อ่านหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม เล่าเรื่องคดีจำนำข้าวแล้วผมมีข้อมูลมาเสริม
1. หมอวรงค์โพสต์เรื่อง “ทำไมยกฟ้องจำนำข้าว” บอกว่า
“ผมได้รับโทรศัพท์จากนักข่าวสายเศรษฐกิจ ด้วยน้ำเสียงตกใจว่า ทำไมคดีจำนำข้าวที่องค์การคลังสินค้า(อคส.)ฟ้องทั้งอาญาและแพ่ง ศาลเพิ่งอ่านคำพิพากษา “ยกฟ้อง”ทั้งหมด
ผมเลยอธิบายไปว่า เป็นสิ่งที่ผมคาดไว้อยู่แล้ว และคิดว่า คดีพวกนี้ มีโอกาสสูงมากที่จะยกฟ้อง ผมเลยอธิบายให้น้องเขาเข้าใจภาพรวมก่อนว่า โครงการรับจำนำข้าวนี้ แบ่งเป็น 3 ขั้นตอน
ขั้นที่ 1 เราเรียกว่าต้นน้ำ คือชาวนานำข้าวเปลือกมาเข้าโครงการรับจำนำข้าวที่โรงสี ขั้นตอนนี้มีตัวละคร 3 ส่วนคือ ชาวนา โรงสี และเจ้าหน้าที่รัฐที่ส่งมานั่งประจำ (จะเป็นอคส.หรืออ.ต.ก. แล้วแต่แบ่งกันรับผิดชอบ) ขั้นตอนนี้ส่วนใหญ่ชาวนาถูกโกงโกงตาชั่ง โกงความชื้น โกงสิ่งเจือปน
ขั้นตอนที่ 2 เราเรียกว่ากลางน้ำ นั่นคือเอาข้าวเปลือกที่โรงสีรับไว้ มาสีเป็นข้าวสาร และส่งมาเก็บในคลังกลางที่รัฐบาลเช่า ขั้นตอนนี้มีตัวละคร4 ส่วนคือ
2.1โรงสี จะสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารมาส่งคลัง
2.2 เซอร์เวย์เยอร์ จะมีหน้าที่ตรวจคุณภาพข้าว ชนิดข้าว ว่าถูกต้องไหม คุณภาพดีไหม แล้วนำข้าวสารเข้าเก็บในคลัง
2.3 เจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลคลัง จะเป็นอคส.หรืออ.ต.ก.แล้วแต่การแบ่งงาน
2.4 เจ้าของคลังที่ให้รัฐบาลเช่า
ผมบอกน้องนักข่าวไปว่า ในขั้นตอนนี้ ทั้งสี่ฝ่ายสมรู้ร่วมกันทุจริต เราจึงเห็นภาพการซุกข้าวสารเสื่อม ข้าวสารเหลือง หรือซุกนั่งร้าน โดยมีข้าวสารคุณภาพดีมาปิดไว้ ที่สำคัญคือ รัฐบาลในสมัยคุณยิ่งลักษณ์ก็ไม่สนใจที่จะจัดการปัญหาเหล่านี้ด้วย
ขั้นตอนที่ 3 เราเรียกว่าปลายน้ำ เป็นขั้นตอนที่รัฐบาล จะเป็นผู้ขายข้าวสาร เช่น จีทูจี เป็นต้น ขั้นตอนนี้ตัวละครที่เกี่ยวข้องจึงเป็นฝ่ายการเมือง ทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี อธิบดีและข้าราชการระดับสูง บริษัทค้าข้าว เช่น เสี่ยเปี๋ยงและเครือข่าย
ที่ผ่านมา พวกเรานักการเมือง ตรวจสอบในขั้นตอนที่ 3 คือปลายน้ำ ซึ่งศาลอาญาคดีนักการเมืองตัดสินไปแล้ว และจำคุกกันถ้วนหน้า รวมทั้งต้องจ่ายค่าปรับ และฟ้องทางแพ่งยึดทรัพย์กันแล้ว คดีในขั้นตอนนี้ไม่ค่อยพลาดเพราะเป็นการตรวจสอบจากฝ่ายการเมือง ผ่านองค์กรอิสระคือป.ป.ช.
ส่วนที่น้องนักข่าวเขาโทรมาและตกใจว่า ทำไมยกฟ้องมากมาย เพราะขั้นตอนที่ 2 คือ กลางน้ำนั้น ส่วนใหญ่ทั้งสี่ฝ่าย สมรู้ร่วมกันทุจริต การเขียนสำนวนจึงอ่อนมาก เพราะคนที่ต้องให้ปากคำ คือเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผลประโยชน์ร่วมกับเขา การให้ปากคำที่ผูกมัดจึงไม่รัดกุม ทำให้ง่ายต่อการยกฟ้อง และผมเชื่อว่าคดีส่วนใหญ่ก็จะยกฟ้อง
อย่างเช่น ถ้าจำกันได้ มีนั่งร้านซุกในกองข้าว ข้าวสารหาย 98,500 กระสอบ ที่โกดังแห่งหนึ่งในจ.ปทุมธานี แต่จับผู้ต้องหามาสองคน พร้อมรถกระบะ 1 คัน ในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ที่คนสองคน จะขนข้าวสารร่วมแสนกระสอบ และต้องตั้งนั่งร้าน มีข้าวสารมาปิดด้วย สุดท้ายศาลก็ยกฟ้อง
นี่คือเวรกรรมของประเทศที่มีกลุ่มนักการเมืองชั่ว เมื่อมาเจอกับกลุ่มข้าราชการเลว ประเทศชาติก็ล่มจม ปัญหาของประเทศอยู่ตรงนี้ ต้องแก้ให้ตรงจุด ไม่ใช่เรื่องการปฏิรูปสถาบัน”
2. หนี้จำนำข้าวรอการชดเชย
โครงการจำนำข้าวมีการโกงกันจริงๆ และทิ้งภาระหนี้สินไว้ให้รัฐบาลและประชาชนช่วยกันใช้หนี้จริงๆ
ยอดหนี้รอการชดเชย อันเกิดจากโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลต่างๆ มีดังนี้
โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2556/2557 จำนวน 50,388 ล้านบาท (แหล่งเงินจาก ธ.ก.ส.)+ 34,777 ล้านบาท (แหล่งเงินจากสถาบันการเงินอื่น)
โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2555/2556 รอบที่ 1 จำนวน 11,237 ล้านบาท (แหล่งเงินจากสถาบันการเงินอื่น)
โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2555/2556 รอบที่ 2 จำนวน 10,830 ล้านบาท (แหล่งเงินจาก ธ.ก.ส.) + 106,123 ล้านบาท (แหล่งเงินจากสถาบันการเงินอื่น)
โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 จำนวน 13,927 ล้านบาท (แหล่งเงินจาก ธ.ก.ส.)+ 58,673 ล้านบาท (แหล่งเงินจากสถาบันการเงินอื่น)
โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2554/2555 จำนวน 7,214 ล้านบาท (แหล่งเงินจาก ธ.ก.ส.)+ 23,576 ล้านบาท (แหล่งเงินจากสถาบันการเงินอื่น)
รวมเป็นหนี้ที่รอให้รัฐบาลชำระคืนเป็นเงิน 316,745 ล้านบาท!!!!
นี่คือตัวเลขภาระหนี้รอการชดเชยจากรัฐบาล หลังจากที่ได้ระบายข้าวหมดไปเรียบร้อยแล้ว นำเงินค่าข้าวมาหักหนี้ และรัฐบาลได้ทยอยจัดสรรเงินภาษีประชาชนมาช่วยชำระหนี้ไปบางส่วนแล้ว
นี่คือโครงการจำนำข้าวยุค “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ”
นอกจากนี้ ยังมีภาระหนี้จากโครงการจำนำข้าวยุครัฐบาลนอมินี ทิ้งไว้อีก คือ โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 หนี้รอชดเชยจำนวน 16,905 ล้านบาท (แหล่งเงินจาก ธ.ก.ส.) และ โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2551/2552 หนี้รอชดเชยจำนวน 15,013 ล้านบาท (แหล่งเงินจากสถาบันการเงินอื่น) รวม 31,918 ล้านบาท
ข้อมูลนี้ ล่าสุด มีที่มาจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ทำรายงานการสอบทานข้อมูลทางการเงินระหว่างกาลโดยผู้สอบบัญชีและงบการเงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำหรับงวดสามเดือนและหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563
3. ลองคิดดู... ถ้ารัฐบาลไทยไม่ต้องชดเชยหนี้จำนำข้าว 316,745 ล้านบาท เงินจำนวนนี้จะสามารถทำประโยชน์ได้มากมายมหาศาล
เอาไปซื้อวัคซีนแจกประชากรกว่า 600 ล้านคน ทั้งอาเซียนเลยก็ยังได้
เอาไปติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ทั่วภาคเหนือและภาคอีสานเลยก็ยังได้
หรือจะเอามาทำโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย เชียงของ (85,000 ล้านบาท) พ่วงไปกับโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่สอง อีก 7 โครงการ ระยะทาง 1,483 กม. (2.73 แสนล้านบาท) ได้แก่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, เด่นชัย-เชียงใหม่, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา และชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ จะได้เกือบเต็มรูปแบบ
หรือจะเอาไปลงทุนรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ - นครราชสีมา 179,412 ล้านบาท พ่วงขยายช่วงนครราชสีมา - หนองคาย 252,347 ล้านบาท ก็กู้มาเติมอีกเล็กน้อย
แต่ความจริง คือ รัฐบาลนี้และรัฐบาลต่อๆ ไปจะต้องเอาเงินภาษีของประชาชน มาชดเชยให้กับโครงการล้างผลาญนี้อีก 316,745 ล้านบาท (ดอกเบี้ยก็จะเดินไปเรื่อยๆ) !!!
4. เหลือเชื่อว่า ปัจจุบัน ยังมีคนคิดปกป้องเข้าข้างคนโกงจำนำข้าว โดยอ้างว่าไม่มีการโกง เป็นการกลั่นแกล้ง สร้างเรื่องใส่ร้าย โครงการจำนำข้าวไม่ได้เสียหายอะไรเลย ไม่ได้ขาดทุน ฯลฯ
เอาง่ายๆ ขนาดพรรคการเมืองที่คิดและทำโครงการนี้ ยังไม่กล้าเอาโครงการมาหาเสียงอีก เพราะรู้อยู่แก่ใจว่ามันมีการโกงกินกันโจ๋งครึ่มขนาดไหน สร้างความเสียหายแค่ไหน ทิ้งภาระไว้มหาศาลขนาดไหน
การที่รัฐบาลปัจจุบันใช้นโยบายช่วยชาวนาด้วยวิธีการอื่น อาทิ ประกันรายได้ ที่รัฐบาลไม่ต้องเอาเงินไปรับซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งยวด
5. คดีทุจริตข้าวจีทูจีมีคำพิพากษาปรากฏชัดเจน ตีแผ่กระบวนการทุจริต อาศัยอำนาจรัฐหากินจากโครงการที่เอาการช่วยเหลือชาวนามาบังหน้าเลวร้ายอย่างที่สุด
ล่าสุด คดีข้าวจีทูจีลอตสอง ยังอยู่ในชั้น ป.ป.ช. ทราบว่าแจ้งข้อกล่าวหาอดีตนายกฯ ถึงสองคน รวมทั้งเจ๊แดงก็ไม่รอด ขณะนี้ไม่ทราบว่าคดีไปถึงไหนแล้ว จวนจะชี้มูลความผิดหรือยัง?
กรณีการเรียกค่าเสียหายจากนักการเมืองและข้าราชการทุจริตก็เช่นกัน ติดตามเรียกเงินคืนแผ่นดินกันได้บ้างหรือไม่? ทั้งกรณีอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร3.5 หมื่นล้านบาท และบรรดาจำเลยคดีข้าวจีทูจีที่ศาลพิพากษาให้จ่ายค่าเสียหายทั้งหลาย?
กรณีรับจำนำมันสำปะหลัง ปี2554/2555 และ 2555/2556 ทิ้งภาระหนี้รอการชดเชยไว้ รวม 13,000 ล้านบาทยังมีคดีทุจริตมันสำปะหลังจีทูจี สัญญามูลค่ากว่าสามหมื่นล้านบาท ขณะนี้ ก็ยังไม่ทราบว่าคดีไปถึงไหนแล้ว?
ทั้งหมดนี้ ฝากฝ่ายค้านช่วยติดตามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี