โครงการคนละครึ่งเฟส 2 คึกคัก 5 ล้านสิทธิ์ เต็มภายใน 2 ชั่วโมง หลังจากที่โครงการคนละครึ่งเฟสแรก 10 ล้านสิทธิ์ ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากผลลัพธ์การลงทะเบียนของประชาชนรวม 15 ล้านสิทธิ์ ได้ส่วนลดในการจับจ่ายใช้สอย และกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ค้ารายย่อยด้วยการเพิ่มยอดขายให้กับพ่อค้า-แม่ค้า ที่เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 30-40 % สามารถกระจายเม็ดเงินลงไปสู่เศรษฐกิจรากหญ้าได้อย่างทั่วถึง ได้รับผลตอบรับดีสู่รัฐบาลสวนกระแสกลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังอ่อนแรง และอาจกำลังวัดใจกระแสมวลชนในการเลือกตั้งท้องถิ่นสุดสัปดาห์นี้
เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 หลังจากที่ห่างหายการเลือกตั้งท้องถิ่นไปนานกว่า 8 ปี นับจากการเลือกตั้ง อบจ. ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2555 และตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา เมื่อรัฐบาลอนุญาตให้ผู้สมัครในพื้นที่สามารถออกหาเสียงได้ ซึ่งการขับเคี่ยวการหาเสียงในครั้งนี้ ทีแรกดูเหมือนว่าจะเป็นการเมืองยุคใหม่ โดยมีหน้าใหม่ไปสู้กับการนักการเมืองท้องถิ่นเดิม แต่พบว่าสุดท้ายในพื้นที่ส่วนมากยังเป็นกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น หรือเครือญาติการเมืองท้องถิ่นเดิมปัดฝุ่นเปลี่ยนเสื้อใหม่ย้ายข้างกลายเป็นหน้าใหม่ในร่างเดิมไม่ต่างกัน
โดยพบว่ายังมีพรรคการเมืองในสภาหรือกลุ่มการเมืองในสภาลงมาเล่นการเมืองท้องถิ่น แต่ในซีกฝ่ายรัฐบาลอย่างพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ส่งลงน้อยมากแม้ในเขตจังหวัดที่ตนมี สส.ก็ตาม ในขณะที่พรรคการเมืองซีกฝ่ายค้านหรือกลุ่มการเมืองเกี่ยวเนื่องพรรคฝ่ายค้านส่งลงกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย และ คณะก้าวหน้า
ส่วนของพรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งลง แต่มีคณะก้าวหน้าที่ส่งลง ข้อนี้ก็ยังเป็นข้อที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ความสัมพันธ์ของการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ของสองกลุ่มการเมืองนี้ซึ่งก็คงมีการหาคำตอบต่อไปว่ากระทำได้ถูกต้องหรือไม่
สำหรับผู้สมัครที่ ทีแรกหลายคนคาดหวังกลุ่มการเมืองท้องถิ่นหน้าใหม่หรือกลุ่มใหม่น่าจะหาได้จากคณะก้าวหน้า แต่ความจริงนั้นผู้สมัครก็ไม่ได้เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ทั้งหมดและหลายคนก็เป็นลูกหลานผู้มีอำนาจในพื้นที่หรือกลุ่มการเมืองท้องถิ่นเดิม ฉะนั้นมีฐานการเมืองท้องถิ่นแบบเดิมไม่ต่างจากพรรคอื่นๆ มากนัก
ในกรณีของนายธนาธร หัวหน้าคณะก้าวหน้า ที่ได้ลงพื้นที่ออกไปช่วยลูกทีมของตนหาเสียงในจังหวัดต่างๆ อาทิ จังหวัดภูเก็ต นครสวรรค์ ชลบุรี นครศรีธรรมราช ฯลฯ ซึ่งแต่ละพื้นที่ที่ได้ลงไปช่วยหาเสียงก็ได้มีประชาชนในพื้นที่พากันออกมาต่อต้านโดยเฉพาะประชาชนกลุ่มรักสถาบันที่ออกมาตั้งคำถามต่อนายธนาธรถึงแนวคิดนายธนาธรต่อสถาบัน จึงเป็นที่น่าจับตาว่านายธนาธร จะเดินหมากตาสุดท้ายนี้อย่างไรและจะนำพาคณะก้าวหน้าประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้เหมือนตอนเลือกตั้งสส.ปีที่แล้วหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม พบว่าคณะก้าวหน้าลงทั้งหมด 42 จังหวัด ซึ่งเป็นเขตที่อดีตพรรคอนาคตใหม่ชนะเลือกตั้งแต่ในบางเขตก็ไม่ได้ชนะในจังหวัดอย่างเช่นพระนครศรีอยุธยาแต่ก็น่าแปลกใจที่พระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดของเพื่อไทยแต่เพื่อไทยก็ไม่ได้ส่งลง
ในขณะที่เจ้าของเก้าอี้การเมืองท้องถิ่นที่มากที่สุดอย่างเพื่อไทย รอบนี้กลับพบว่าแผ่วลงหรือไม่? และในบางพื้นที่กลับไม่มีความชัดเจนจนทำให้เกิดความขัดแย้งภายใน เพื่อไทย ซึ่งชนะเลือกตั้ง สส. 136 เขต แต่ส่งลงท้องถิ่น 33 จังหวัด พบว่ามีจังหวัดที่ลงซ้ำกับคณะก้าวหน้าเพียง 18 จังหวัด ในขณะที่เป็นจังหวัดที่ไม่ชนกับคณะก้าวหน้า 39 จังหวัด ซึ่งก็น่าจะเป็นจังหวัดที่เพื่อไทยหมายมั่นปั้นมือ ซึ่งในบรรดาคนเหล่านี้จะเข้าวินกี่คนในฐานะแชมป์เก่าในภาคเหนือและภาคอีสานอย่างเพื่อไทย
ศึกเลือกตั้งท้องถิ่นของเพื่อไทยรอบนี้มีคู่เอกที่น่าจับตามองคือจังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นศึกระหว่าง เพื่อไทย-เพื่อไทย โดยมีนายบุญเลิศ อดีตนายก อบจ.หลายสมัยและอดีตก็เคยลงแข่งในนามของพรรคเพื่อไทยซึ่งมีนายจตุพรออกมาให้การสนับสนุน และนายพิชัย หรือ ก๊อง อดีต สว.สมัยปี 2551 – 2557 ซึ่งมีนายทักษิณสนับสนุนและถูกส่งลงในนามของเพื่อไทย
นายจตุพร อดีตแกนนำ นปช.ได้ออกมาพูดในทำนองว่า “พรรคเพื่อไทย ไม่มีความยุติธรรม หามาตรฐานทางการเมืองไม่เจอ การกล่าวหาใครให้เป็นอะไรนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของพรรคเป็นหลัก” นายจตุพรออกมาพูดเช่นนี้ ก็เพื่อสนับสนุนนายบุญเลิศ เนื่องจากนายบุญเลิศถูกพรรคเพื่อไทยทอดทิ้งให้ติดคุกหลังจากประกาศเจตนารมณ์ไม่รับร่าง รธน.’60 ตามแนวทางของพรรค และพรรคเลือกเอาคนใหม่มาลงสมัคร นายก อบจ. เชียงใหม่แทน
ศึกเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ ก็อาจมีคนตั้งคำถามถึงความขัดแย้งว่าเป็นจริงหรือไม่? และเหตุใดคนในพรรคจึงออกมาสนับสนุนคนละคนกับนายทักษิณ หรือคราวนี้เพื่อไทยพรรคกำลังแตกออกกันจริงๆ เพราะถ้ามองเข้าไปในพรรคก็จะเห็นได้ว่านักการเมืองคนสำคัญๆ ของพรรคหลายคนเริ่มเอาใจออกห่าง
หรือในกรณีของคุณหญิงสุดารัตน์ที่ลาออกจากพรรคโดยไม่เหลือเยื่อใยใดๆ ไว้เลย แต่ก็ยังน่าสงสัยอยู่ว่าการลาออกในครั้งนี้คือการลาออกตามหมากการเมืองของใครหรือไม่? หรือการออกครั้งนี้เกิดจากมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ไม่ลงรอยกันจริงๆ การประกาศลาออกจากพรรคของคุณหญิงสุดารัตน์ อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย? ที่ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคแม้แต่สมาชิกพรรคก็ไม่เหลือไว้ดูต่างหน้า และยุติความสัมพันธ์อันยาวนานกว่า 30 ปี ก็เพราะถูกบีบจากสถานการณ์ต่างๆ หรือไม่?
อย่างไรก็ตาม การประกาศลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์จะส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไปหรือไม่? เนื่องจากคุณหญิงสุดารัตน์ถือว่าเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของพรรค การที่ลาออกเช่นนี้คงจะทำให้เพื่อไทยเสียคะแนนไปไม่น้อย ซึ่งการลาออกในครั้งนี้ของคุณหญิงสุดารัตน์ ก็มีความบังเอิญที่มีนักการเมืองมีชื่อหลายคนออกไปพร้อมกัน เช่น นายวัฒนา นายโภคินนายพงศกร และคาดว่าจะมีอีกหลายๆ คนพากันทยอยตามออกมาในรอบต่อๆ ไป
และอาจเป็นไปได้ตามที่มีคนวิเคราะห์ไว้ว่าอีกไม่นานคุณหญิงสุดารัตน์อาจจะตั้งพรรคการเมืองของตัวเองหรือไม่?แต่ล่าสุด ได้มีการตั้งสถาบันสร้างไทย ซึ่งก็ไม่รู้มีเหตุผลใดในการตั้งสถาบันนี้ขึ้นมา แต่ชัดเจนว่าคงยังไม่ได้ว่างมือทางการเมืองแน่นอน จนล่าสุดมีการหลุดออกมาจากนายวัฒนาพูดว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนตั้งพรรคการเมืองใหม่อยู่
พรรคใหม่นี้จะเขามาเสริมสร้าง หรือจะกลายเป็นการตัดคะแนนพรรคเพื่อไทยที่มีพื้นฐานแฟนคลับกลุ่มเดียวกัน อาจต้องติดตามการหิ้วกระเป๋าออกมาจากพรรคของทั้งสส.และอดีตสส.กทม.หรืออาจมีสส.หรืออดีตสส.อีสานบางส่วนด้วยหรือไม่ อีกไม่นานคงรู้ คงต้องรอให้การตั้งพรรคใหม่เกิดขึ้นจริงเสียก่อน แต่ในอีกทางก็เป็นโอกาสดีที่พรรคเก่าแก่และมีโครงสร้างที่ใหญ่โตอย่างเพื่อไทยได้เขย่าตัวเองเพื่อหาจุดยืนใหม่ก่อนที่จะถูกพรรคหน้าใหม่ที่อุดมการณ์ใกล้เคียงกันแย่งฐานคะแนนไปเสียหมด
“กงเกวียนกำเกวียนตัวฆ่าเขาๆ ฆ่าตัว เมื่อท่านฆ่างันเหลียงบุนทิวแลนายด่านห้าตำบลเสีย ใครมาทวงศีรษะแก่ท่านบ้าง ครั้งนี้ท่านเสียทีแก่ข้าศึกถึงแก่ความตายแล้ว ท่านมาร้องทวงศีรษะแก่ใครเล่า”
หลวงจีนเภาเจ๋ง สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี