ก็ชัดเจนแล้วว่า การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณา ว่าจะรับหรือไม่รับ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจากส่วนต่างๆ นั้นจะมีขั้นในวันที่ 17 พฤศจิกายน และเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา กลุ่มไทยภักดีที่นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ออกแถลงการณ์ เรื่องคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อร่างใหม่โดยตั้ง ส.ส.ร. มีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้
ตามที่มีพรรคการเมือง นักการเมือง มีแนวคิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อนำไปสู่การตั้งส.ส.ร.และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับกลุ่มไทยภักดีได้ติดตาม และมีข้อสังเกตที่อยากเรียนให้ ประชาชนซึ่งเป็นผู้สถาปนา รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 นี้ 16.8 ล้านเสียงได้ทราบนั่นคือ พรรคการเมืองและนักการเมือง มองว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหา คือบทเฉพาะกาลในมาตรา 272 ที่ให้อำนาจสมาชิกวุฒิสภา(สว.) เลือกนายกรัฐมนตรีในช่วง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรก
ในทางปฏิบัติ มาตรานี้ผ่านประชามติและเป็นบทเฉพาะกาล อีกประมาณ 3 ปีก็จะสิ้นสุด หากคนกลุ่มนี้มองว่ามาตรานี้มีปัญหา ทำไมไม่เสนอแก้มาตรานี้มาตราเดียวแต่กลายเป็นว่า นำมาอ้างเพื่อต้องการล้มล้างรัฐธรรมนูญนี้ทั้งฉบับ ซึ่งกลุ่มไทยภักดี ขอเชิญชวนประชาชน ที่เป็นผู้สถาปนารัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่วมกันปกป้อง คัดค้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วยเหตุผล
1.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผ่านการลงประชามติเสียงข้างมากของประชาชน 16.8 ล้านเสียง ซึ่งถือว่าเป็นการใช้อำนาจอธิปไตย โดยตรงของประชาชน และถือว่าเป็นอำนาจสูงสุด ที่นักการเมืองต้องเคารพ
2.ถ้ายอมให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะนำไปสู่การต้องร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญอีก 10 ฉบับ เท่ากับว่าจะต้องร่างกฎหมายใหม่ทั้งสิ้น 11 ฉบับ ทำให้ง่ายแก่การซุกประโยชน์ของนักการเมือง
3.มีพรรคการเมืองบางพรรค อาศัยการล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อร่างใหม่ (ที่ทะลุเพดานรัฐธรรมนูญ)
4.จุดเด่นของรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ การปราบโกงโดยเฉพาะคดีอาญาไม่หมดอายุความ และการพิจารณาคดีลับหลังหากจำเลยหนี ซึ่งอยู่ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ มีคดีทุจริตถูกตัดสิทธิ์สมัครสส.ตลอดชีวิต ซึ่งนักการเมืองไม่ชอบ
5.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ สามารถป้องกันสส.มาผลาญงบประมาณแผ่นดิน ปีละสามถึงสี่หมื่นล้านบาท เพราะในอดีตรัฐธรรมนูญไม่เข้มงวด แต่ฉบับนี้ทั้งรัฐมนตรีและสส. ถ้าถูกจับได้มีความผิด ต้องถูกถอดถอน
6.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ใช้ระบบเลือกตั้งบัตรใบเดียวซึ่งเป็นระบบที่ทำให้ ตระกูลนักการเมือง นักการเมืองเก่าแก่ที่เป็นเจ้าถิ่น เจ้าพ่อ นักเลง พ่อค้าหวย ค้ายาประจำจังหวัดค่อยๆ ถูกทำลายและมีโอกาสได้นักการเมืองคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ดังที่เห็นในปัจจุบัน
7.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะช่วยทำลายการตั้งมุ้งกลุ่มการเมืองเพื่อมาต่อรอง ตำแหน่งและผลประโยชน์ของตนเอง ดังจะเห็นชื่อมุ้งการเมืองในอดีต ที่มีบทบาทสำคัญ แทบจะหายไปในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน
8.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะทำให้การซื้อตัวสส.ช่วงยุบสภา หรือหมดวาระสภา ลดลงไปมาก เพราะอิทธิพลส่วนใหญ่จะมาจากหัวหน้าพรรค นโยบายพรรค กระแสพรรคเป็นตัวนำ
9.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะช่วยลดอิทธิพลของนายทุนเจ้าของพรรค ที่จะกำหนดลำดับสส.บัญชีรายชื่อตามเงินบริจาค หรือแม้แต่การจะชี้ตัวผู้สมัครสส.เขต เพราะอำนาจนี้จะถูกโอนมาให้ประชาชน ที่เป็นสมาชิกพรรคตัดสิน ผ่านการทำ Primary โหวต
10.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะเพิ่มอำนาจการต่อรองให้ประชาชน และพรรคการเมืองไม่สามารถมาขู่ประชาชนได้ว่าจังหวัดไหนไม่เลือกไม่ได้งบ เพราะทุกคะแนนเสียงไม่ตกน้ำและมีความหมาย
11.ถ้าสว.หมดวาระตามบทเฉพาะกาล จะได้สว.ที่มีความเป็นอิสระ เพราะสว.จะมีการเลือกตั้งจากประชาชนกลุ่มอาชีพ ยากที่พรรคการเมืองจะมาครอบงำเหมือนสว.ในชุดเก่า ที่ต้องอาศัยฐานเสียงพรรคการเมืองการเกิดเผด็จการรัฐสภาเช่นในอดีตจึงไม่มีโอกาสเกิดขึ้น
12.การต้องร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ รวม 11 ฉบับ มีโอกาสที่จะถูกยัดไส้ด้วยภาษากฎหมาย เพื่อนำไปสู่การนิรโทษกรรมตามมา โดยที่ประชาชนตามไม่ทัน เนื่องจากส.ส.ร. จะมีความใกล้ชิดพรรคการเมือง
13.เหตุการณ์ที่ผ่านมา ไม่พบว่าปัญหาของรัฐธรรมนูญนี้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน กลับกลายว่ารัฐธรรมนูญนี้ ช่วยปกป้องประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
14.ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ที่ประชาชนยังยากลำบาก ควรจะประหยัดงบประมาณ 15,000 ล้านบาทในการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชน น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า
“นี่คือเหตุผลสำคัญ ที่พวกเราประชาชนทุกคน ต้องช่วยกันปกป้องรักษารัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับนี้ และหากปล่อยให้มีการแก้ไข โดยเฉพาะระบบบัตรเลือกตั้งสองใบ จะนำไปสู่ปัญหาเดิมๆ ของประเทศ และเป็นผลเสียต่อประชาชนมากกว่า เปิดโอกาสให้รัฐธรรมนูญนี้ได้ทำหน้าต่อไป หากดำเนินไปแล้วพบปัญหาใดๆ ในการปกป้องประโยชน์ของประชาชน จึงค่อยมาแก้ไขรายมาตรา”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี