เมื่อสองสามอาทิตย์มานี้ ผมเองได้รับเชิญจากสถาบันวิชาการแห่งหนึ่งให้ไปพูดคุยเรื่องการแก้ไขปัญหาวิกฤติโลกด้วยปรัชญาของท่านมหาตมะ คานธี วีรบุรุษอินเดีย ผู้นำการปลดแอกชมพูทวีปจากอาณัติของเจ้าอาณานิคมอังกฤษ
ผมเองได้เริ่มต้นด้วยการเล่าว่า เราทั้งหลายต่างก็รู้กันดีว่า ดาวโลกของเรา ณ วันนี้ เต็มไปด้วยปัญหาต่างๆ นานา ซับซ้อน โยงใยกันอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนการถดถอยของประชาธิปไตย ด้วยการเพิ่มขยายของฝ่ายอำนาจนิยม ความเหลื่อมล้ำในสังคมการบ่อนทำลายกันด้วยการปล่อยข่าวลวง ข่าวร้ายและข่าวเท็จ ความสุดโต่งและการใช้ความรุนแรงอันสืบเนื่องมาจากชาติพันธุ์ และการนับถือศาสนา ไปจนถึงการดำรงชีวิตที่บ่อนทำลายความสมดุลของธรรมชาติแวดล้อม และภาวะโลกร้อนที่ตามมา
ทั้งหมดนี้ จัดได้ว่าเป็นฝีไม้ ฝีมือของมวลมนุษย์กันเองทั้งสิ้น
แต่อะไรเล่าคือสาเหตุที่แท้จริง? หรืออะไรเล่าคือต้นเหตุแห่งวิกฤติโลกทั้งปวง?
ผมได้ตั้งคำถามนี้บนเวที และก็มีคำตอบของผมไว้ว่า
แก่นแท้ของปัญหาวิกฤติโลกนั่นก็คือ ความล้มเหลวในเรื่องศีลธรรม (Morality) ในเมื่อมนุษย์เราขาดศีลธรรม เราก็ทำมิดีมิร้ายต่อกันและกัน แล้วก็ไปรังแก เอารัดเอาเปรียบธรรมชาติแวดล้อม รวมทั้งสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อย่างไม่แยแส และไม่คำนึงถึงหลักการอยู่ร่วมกันและพึ่งพากัน เพื่อจะบำรุงรักษาความสมดุล และก้าวไปข้างหน้ากันได้อย่างยั่งยืน
กล่าวคือ เราจะต้องอยู่กันด้วยธรรม ไม่เบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบกัน ทั้งระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ทั้งระหว่างมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตอื่น ทั้งสัตว์และมวลไม้ น้ำ อากาศ และดิน
จัดได้ว่า คำว่า ธรรม กับคำว่า ธรรมชาติ เป็นเรื่องเดียวกัน คือความพอดี ด้วยความเคารพต่อกัน และด้วยความจริงจังและจริงใจต่อกัน
ธรรม คือความเป็นจริง และฉะนั้น เราต้องอยู่กับความจริง กับความรู้แห่งความเป็นจริง
ท่านมหาตมะ คานธี เป็นรัฐบุรุษ ถือเป็นบุคคลระดับโลก เป็นที่เคารพนับถือ มิใช่เพราะเพียงแค่วีรกรรมที่ปลดแอกชมพูทวีปจากการยึดครอง และครอบงำของอังกฤษเท่านั้น หากแต่ท่านได้กระทำตนให้เป็นแบบอย่างแก่มวลมนุษยชาติอีกด้วย นั่นคือ การอยู่กับความจริง (Truth) อยู่กับข้อเท็จจริง
เมื่ออยู่ได้เช่นนั้น ความถูกต้องชอบธรรมก็เกิดขึ้น และเมื่อเป็นเช่นนั้นความไว้เนื้อเชื่อใจ ความน่าเชื่อถือ (Trust) ก็ตามมา นอกจากนั้น เมื่อจะทำการอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ก็กระทำด้วยสันติวิธีไม่ใช้ความแข็งกร้าว ไม่ใช้ความรุนแรงใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเรียกว่าหลัก “อหิงสา” (Ahingsa-nonviolence) อันหมายถึงการพูดจา เสวนาต่อกันและกันเจรจากันเพื่อแก้ปัญหา หรือเพื่อใฝ่หาความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจ เพื่อฟันฝ่าอุปสรรค หรือข้อเห็นต่าง เป็นการใฝ่หาจุดร่วมเพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
โลก ณ วันนี้เต็มไปด้วยการโกหกพกลม การพูดจริงครึ่งเดียว การพูดครึ่งจริงครึ่งเท็จ การบิดเบือนให้ร้ายป้ายสีกัน การพูดแบบเอาดีเข้าตัว หรือเอาแต่ได้ ซึ่งการนี้มักจะเกิดขึ้น และแพร่หลายอยู่ในวงการผู้มีอำนาจ หรือผู้ใช้อำนาจรัฐ ที่มักอ้างว่าได้รับอำนาจมาจากประชาชน ใช้อำนาจเพื่อประชาชน แต่ทั้งหมดทั้งปวง กลับเป็นการพูดปดมดเท็จ อย่างไร้ยางอาย ไร้ศีลธรรม
ในแวดวงธุรกิจก็ไม่ยิ่งหย่อน เต็มไปด้วยการกอบโกย การหากำไร เอารัดเอาเปรียบอย่างที่สุด จะลวงจะล่อ จะโฆษณาชวนเชื่ออย่างใดก็ได้ เพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์ให้ตัวเองมากที่สุด สังคมจะเป็นอย่างไร สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติจะเป็นอย่างไรก็ “ช่างมัน”
ความจริงไม่ปรากฏ ความไว้เนื้อเชื่อใจไม่ตามมา แต่ความโกรธแค้น เคียดแค้นก็เกิดขึ้น สังคมโลกก็เข้าขั้นวิกฤติ
ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอำนาจ เป็นนายทุน หรือแม้กระทั่งประชาชนทั่วไป ที่จะต้องหันกลับไปมองความจริง เพื่อที่เราจะได้ดำรงอยู่กับศีลและธรรม หรือในทางกลับกัน เราสามารถเริ่มต้นกันใหม่ที่ศีลและธรรม เพื่อเป็นหนทางให้เราได้เดินไปสู่ความจริงก็เป็นได้
เมื่อนั้น เราจะเชื่อถือซึ่งกันและกัน และขจัดปัญหาการไม่ไว้เนื้อเชื่อใจต่างๆ ออกไปจากกรอบชีวิตของกันและกัน ซึ่งจะเป็นการนำพาสังคมไปสู่ความสันติ ก้าวไปเป็นสังคมแห่งความสงบสุข ที่ทุกคนเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี