สัปดาห์หน้า คืนวันอังคารที่ 3 พ.ย. เวลาสองทุ่มที่สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 7 โมงเช้าของวันพุธที่ 4 เวลาในประเทศไทย คูหาการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2020 ที่สหรัฐฯก็จะปิดลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งที่ผ่านมาในสถานการณ์ปกติโดยทั่วไปแล้ว นอกจากมานั่งลุ้นผลการเลือกตั้งว่า ใครจะได้เป็น สส., สว. หรือประธานาธิบดีแล้ว ก็ไม่มีอะไรหวือหวาหรือลุ้นระทึกจนมากเกินไปนัก ยกเว้นผลการนับคะแนนที่ใกล้เคียงกันอย่างมาก เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดี ในปี 2000 ระหว่าง บุช กับ กอร์ จนผลการ นับคะแนนต้องไปลงเอยกันที่การตัดสินของศาลสูงสุด
อย่างไรก็ตาม....การเลือกตั้งทั่วไป 2020 ของสหรัฐอเมริกาครั้งนี้อยู่ในบริบทที่ผิดแผกแตกต่างไปจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเรื่อง (1) สถานการณ์โควิด-19 (2) การสร้างและการแพร่ระบาดของข่าวปลอมในโลกออนไลน์ (3) ความพยายามเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งจากรัฐบาลต่างชาติ และ (4) ท่าทีของนายโดนัลด์ทรัมป์ ที่ส่งสัญญาณจะไม่รับผลการเลือกตั้ง...ถ้าตนเองพ่ายแพ้แบบคะแนนที่สูสีกัน
สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ชาวอเมริกันออกไปใช้สิทธิล่วงหน้ากันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการส่งบัตรเลือกตั้งผ่านทางไปรษณีย์ เพราะไม่ต้องการไปยืนเบียดเสียดเข้าแถวต่อคิวกันในวันที่ 3 พฤศจิกายน ณ ตอนนี้มีมากกว่า70 ล้านคน ที่ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งปี 2016 แล้ว กระนั้นก็ตาม สิ่งที่กำลังจะเป็นปัญหาตามมาก็คือคณะกรรมการการเลือกตั้งสหรัฐ ในแต่ละหน่วยเลือกตั้ง อาจจะได้รับบัตรเลือกตั้งเหล่านี้ที่ส่งมาทางไปรษณีย์ล่าช้า คือหลังจากวันที่ 3 พ.ย. เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ระบบทุกอย่าง รวมทั้งระบบการขนส่งทางไปรษณีย์ติดขัดล่าช้าไปหมด
ดังนั้นคำถามที่น่าสนใจก็คือ….บัตรเลือกตั้งเหล่านี้จะกลายเป็นบัตรเสียหมดหรือไม่ ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้งสหรัฐ ได้รับภายหลังวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งขณะนี้ก็มีหลายศาลในระดับมลรัฐได้มีคำพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่แตกต่างกันออกไปตามกฎหมายเลือกตั้งของแต่ละรัฐที่ไม่เหมือนกัน
แต่สุดท้าย เรื่องนี้คงต้องไปลงเอยกันที่การตัดสินของศาลสูงสุดสหรัฐ ซึ่งล่าสุด สดๆ ร้อนๆ ทรัมป์ก็ได้แต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่ไปอีกคนหนึ่ง เป็นสายรีพับลิกันคนที่ 3 ที่ทรัมป์มีโอกาสได้แต่งตั้งกับมือ นับตั้งแต่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ทำให้อัตราส่วนผู้พิพากษาสายรีพับลิกัน-เดโมแครต กลายเป็น 6-3 ในศาลสูงสุด และในขณะเดียวกันผู้พิพากษาสองคนแรกที่ทรัมป์แต่งตั้งเข้าไป ก็ได้ออกมาให้ความเห็นเปรยๆ ในทำนองว่า บัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์เหล่านี้ควรจะต้องมาถึงมือ กกต. สหรัฐ ภายในวันที่ 3 พ.ย.
ดังนั้น ตอนนี้ชาวเดโมแครตต่างภาวนาให้บัตรเลือกตั้งเหล่านี้ถึงมือคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ทันเวลา เพราะทางเดโมแครตคาดว่าบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ที่ลงคะแนนให้กับพรรคเดโมแครตและโจ ไบเดน
นอกจากนี้ เหตุการณ์เลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นก็คือ การขาดเจ้าหน้าที่ทำงานที่คูหาในวันเลือกตั้ง เพราะโดยปกติแล้วคนทำหน้าที่นี้จะเป็นอาสาสมัครที่อายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่เลวร้ายในสหรัฐอเมริกาที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 9 ล้านคน และเสียชีวิตไปแล้ว2 แสนกว่าคนนั้น ทำให้อาสาสมัครเหล่านี้ถอนตัวเพราะไม่กล้าออกจากบ้าน
ดังนั้น ตอนนี้ กกต. สหรัฐ จึงขาดคนทำงานที่คูหาการเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในแต่ละหน่วยเลือกตั้ง ไม่ว่าการจัดระเบียบเข้าคูหา การให้คำแนะนำการลงคะแนน การแก้ไขดูแลความผิดพลาดการทำงานของเครื่องหย่อนบัตรอิเล็กทรอนิกส์และอื่นๆ ดังนั้นถ้าเกิดความวุ่นวายในหน่วยเลือกตั้งใดเลือกตั้งหนึ่งแล้วก็จะเป็นเชื้อไฟที่ดีใน การสร้างและปล่อยข่าวปลอม รวมไปถึงการปั่นกระแสและบิดเบือนข้อมูลต่างๆ ในโลกออนไลน์
เช่น การสร้างวีดีโอปลอมของผู้ไปยืนอยู่หน้าเครื่องหย่อนบัตรแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่หน้าจอไม่มีการตอบสนองใดๆเมื่อผู้ใช้สัมผัสปุ่มบนหน้าจอเครื่อง ตามมาด้วย...เฟซบุ๊คไลฟ์สดการโต้เถียงกัน...ระหว่างอาสาสมัครดูแลการเลือกตั้งผู้ไม่มีประสบการณ์เพราะพึ่งมาทำงานแทนอาสาสมัครตัวจริงที่ถอนตัวไป กับผู้มาใช้สิทธิ หรือการสร้างข่าวปลอมต่างๆ เช่น การปล่อยข่าวให้ผู้ใช้สิทธิจำนวนมากต่างทยอยกลับบ้านไปก่อนเพราะการต่อแถวหย่อนบัตรที่ยาวเหยียดและการรอคอยที่ยาวนาน แล้วให้กลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้อีกทีเพื่อลงคะแนน และอีกสารพัดข่าวปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมาจากชาวอเมริกันเอง คือผู้สนันสนุนจากทั้งสองฝ่าย หรือ รัฐบาลต่างชาติที่ต้องการเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง ในครั้งนี้ โดยทางหน่วยงานด้านข่าวกรองสหรัฐ ก็พบว่ามีสัญญาณบ่งชี้ว่า รัสเซีย อิหร่านและจีน เริ่มปฏิบัติการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้แล้ว
คริส เพนเตอร์ อดีตนักการทูต ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางอินเตอร์เนต กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ วาดภาพสถานการณ์ความปั่นป่วนเลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นในคืนวันที่ 3 พ.ย. จากการเข้ามาล้วงลูกของรัฐบาลต่างชาตินี้ว่า....ภายหลังปิดหีบเลือกตั้งตอนสองทุ่ม เอ็กซิท(exit poll) หลายสำนักได้รายงานผลการเลือกตั้งในเบื้องต้นว่า ชัยชนะน่าจะเป็นของโจ ไบเดน แต่การนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฉพาะ swing states หรือรัฐที่คาดเดาได้ยากว่าจะเลือกใคร เพราะคะแนนทั้งสองฝ่ายนั้นใกล้เคียงกันมาก ต่อมาได้มีการระดมปล่อยข่าวปลอมในโซเชียลมีเดียว่า รัฐบาลจีนได้เข้ามาแฮกระบบเพื่อเปลี่ยนแปลงผลเลือกตั้งใน swing states ให้กับไบเดน และในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หน่วยข่าวกรองสหรัฐ ก็พบว่าการปล่อยข่าวดังกล่าวเป็นฝีมือของรัสเซียไม่ใช่จีน นอกจากนั้นยังพบว่ารัสเซียได้ปล่อยไวรัสคอมพิวเตอร์เข้าไปในฐานข้อมูลผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้จนระบบร่วนไปหมด ทำให้ชื่อผู้มีสิทธิตกหล่นหายไป แต่สุดท้าย อีกสองสามวันต่อมา บรรดาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นของสหรัฐ รวมถึงรัฐบาลจีนและรัสเซียด้วย ต่างออกมาปฏิเสธเรื่องการถูกหรือเข้าเจาะระบบเพื่อแทรกแซงผลการเลือกตั้ง.......
แต่อย่างไรก็ตาม แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการทำงานอย่างทรงพลังของข่าวปลอมในโลกออนไลน์ เพราะทันทีที่ถูกปล่อยออกไปแล้ว ก็ทำชาวอเมริกันจำนวนมาก
ล้วนกังขากับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ทันที.......และทำให้ ทรัมป์นำเอามาใช้ในการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ (ถ้าเขาแพ้)จนอาจทำให้ผลการนับคะแนนและผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องขึ้นไปสู่การตัดสินใจของศาลสูงสุดอีกครั้งหนึ่ง.......เหตุการณ์ต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ และระดับความเข้มข้นจะมากน้อยแค่ไหน....คืนวันที่ 3 พ.ย. ที่สหรัฐอเมริกาหรือเช้าวันที่ 4 ที่เมืองไทย....คงจะได้ทราบกัน
ดร.ธิติ สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี