก่อนการเลือกตั้ง พรรคฝ่ายค้านในปัจจุบันต่างก็ได้เดินสายปราศรัย โจมตี รณรงค์ กล่าวหาประเด็นสืบทอดอำนาจกันมาโดยตลอด ด่าทอสารพัดเรื่อง และปราศรัยยกยอถึงข้อดีของพรรคการเมืองฝ่ายตน กับบุคคลที่ตนเองเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรคตน ตามกติการัฐธรรมนูญ
เชื่อแน่ว่า ประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ไม่มีใครไม่ได้ยินคำโจมตีเรื่องสืบทอดอำนาจ
แต่ในที่สุด เมื่อประชาชนไปใช้สิทธิออกเสียงคะแนนในการเลือกตั้ง ปรากฏว่า พรรคที่ได้คะแนนจากประชาชนสูงที่สุด คือ พรรคพลังประชารัฐ ที่นำเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี 8.4 ล้านเสียง
ต่อมา สส.ออกเสียงเลือกพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯชนะนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในสภา (ซึ่งมิใช่ผู้อยู่ในบัญชีพรรคการเมืองที่ได้คะแนนรองอันดับสองด้วยซ้ำ) เมื่อรวมกับเสียง สว. จึงเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา เลือกพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ
และหลังจากพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ก็ถูกอภิปรายตรวจสอบบ่อยครั้ง หาก สส.ในสภาเกินครึ่งเห็นควรปลดขับรัฐบาลออกไปเมื่อไหร่ ก็มีโอกาสลงคะแนนหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ
แม้แต่กฎหมายเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ พรรคฝ่ายค้านบางพรรคเองก็ยกมือสนับสนุนในสภา แต่กลับไปสนับสนุนโจมตีนอกสภาว่าไม่มีสิทธิไม่มีเสียง
ไม่มีเรื่องนิรโทษกรรมคนฆ่า คนโกง คนเผา หรือการจัดการชุมนุมก็ยังไม่มีการทำร้ายผู้ชุมนุมรุนแรงอุกฉกรรจ์เลย ต่างกับที่พันธมิตรถูกกระทำ หรือที่เสื้อแดงบางส่วนถูกกระทำ หรือที่ กปปส.ถูกกระทำ
5. หากจะกล่าวหารัฐบาลเรื่องนายธนาธรถูกเพิกถอนสิทธิกรณีหุ้นสื่อ หรือเรื่องยุบพรรคอนาคตใหม่กรณีเอาเงินให้พรรคกู้เป็นประโยชน์อื่นเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปี ทั้ง 2 กรณีก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดมีประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายรองรับชัดเจน สามารถอธิบายหักล้างคำโจมตีได้ทุกประเด็น
ถือครองหุ้นสื่อจริงๆ ให้เงินพรรคกู้จริงๆ
ขณะนี้ ก็รอดูว่า กกต.จะดำเนินคดีอาญาอย่างไร?
6. ถ้าพลเอกประยุทธ์ไม่ลาออก จะอยู่ยาวตลอดไปเลยหรือไม่?
ก็ยังไม่แน่อยู่ดี
ทุกปี จะมีการอภิปรายตรวจสอบในสภาหลายครั้ง จะมีกฎหมายสำคัญเกี่ยวกับการเงินหลายฉบับหากพลเอกประยุทธ์ไม่ได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ก็ไปไม่รอด
หรือในอนาคต หากคนเสื้อเหลือง หรือประชาชนทั่วไป เห็นว่าพลเอกประยุทธ์กระทำการเสียหายร้ายแรงก็อาจจะออกมาชุมนุมขับไล่บ้างก็ได้ โดยไม่มีประเด็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นนี้
ตรงกันข้าม ในอนาคต ถ้าพลเอกประยุทธ์ทำดี มีผลงาน จับต้องได้ ประชาชนจะนิยมชมชอบ สนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ก็เป็นสิทธิของประชาชน
การแก้รัฐธรรมนูญ ก็กำลังเดินหน้าต่อไป เนื้อหาจะออกมาอย่างไร ผ่านสำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นกับเสียงของประชาชนทั้งประเทศ ในการทำประชามติ
7. ไม่ว่าฝ่ายใด จะได้ตามความต้องการของตนเองหรือไม่ ก็ไม่มีใครมีสิทธิจะทำลายบ้านเกิดเมืองนอน ทำลายประเทศชาติบ้านเมืองจนเสียหายย่อยยับ
เชื่อว่า ประชาชนคนไทยทั้งประเทศไม่ยอม เพราะประเทศชาติไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี