อย่าปล่อยให้คนคนเดียว หรือกลุ่มเดียว ทำเสื่อมเสียองค์กรที่มีเกียรติศักดิ์ศรียาวนาน
1. เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.2563) นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานการประชุม ก.อ.วาระพิเศษ กรณีที่มีหนังสือสอบถามเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการอัยการ และอัยการอาวุโสถึงนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ประเด็นเกี่ยวกับการให้นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นอัยการอาวุโส เเละนายปรเมศวร์อินทรชุมนุม อดีตอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ ทั้งๆ ที่ มีข่าวว่าถูกสอบสวนอยู่
นายอรรถพลเปิดเผยว่า ได้รับคำชี้แจงจากสำนักงาน ก.อ. ซึ่งเลขาฯ ที่ประชุมได้ชี้เเจงว่า หนังสือดังกล่าวไม่ได้ให้ทบทวนการแต่งตั้ง โดยทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือขอข้อเท็จจริงเพิ่มเติมกรณีการขอโปรดเกล้าฯ นายเนตร นาคสุข และนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ที่จะต้องชี้แจงให้ข้อมูลดังกล่าวซึ่งในการประชุมนี้ อสส.ที่เข้าร่วมประชุมด้วย ได้บอกในที่ประชุมว่าเป็นหน้าที่ของท่านโดยตรงที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อทางเลขาธิการ ครม.
“นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุดชี้แจงเรื่องนี้ว่าเป็นเพียงการขอข้อมูลเพิ่มเติม อัยการสูงสุดจึงบอกว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของท่านเองโดยตรง ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรตนตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นหนังสือว่าจะเกี่ยวข้องกับ ก.อ.อย่างไร เพราะถ้าไม่ใช่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ก.อ. ทาง ก.อ.คงไม่เข้าไปก้าวล่วงในอำนาจของฝ่ายบริหารของอัยการสูงสุด” ประธาน กอ.กล่าว
สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส จากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงชุดนายวิชา มหาคุณ? นายอรรถพลกล่าวว่า มีการตั้งกรรมการสอบสวนขั้นต้นนายเนตร นาคสุข ไปแล้ว ส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้พิจารณา
นักข่าวถามว่า ก.อ.สามารถแต่งตั้งนายเนตร นาคสุข เป็นอัยการอาวุโสได้หรือไม่ เพราะอยู่ระหว่างถูกตั้งกรรมการตรวจสอบ? นายอรรถพล กล่าวว่า ยังไม่ได้พิจารณาถึงระเบียบในเรื่องนี้ และหนังสือดังกล่าวไม่ได้มีการส่งรายชื่อที่โปรดเกล้าฯ คืนมาแต่อย่างใด จึงไม่ใช่เรื่องที่ ก.อ.จะพิจารณาเรื่องนี้ได้ ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนนายเนตรยังตอบไม่ได้ เพราะคณะกรรมการสอบสวนเป็นอีกชุดกำลังสอบสวนอยู่ โดยปกติใช้กรอบระยะเวลา 30 วัน แต่ตอนนี้ต่อมาสองครั้งแล้ว ส่วนเหตุผลในการต่อไม่สามารถเปิดเผยได้
2. ฟังดู เหมือนกับผู้มีอำนาจในสำนักงานอัยการสูงสุด จะไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร?
การขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด (ข้าราชการอัยการชั้น 7) ดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส สำนักงานคดีอาญาพระโขนง ก็ยังคงยืนยันตามเดิม กระนั้นหรือ?
นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด พร้อมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวหรือไม่?
จะรับผิดชอบไหวมั้ย?
นายเนตร นาคสุข คนที่สั่งไม่ฟ้องคดีบอส ทำผลงานเข้าตาขนาดนั้นเลยเชียวหรือ?
3. นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ก้าวกระโดดจากตำแหน่งอธิบดีคดีพิเศษ ขึ้นมาเป็นอัยการสูงสุด จนถึงบัดนี้ ผลงานการบริหารจัดการทำให้องค์กรอัยการสูงสุดมีความสง่างามมากขึ้น หรือตกต่ำลง?
มีผลงานคดีเป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญของสังคม หรือสาปแช่ง?
แม้แต่คดีบอส ที่สังคมประณามกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่าอัยการสั่งไม่ฟ้องได้อย่างไร? กระทั่งนายกรัฐมนตรีตั้งคณะทำงานตรวจสอบ จนนำมาสู่การสั่งฟ้องคดีใหม่ และดำเนินการเอาผิดกับอัยการที่เกี่ยวข้อง แต่จนบัดนี้ อัยการสูงสุดยังยืนยันจะขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด (ข้าราชการอัยการชั้น 7) ดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส อีกหรือ?
จะบังอาจเกินไปหน่อยมั้ย?
4. ประการสำคัญ...
จนบัดนี้ กระบวนการสอบสวนเอาผิดกับอัยการที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งเต้นและสั่งคดีบอส ก็ยังดูเหมือนจะไปไม่ถึงไหน?
ยังสอบสวนขั้นต้นนายเนตร
ยังไม่ได้พิจารณาบุคคลอื่น
ต่ออายุการสอบสวนแล้วต่ออีก
ราวจงใจเย้ยหยันในศรัทธาของประชาชนที่ต้องการเห็นการดำเนินการเอาผิดอย่างจริงจัง ไม่ปกป้องช่วยเหลือพวกเดียวกันเอง
อย่าลืมว่า ในรายงานชุด อ.วิชา ฉบับเต็มนั้น เปิดเผยข้อมูลรายละเอียด ถึงขนาดว่ามีอัยการบางคน (นามสมมุติ ช.) ไปทำตัวราวกับล็อบบี้ยิสต์ วิ่งเต้นคดีเสียเอง แถมอ้างว่าตนสังกัดอยู่คดีพิเศษ(ขณะนั้น)ซึ่งพฤติกรรมของคนเป็นอัยการแล้วไปวิ่งเต้นคดีที่ตนเองไม่ได้รับผิดชอบเป็นสิ่งที่สามารถทำได้หรือไม่? ถ้าเป็นความผิด แล้วทำไมจึงยังไม่มีการสอบสวนเอาผิดทางวินัยและอาญากับอัยการคนที่ว่านั้น?
หรือแม้แต่กรณีนายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ เข้ายื่นหนังสือต่อป.ป.ช. ว่าข้าราชการอัยการได้รับเงินโอนเข้าบัญชีโดยตรงจากเสี่ย ก.ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ วิคตอเรียซีเครท และในการสอบสวนในชั้น ป.ป.ช.ก็มีการให้ข้อมูลเส้นทางการเงิน พบว่า มีอัยการบางคนได้รับเงินนับร้อยล้านบาท เรื่องแบบนี้ ก็ยังไม่ได้ยินว่า สถาบันอัยการจะสอบสวนหาตัวอัยการนอกคอกแบบนั้นอย่างไร
หรือแม้แต่กรณีสั่งไม่อุทธรณ์คดีฟอกเงินพานทองแท้ จนป่านนี้ ก็ยังไม่มีคำชี้แจงจากปาก อสส.เลย
ขณะเดียวกัน บรรดาคดีเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลเงินตราอย่างเช่น เจ้าสัวธรรมกาย ที่มีข่าวว่าอัยการสั่งไม่ฟ้อง ก็ยังไม่มีคำชี้แจงรายละเอียดจาก อสส.ออกมาแต่อย่างใดเลย
ล้างบ้านเถอะอัยการ ก่อนฟ้าจะผ่า ประชาชนจะลุกฮือ เพราะวิกฤติศรัทธา
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี