หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมนักเรียนกลุ่มหนึ่งจึงตั้งชื่อกลุ่มของตนว่านักเรียนเลว สาเหตุที่ตั้งชื่อเช่นนี้ เพราะว่าต้องการความหวือหวาเพื่อให้คนอื่นจดจำชื่อกลุ่มได้โดยง่าย ซึ่งเรื่องนี้เป็นไปตามหลักการตั้งชื่อสินค้าใหม่ โดยเฉพาะสินค้าที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า หลักการตั้งชื่อสินค้านั้น ต้องตั้งชื่อให้สอดคล้องกับตัวผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ใช้สินค้าจดจำสินค้าได้แม่นยำ ดังนั้นจึงมีคำถามต่อไปว่า การเลือกใช้ชื่อนักเรียนเลว คือการตั้งชื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมจริงของกลุ่ม ใช่หรือไม่ หรือว่าจริง แล้วนักเรียนทุกคนในกลุ่มคือคนดี น่ารัก เรียบร้อย และมีผลการเรียนหนังสือดีเลิศ ได้เกรด 4 ทุกวิชา แต่เลือกตั้งชื่อกลุ่มด้วยคำไม่ไพเราะ เพื่อให้ชื่อกลุ่มแตกต่างจากพฤติกรรมจริงของตน
หลักการตั้งชื่อสินค้าหรือการสร้างแบรนด์ (brand) ที่สำคัญอีกข้อหนึ่งคือ ต้องให้ชื่อสินค้ามีความสอดคล้องกับกลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายหลัก โดยใช้ชื่อแบรนด์ที่จดจำได้ง่าย อ่านออกเสียงง่าย เห็นชื่อแล้วเข้าใจได้ทันทีไม่ต้องผ่านการตีความหลายตลบ และต้องใช้ชื่อแบรนด์ที่ไม่ทำให้ผู้ฟังหรือผู้พบเห็นเกิดความรู้สึกในแง่ลบ ไม่ใช้คำที่มีผลกระทบต่อความเชื่อและต้องไม่ใช่คำที่ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อความรู้สึกของผู้อื่น
ดังนั้นเมื่อสาธารณชนได้เห็นและได้ยินชื่อกลุ่มนักเรียนเลว ก็จึงตั้งคำถามโดยฉับพลันว่า ทำไมจึงใช่ชื่ออันไม่เป็นมงคลเช่นนี้ เพราะการตั้งชื่อไม่เป็นมงคล ก็ย่อมนำความอัปมงคลมาสู่คนตั้ง แล้วคนที่มีความคิดอัปมงคล ก็ไม่เคยกระทำสิ่งมงคลใดๆ
สังคมไทยให้ความเอ็นดู และความเมตตาต่อเด็กมาโดยตลอด เพราะสังคมไทยมีความคิดว่าเด็กทุกคนคือลูกหลาน แม้ในความเป็นจริงแล้ว เด็กจะไม่ได้เป็นลูกเป็นหลานแท้ๆ ของคนในสังคมก็ตาม แต่เมื่อคนในสังคมไทยได้พบเห็นเด็ก ก็จะให้ความเอ็นดู และความเมตตาไปโดยปริยาย โดยไม่มีเงื่อนไขว่าเด็กเหล่านั้นต้องเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง
อาจจะกล่าวได้ว่า ในสังคมไทยนั้น ไม่มีผู้ใหญ่ที่มีความคิดฝ่ายดี และมีใจเมตตาโดยแท้แสดงพฤติกรรมเอาเปรียบหรือรังแกเด็ก แต่เราจะพบเสมอว่า ผู้ใหญ่ส่วนมากหวังดีต่อเด็ก ต้องการเห็นเด็กเป็นคนดี ประสบความสำเร็จในการเรียน และการใช้ชีวิตหลังสำเร็จการศึกษา
แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องไม่ลืมว่าในสังคมไทยนั้น ยังมีคนบางกลุ่มที่เป็นผู้มีอายุมากกว่าเด็ก (ขออนุญาตไม่เรียกคนกลุ่มนี้ว่าผู้ใหญ่) คนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมอุบาทว์คือหลอกล่อมอมเมาให้เด็กดำเนินชีวิตไปในแนวทางที่ผิดทั้งศีลธรรมและกฎหมาย จงใจยั่วยุให้เด็กหลงเชื่อและกระทำในสิ่งผิด เพราะต้องการใช้เด็กเป็นเครื่องมือทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามของตน คนกลุ่มนี้คือผู้หลอกใช้เด็กให้ทำในสิ่งเลวทราม เพื่อผลประโยชน์ของตน
การหลอกใช้เด็กให้ทำผิด เป็นเรื่องที่กระทำได้โดยง่ายสำหรับคนมีอายุมากกว่าแต่มีจิตใจสกปรกโสโครก ต่ำทราม เมื่อคนพรรค์อย่างว่ามาพบเจอกับเด็กที่มีความใสซื่อบริสุทธิ์ แต่ปราศจากความยั้งคิด ไร้การไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ก็จึงกลายเป็นส่วนผสมแห่งความเลวร้ายของสังคม เพราะเด็กนั้นย่อมคิดแบบเด็ก เพราะยังอ่อนหัด ไร้ประสบการณ์ แต่อยากแสดงตัวให้คนอื่นยอมรับ และอยากให้สังคมเห็นว่าถึงแม้เป็นเด็ก แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้
คำว่าเด็กกับการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง เป็นคำเพ้อฝันที่เด็กทุกยุคล้วนฝันเฟื่องมาแล้ว แต่น้อยครั้งเหลือเกินที่จะเกิดเป็นความจริงได้ ยามนี้ก็เช่นกัน สังคมไทยได้พบเห็นความฝันเฟื่องของเด็กกลุ่มหนึ่งอีกครั้งทั้งๆ ที่สังคมไทยพยายามให้กำลังใจกับเด็กช่างฝัน แต่ก็มีคำถามว่า คำว่ากลุ่มเด็กเลวนั้น เลวเฉพาะชื่อกลุ่ม หรือเลวด้วยพฤติกรรม หรือมีความคิดเลว แล้วก็ยังถามต่อไปว่า มีคนเลวหน้าไหนบ้างที่ทำให้สังคมดีขึ้นมาได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี