ทันทีที่มีกระแสข่าวว่า กรณีข้อพิพาทเหมืองทองคำ ระหว่างบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด บริษัทสัญชาติออสเตรเลีย กับรัฐบาลไทย ที่อยู่ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ผลการเจรจาล่าสุด ค่อนข้างมีความชัดเจนว่า จะจบลงด้วยดี มีแนวโน้มการถอนฟ้องรัฐบาลไทย และกลับมาลงทุนในไทยอีกครั้ง แต่จะต้องดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ พ.ศ. 2560 อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันมิให้มีปัญหาอีก
ยังไม่ทันมีการถอนฟ้องจริงๆ
ปรากฏว่า มีคนบางกลุ่มดิ้นแด่วๆ ราวกับจะเป็นจะตายลงเสียให้ได้
คนกลุ่มนี้ เป็นพวกเดียวกับที่เคยหยิบเรื่องค่าโง่เหมืองทองมาโจมตีนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หยิบเอามารำพันว่าเสียดายเงินค่าโง่หลายหมื่นล้านบาท ถึงขนาดจะให้นายกฯ รับผิดชอบค่าโง่เอาเอง
คนพวกนี้ ไม่เคยพูดถึงปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่เกิดกับชาวบ้านก่อนหน้ารัฐบาล คสช.
คนพวกนี้ สมัยมีอำนาจ ก็คือพวกรัฐบาลที่เพิกเฉย ไม่สนใจไยดีปัญหาที่กองทับชีวิตชาวบ้านอยู่เลย
แต่พออยากจะแย่งชิงอำนาจ อยากจะแซะรัฐบาล ก็ดีดดิ้นหยิบค่าโง่เหมืองทองมาตามถล่ม ราวกับเชียร์เหมืองทองให้ชนะคดีไวๆ ก็ไม่ปาน
1. จากข่าวข้างต้น ล่าสุด นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่าขณะนี้กระบวนการพิจารณายังอยู่ในขั้นตอนของคณะอนุญาโตตุลาการ ส่วนการที่บริษัทคิงส์เกตฯจะถอนฟ้องในช่วงเดือนมกราคมหรือไม่นั้น “ยังต้องรอความชัดเจน” แต่ยอมรับว่า “มีท่าทีที่ดีขึ้น” เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดการเจรจากันมาตั้งแต่ต้นเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกันให้ได้
“หากคิงส์เกตถอนฟ้องรัฐบาลไทยจริง และบริษัทสามารถทำตามเงื่อนไขภายใต้ พ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ได้ บริษัทอัคราในฐานะบริษัทลูกของคิงส์เกตก็สามารถยื่นขอประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่ทองคำและยื่นขออาชญาบัตรสำรวจแร่ทองคำได้” นายวิษณุกล่าว
2. การที่บริษัทอัคราฯ จะสามารถลงทุนเหมืองแร่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับใหม่ ที่มีการวางระบบและมาตรฐานการกำกับดูแลรัดกุมขึ้นกว่าฉบับเก่า
หากสงสัยว่า จะมีเงื่อนไขผลประโยชน์แลกเปลี่ยนอะไรกัน ก็สามารถจะตรวจสอบหรือดำเนินคดีเป็นเรื่องๆ ไปได้ หากเกิดกรณีสงสัยในเรื่องใดๆ ก็ตามในอนาคตต่อไป
3. ถ้าย้อนกลับไปวันที่มีการใช้มาตรา 44 ได้แก่ คำสั่งที่ 72/2559 เรื่องการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ให้ระงับการอนุญาตและการทำเหมืองแร่ทองคำทั้งหมดในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว รวมทั้งกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดและจัดให้มีมาตรการเยียวยา แก้ไขผลกระทบด้านต่างๆ สืบเนื่องจากประชาชนมีการร้องเรียนและคัดค้านการทำเหมืองแร่ทองคำมาเป็นเวลานานว่า อาจทำให้สิ่งแวดล้อมปนเปื้อน เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และอาจส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยชุมชนในระยะยาว
จะเห็นได้ว่า มีเจตนาชัดเจนว่า ไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้งใคร แต่ต้องการปกป้องผลกระทบต่อชุมชนชาวบ้านและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ก็เคยให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ยืนยันว่า รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการ แต่ไม่ได้หมายความให้เขาเลิก เพียงแต่หยุดต่อใบอนุญาตไปก่อน เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจน ฉะนั้น หากเราทำเพื่อประชาชนมันควรเสี่ยงหรือไม่ ตนต้องคำนึงถึงประชาชนหรือไม่ตนไม่ได้ประโยชน์จากการเปิดหรือปิดอะไรเลย และเหมืองนี้เกิดมาก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามา ในชั้น ป.ป.ช. ก็มีเรื่องนี้อยู่ทั้งเรื่องภาษีการเงินกับบริษัทเหมืองแร่นี้
4. แน่นอน เรื่องคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปแล้วก็ต้องดำเนินการต่อไป คดีที่อยู่ในชั้น ป.ป.ช. ก็ต้องดำเนินการต่อไป ตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
อาทิ คดีที่ข้าราชการระดับอดีตอธิบดีและพวกถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปแล้ว ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบเอื้อประโยชน์แก่เอกชนเหมืองทอง และที่สำคัญ กรณีนี้ เอกชนถูกชี้มูลความผิดฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดด้วย ขณะนี้อยู่ในชั้นอัยการ
คดีสินบนข้ามชาติ แลกผลประโยชน์สัมปทานเหมือง กรณีนี้ ป.ป.ช.กำลังไต่สวน ล่าสุด เผยว่าพบหลักฐานอีเมล ส่งเงินพักที่ฮ่องกง สิงคโปร์ ระบุชื่อบุคคล อยู่ระหว่างการประสานขอหลักฐานยืนยันเพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง
ฯลฯ
ซึ่งน่าแปลกใจที่ฝ่ายค้านที่ออกมาขย่มรัฐบาลเรื่องนี้ กลับไม่เคยเอ่ยถึงคดีตรวจสอบพวกนี้เลยแม้แต่น้อยราวกับพยายามช่วยกลบเกลื่อนการกระทำความผิดของผู้เกี่ยวข้อง
5. เพราะฉะนั้น ถ้าหากยุติข้อพิพาทที่รัฐบาลไทยเป็นฝ่ายถูกเรียกค่าเสียหาย ก็ทำให้ประเทศชาติไม่ต้องมีความเสี่ยงที่จะต้องเสียเงินเสียทองอีกต่อไป ย่อมเป็นเรื่องที่น่ายินดี
ส่วนคนบางกลุ่มที่อยากจะเห็นไทยเสียค่าโง่ราวกับมีส่วนแบ่งค่าโง่กับเขาด้วยนั้น หากจะขาดใจตายไป ก็คงไม่สามารถขอรับการเยียวยาแต่อย่างใด
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี