l ๒. ความคิด & การปฏิบัติ ที่ได้ทำไป ทั้งในอดีต & ปัจจุบัน ยังอยู่ในถ้ำอวิชชาแห่งความมืดมิด ไม่มีแสงสว่าง (ความเดิม ๑. บทรำลึก อดีต: ย่างก้าวที่ผ่านมา จนมีวันนี้ )เรามาลองไล่เลียง “ความคิด และการปฏิบัติ” ที่ผู้นำวงการต่างๆได้ทำมา ในการสร้างประชาธิปไตยหรือ การทำลาย ประชาธิปไตยที่แท้จริง (ผลประโยชน์ไม่ตกกับประชาชนส่วนใหญ่)
๑. ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ คณะราษฎร : ทำการปฏิวัติ? จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
๒. แนวทางการใช้การเลือกตั้งทั่วไป
(๑) การเลือกตั้งทางอ้อม (ครั้งแรกและครั้งเดียว) การเลือกตั้ง ๑๕ พฤศจิกายน ๒๔๗๖ เป็นการเลือกตั้ง “ผู้แทนตำบล” ขึ้นทั่วประเทศ ผู้แทนตำบลก็จะไปเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทแรก อีกขั้นหนึ่ง ๗๘ คน สส.ประเภทสอง ที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งขึ้นอีก ๗๘ คน รวมทั้งสิ้นเป็น ๑๕๖ คน
(๒) การเลือกตั้ง สส. โดยตรง มีทั้งแบ่งเขต รวมเขต แบบผสมรวมเขตกับแบ่งเขต
(๓) วุฒิสมาชิก มีทั้ง การเลือกตั้ง และ แต่งตั้ง
(๔) การเลือกตั้งระบบสัดส่วนและเขตละ 1 คน The first past the post (Proportional Representation and Single Member Constituency )
๓.การรัฐประหาร ๑๓ ครั้ง ๑ เมษายน ๒๔๗๖ - ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ (https://hilight.kapook.com/view/102528 )
ก. เนื้อหาการใช้กำลังทหาร ที่มีพลังความเข้มแข็ง มีรูปแบบการ จัดตั้งฯเหนือกว่าพลังอื่นๆในสังคม(กล่าวคือ กองทัพต่างๆ โดยเฉพาะ กองทัพบกฯ ที่พลังเหนือกว่า ในการล้มรัฐบาลนักการเมือง)แต่ขาดพลังทางความคิด ความเป็นรัฐบุรุษของผู้นำ ในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง ทำให้ไม่สามารถนำการเปลี่ยนแปลงที่ดี ได้ฯ
ข. รูปแบบ : มีหลากหลาย เช่น
มีความขัดแย้งกัน ระหว่างผู้นำการเมือง (ที่มาจากกองทัพ) vs สส.(นักการเมือง)ประชาชนจำนวนมหาศาล ลุกขึ้นต่อต้านและหรือไม่พอใจรัฐบาล ทำให้รัฐบาลอ่อนแอผู้นำกองทัพ ที่มีความขัดแย้งกับรัฐบาล ( ทหาร หรือ พลเรือน) จึงอาศัยจังหวะนี้ ทำการรัฐประหาร
- การรัฐประหารรัฐบาล ตัวเองจอมพล ป. พิบูลสงคราม ๒๙ พฤศจิกายน ๒๔๙๔ จอมพลถนอม ๑๗ พ.ย. ๒๕๑๔
- กรณี การรัฐประหาร รัฐบาลที่อยู่ในอำนาจ พลเอกสงัด ชลออยู่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ (รัฐบาลเสนีย์ ปราโมช) พลเอกสงัด ชลออยู่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๐ (รัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียร) พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๔ (รัฐบาลพลเอกชาติชาย) (ที่มีการคอร์รัปชัน รุนแรง บุฟเฟ่ต์คาบิเนต)
- พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ (รัฐบาลทักษิณ) (ทุนสามานย์ : ที่มีการใช้อำนาจฯ การโกงกินมหาศาล )
- พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ (รัฐบาลรักษาการ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) รัฐบาลยิ่งลักษณ์ (ทักษิณ) ใช้อำนาจมิชอบธรรม ขัดรัฐธรรมนูญ คอร์รับชั่น โกงกินมโหฬารแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมฯ ไม่ยอมรับอำนาจของศาลฯ
การก่อกบฏ คือ การทำรัฐประหารโดยทหารฯ แต่ไม่สำเร็จ ๑๑ ครั้ง
๔. ๑ ธันวาคม ๒๔๘๕ การก่อตั้ง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ๗ สิงหาคม ๒๕๐๘ วันเสียงปืนแตก ใช้แนวทางปฏิวัติ คือ มีพรรคปฏิวัติ กองกำลังอาวุธ และแนวร่วมประชาชาติประชาธิปไตย
๕.แนวทางการพัฒนาประเทศ โดย ธนาคารโลก (๒๕๐๔)
๖. บทบาทของมหาอำนาจที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง การต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย
คือ ความขัดแย้ง ของ “จีน และ รัสเซีย” ที่ทำให้ “จีน” ลดการสนับสนุน พคท.( หรือ การจัดความสัมพันธ์ใหม่ โดย ให้ “ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ (ไทย-จีน “อยู่ เหนือ “ ความสัมพันธ์ ระหว่าง พรรค(ชนชั้นกรรมาชีพ) จีน-ไทย)
คือ ความขัดแย้งแนวความคิด “เสรีนิยม ( ตะวันตก ) และ สังคมนิยม” ทำให้ทางตะวันตก เผยแพร่และเข้าแทรกแซงการเมือง ในสังคมไทยตลอดมา
๗. แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของ ในหลวง ร.๙
๘. บทบาทที่โดดเด่นของการเมืองโลก ( ความขัดแย้งใหญ่ของ จีน – อเมริกา ) : ปัจจุบัน
๙. บทบาทที่โดดเด่นของบางรัฐบาล ที่มีผลกระทบต่อสังคมไทย
(๑) การสร้างอำนาจทางการทหาร ต่อ การเมือง : จอมพล ป.พิบูลสงคราม
(๒) การเสริมบทบาทสถาบันพระมหากษัตริย์ ในสังคมไทย : จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
(๓) การดึงหรือเปิดโอกาสให้ภาคทุน-การเมือง เข้ามาสู่การเมือง : รัฐบาลคึกฤทธิ์ และ รัฐบาลชาติชาย
(๔) การแก้วิกฤติความขัดแย้งของสังคม คือ นโยบาย ๖๖/ ๒๓ ยุครัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์
(๕) การสร้างให้ภาคการเมือง (นักการเมือง) และกลุ่มทุนใหญ่มีอิทธิพลต่อ ระบบการเมืองไทย
คือ การเลือกตั้ง ปี ๒๕๔๔ โดย นายกทักษิณ พรรคไทยรักไทย
คือ การกำเนิดขึ้น ของ พรรคอนาคตใหม่ (ธนาธร ปิยะบุตร) ปี ๒๕๖๒
๑๐.แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของ ในหลวง ร.๙
๑๑.บทบาทและแนวทาง ของ ในหลวง ร.๑๐ ต่อสังคมไทย
๑๒.บทบาทที่โดดเด่นของการเมืองโลก (ความขัดแย้งใหญ่ของ จีน – อเมริกา) : ปัจจุบัน
l บทบาทของภาคประชาชน ที่มีผล ต่อการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย ในระดับหนึ่ง
ก. ภาคประชาชน ๑
๑.เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖
๒. ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๓๕
๓.ขบวนการธงเขียว รัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐
๔.พธม. ๒๕๔๙ - ๒๕๕๑
๕.กปปส. ๒๕๕๖ – ๒๕๕๗
l ภาคประชาชน ๒
๑.ล้มการประชุมอาเซียน ๖ ที่พัทยา และ ชุมนุมในกรุงเทพฯ
ที่สามแยกดินแดง ๒๕๕๒
๒.การชุมนุมปิดล้อมกรุงเทพ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ราชประสงค์ ๒๕๕๓
๓.การชุมนุมของนักศึกษาปลดแอก ชู ๓ นิ้ว พุ่งเป้าสถาบัน และรัฐบาลประยุทธ ๒๕๖๓
ค.ภาคประชาชน ๓
๑.กลุ่มเอ็นจีโอ และภาคประชาชน ที่เน้นปัญหาสังคม และประชาชนในชนบท
๒.กลุ่มเอ็นจีโอ กลุ่มสิทธิฯ ที่เน้นปัญหาการเมือง สิทธิ ความคิดเสรีนิยมฯ
l บทบาทของภาคประชาชน ส่วนใหญ่ ยังมีความจำกัด ไม่มีพลังที่มีคุณภาพ และเป็นจริง
ที่มีบทบาทมากที่สุดคือ เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ที่เป็นพลังอิสระ บริสุทธิ์ ต้องการเปลี่ยนแปลง (แต่ไม่มีพลังและปัจจัย ที่จะเผด็จศึกฯต้องอาศัย กองทัพฯ ที่มีพลังและอาวุธ ที่เอาชนะ ได้) ยังคงเน้น
กลุ่มผู้นำปัญญาชน ในเมืองหลวงฯ ขาดการพัฒนาอย่างมีคุณภาพและต่อเนื่องขาดการวิเคราะห์ เชิงทฤษฎี ที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในสังคมไทย รับความคิดเสรีนิยมหรือสังคมนิยม
l การเข้าสู่การเป็นรัฐบาลและรัฐสภา (อำนาจรัฐ ส่วนที่เป็นฝ่ายบริหารฯ และ ฝ่ายนิติบัญญัติ)
๑.การปฏิวัติ ๒๔๗๕ (แต่ มีความจำกัด รับความคิดตะวันตกมาใช้และเกิดความขัดแย้งกันเอง)
๒.การเลือกตั้ง (โดยพรรคการเมืองและนักการเมือง) เป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม และไม่มีการเอาผิด (ตามกฎหมาย) ได้จริง
๓.การทำรัฐประหาร (เป็นการทำของ กองทัพบก ฝ่ายเดียว)
l บทบาทของภาคส่วนต่างๆ ทั้งการสร้างสรรค์ สร้างปัญหาวิกฤต
ที่ทำให้เราติดอยู่ในถ้ำแห่งอวิชชา อคติ วังวนวนเวียน หาทางออกไม่เจอบางครั้งดูเหมือนเห็นแสงสว่างจากปลายอุโมงค์ ที่แท้จริงแล้ว “เป็นแค่แสงสว่าง ในมโนคติของผู้นำฯ”
ปัญหาหลักของวิกฤติประชาธิปไตยไทย
๑.โครงสร้างและระบบสังคม เหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรม เอื้อต่อชนส่วนบนและประชาชน ไม่มีคุณภาพ ขาดความอิสระ มีส่วนร่วม ติดอยู่ในระบบอุปถัมภ์ การเมือง
๒.ยังไม่มีแนวคิด ทฤษฎี แนวทาง ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี จังหวะก้าว และแนวทางการแก้วิกฤตที่เป็นไปได้จริงแนวคิดของชนชั้นนำ ติดกับ ความคิดเสรีนิยม ยึดการเลือกตั้ง เป็นสรณะ ขาดนักคิดนักปฏิบัติ ที่คิดในเชิงทฤษฎี วิเคราะห์แนวทางฯ ที่สอดคล้องกับสภาสังคมไทย
๓.ชนชั้นนำของสังคม ไม่มีพลังฝ่ายใด ที่จะมีอำนาจเด็ดขาด หรือ พลังที่เหนือกว่า พลังอื่นๆไม่ว่า จะเป็น สถาบันฯ กองทัพ นักการเมืองพรรคการเมือง ข้าราชการ กลุ่มทุนใหญ่ผูกขาดและกลุ่มธุรกิจนักวิชาการ สื่อ ภาคประชาสังคม และ อ่อนแอที่สุด ในทุกปัจจัย
“อักษะ: แห่งความชั่วร้าย” (นักการเมือง ข้าราชการ ทุนแสวงหาผลประโยชน์) มีอิทธิสูงมากในสังคมไทย
๔.มีอิทธิพลของทุนต่างชาติสูงมาก ต่อ สังคมไทย และการแทรกแซงของกลุ่มมหาอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจฯ
..................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี