หลังจาก ฯพณฯพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อปี 2562 หลังจากนั้นไม่กี่วันได้มี รายการวิทยุที่คลื่น FM90.5 ของกรมการพลังงานทหาร สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ก็ได้จัดรายการที่เกี่ยวข้องกับพลเอกเปรม ใช้ชื่อรายการนี้ว่า “เรื่องเล่าของป๋าเปรม” ซึ่งรายการดังกล่าวจัดช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เวลาเที่ยงถึงสักเที่ยงครึ่ง
ทำให้ผมเองก็ได้มีเวลารับฟังมาอย่างต่อเนื่องผู้ดำเนินรายการได้หยิบยกอัตชีวประวัติ ของท่านมาพูดมาเล่า ที่ฟังแล้วชอบก็คือ พลเอกเปรมอยู่ในตำแหน่งทางการเมืองยาวนานสัก 9 ปีเศษๆ แต่กลับมีผลงานมากมาย ผู้จัดรายการคือ ดร.สุเมต สุวรรณพรหม ซึ่งเป็นเลือดเนื้อชาวใต้จาก จ.สงขลา ประกาศสืบสาน อุดมการณ์ “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ได้นำผลงานของพลเอกเปรมที่หลายสิ่งหลายอย่างที่คนทั่วไปไม่ค่อยจะได้รับรู้มาเผยแพร่
เช่น เมื่อครั้งที่เศรษฐกิจตกต่ำอย่างที่สุด รัฐบาลได้ออกมารณรงค์ให้คนไทย ประหยัด นิยมไทยใช้ของไทย เร่งรัดการส่งสินค้าออก เราคงจำเพลง เมดอินไทยแลนด์ ของคาราบาว ออกมาสนับสนุนนโยบายรัฐบาล จนทั้งเพลงทั้งรัฐบาลดังกระหึ่มกันไปเลยทีเดียว แต่ที่ชอบมากคือ ทางรายการได้ไปขยายความเรื่องนโยบายการออมการประหยัดตามนโยบายไม่ได้หมายถึงการประหยัดเงินอย่างที่เราอาจจะเข้าใจ แต่กลับกลายเป็นเรื่องผลักดันให้มี พระราชบัญญัติจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อให้ลูกจ้างทั้งภาครัฐวิสาหกิจและลูกจ้างภาคเอกชนนับล้านคน ออมเงินร่วมกับนายจ้าง เข้าไปสะสมและสมทบเข้าไปอยู่ในกองทุน แล้วให้บริษัทจัดการกองทุนฯ นำเงินเข้าไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จนถึงปัจจุบัน
กองทุนดังกล่าวมีเงินมากถึง 1.7 ล้านล้านบาท ลงทุนอยู่ในแทบธุรกิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องเช่นนี้เป็นผลงานของรัฐบาลพลเอกเปรม ที่คนรุ่นหลังไม่ทราบ ทางผู้เล่าเรื่อง อย่าง ดร.สุเมต มักจะเปรียบเทียบให้เห็นถึงนโยบายรัฐบาลของป๋าเปรม กับรัฐบาลปัจจุบัน ว่ารัฐบาลป๋าจะเน้นให้ประชาชน มีส่วนร่วม และร่วมแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติร่วมกันด้วยนโยบายประหยัดทุกรูปแบบ ส่วนรัฐบาลปัจจุบันก็มีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป
ทางรายการได้หยิบยกบทบาทของป๋าเปรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มีผลงานบำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้ประชาชนมากมายเหลือเกิน ความพยายามของ ป๋าเปรม ในการทุ่มเทแก้ไขปัญหาความยากจนของ ประชาชน ถูกหยิบขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่าในรายการ จนผมเองก็เพิ่งทราบว่า การตัดสินใจทำโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก
ทำให้รัฐบาลของป๋าเปรม มีเงินไปพัฒนาชนบทแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างเป็นรูปธรรมจนสามารถเป็นรากฐานสำคัญของการแก้ปัญหาความยากจนเลยทีเดียว สุดท้ายการพัฒนาอุตสาหกรรม คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบัน
ใครจะไปคิดว่าการวางรากฐานให้ประเทศของเราเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโลก จะเริ่มต้นมาจากรัฐบาลพลเอกเปรมประกาศให้ปี 2530 เป็นปีส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศไทย จนเป็นที่ฮือฮากันทั่วเอเชีย และเป็นจุดเริ่มต้นให้ธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ผมเองก็ไม่เคย ทราบว่าพลเอกเปรม ท่านรักป่ารักต้นไม้ ถึงขนาดวางแผนแก้ปัญหากันอย่างจริงจัง สุดท้ายป๋าได้ใช้อำนาจประกาศปิดป่าที่ภาคอีสาน จนสามารถยุติการตัดไม้ทำลายป่าลงได้อย่างสิ้นเชิง
ล่าสุดได้มีการสัมภาษณ์ รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านดนตรี ผู้ที่มีความสนิทสนมกับป๋าเปรมโดยมีดนตรีเป็นสิ่งเชื่อมโยง เพียงอย่างเดียว ดร.สุกรี เล่าว่า คุยกับป๋าเปรมคุยกันเรื่องเดียวคือ ดนตรีไม่คุยเรื่องอื่นๆ ป๋าจะมีความสุขมาก เมื่อได้คุยเรื่องดนตรี แต่อย่างไรก็ตามถึงจะคุยเรื่องดนตรี ป๋าเปรมก็ยังห่วง..หวงบ้านเมือง..ท่านเคยพูดแล้วคนดนตรี..ต้องจดจำคือ “ดนตรีทำให้ผมมีความสุข แต่ผมจะสุขที่สุดถ้าดนตรีส่งผลดีต่อแผ่นดิน”
“เรื่องเล่าของป๋าเปรม” ดูจะเข้มข้นขึ้นตามลำดับแต่เมื่อฟังรายการ ช่วงปลายปี ดร.สุเมต สุวรรณพรหม ก็เริ่มส่งสัญญาณไม่ค่อยดีในทำนองที่ว่าถึงแม้จะมีแฟนรายการเยอะ แต่ผู้สนับสนุนที่เป็น สปอนเซอร์รายการน้อย จนเจ้าตัวต้องนำหนังสือ “รัฐบุรุษคู่แผ่นดิน” ที่ซื้อเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกให้ยาวนานที่สุด ต้องนำออกมาจำหน่ายให้แฟนรายการได้ร่วมกัน เป็นเจ้าของ เพื่อนำรายได้ไปต่ออายุรายการให้ถึงเดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งครบรอบสองปีอสัญกรรมป๋าเปรม ท่านใดที่จะนำหนังสือป๋าเปรมเข้าบ้านในช่วงปีใหม่นี้เพื่อความเป็นสิริมงคล และจะได้ให้รายการ “เรื่องเล่าของป๋าเปรม” ยังอยู่เล่าเรื่องป๋าให้เราฟังกันต่อไป ก็ติดต่อไปที่ไอดี ไลน์-โทร.0811103939
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี