เรื่องสัมปทานรถไฟฟ้า ถ้าไม่เอาการเมืองเข้ามาขัดขากัน จะง่ายกว่านี้เยอะ
1. ถ้าไม่ขยายสัมปทานสายสีเขียวได้มั้ย คำตอบคือได้ ปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปตามสัญญาที่มีอยู่ ณ วันนี้ บีทีเอสก็ต้องทำตามสัญญา กทม.ก็ต้องทำตามสัญญา
2. ระหว่างนี้ ค่าโดยสารในช่วงไข่แดงก็ต้องเป็นไปตามสัญญาเดิม และกทม.ก็จะต้องหาเงินมาจ่ายหนี้ราว 68,000 ล้านบาท ภายในปี 2572
3. พูดเท่ๆ ใครก็พูดได้ว่า ควรปล่อยจนหมดสัมปทาน แล้ว กทม.จะกำหนดค่าโดยสารถูกๆ ได้... แต่ต้องบอกด้วยว่า ระหว่างนี้ 9 ปี จะเอาเงินจากไหนมาให้ กทม. ถ้าให้รัฐบาลอุ้มมันจะเป็นธรรมกับคนต่างจังหวัดหรือไม่ จะถูกด่าว่าเอาใจคนกรุงเทพฯหรือไม่ ควรเอาเงินไปทำรางคู่ในต่างจังหวัดจะดีกว่าหรือไม่?
4. ที่ กทม.ประกาศค่าโดยสารสูงสุด 104 ล่าสุดนั้น คือตลอดสาย
ถ้าเฉพาะในส่วนไข่แดง คือ ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ค่าโดยสารยังเหมือนเดิม (กทม.ลดราคาแรกเข้าให้)บีทีเอสไม่ได้ขยับค่าโดยสาร และบีทีเอสจะขึ้นค่าโดยสารตามอำเภอใจไม่ได้อยู่แล้ว ต้องเป็นไปตามสัญญาเดิม
แต่เพราะ กทม.ต้องคิดค่าโดยสารส่วนต่อขยาย เพื่อให้มีรายได้ไปทยอยจ่ายหนี้ในข้อ 2 บ้าง ค่าจ้างเดินรถ กทม.ก็ค้างเขาอยู่เป็นหมื่นล้าน ค่าโดยสารรวมตลอดสายจึงขยับขึ้น
5. ถ้าปล่อยจนไข่แดงหมดสัมปทานปี 2572 (ที่เขาลงทุน แต่หมดสัมปทานจะตกเป็นของ กทม. คือ ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน)บีทีเอสเขาจะเดือดร้อนอะไร เพราะหลังปี2572 เขาก็ยังมีสัญญารับจ้างเดินรถต่อไปถึงปี 2585 โน่น ทั้งส่วนที่เป็นไข่แดงตรงกลาง และส่วนต่อขยายด้วย
6. ที่เดือดร้อนคือผู้โดยสาร เพราะค่าโดยสารต้องเป็นไปตามสัญญาเดิม เว้นแต่รัฐบาลจะเอาเงินมาอุ้ม แล้วไอ้ที่ว่าตลอดสายไม่เกิน 104 บาท นั่นคือ กทม.ลดค่าโดยสารส่วนต่อขยายเฉพาะช่วงโควิด (จากปกติ158 บาท) ซึ่ง กทม. คาดว่า จะขาดทุนจากส่วนต่อขยายประมาณ ปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท
7. ทั้งหมดนี้ รัฐบาลไม่รู้มาก่อนเหรอว่ามันจะมีปัญหา? ก็เพราะรู้ว่ามันจะมีปัญหารุงรัง รัฐบาลถึงได้เร่งให้ไปเจรจากับผู้ถือสัมปทานอยู่
รัฐบาลต้องการลดค่าโดยสารเพื่อประชาชน ถึงให้ไปเจรจากับเอกชนที่เขาถือสัญญาสัมปทานอยู่
จนได้ผลออกมาว่า ถ้าขยายสัมปทานจากปี 2572-2602 บีทีเอสจะคิดค่าโดยสารสีเขียว (ทั้งไข่แดงและส่วนต่อขยาย) 15-65 บาทเท่านั้น และบีทีเอสยังจะต้องแบ่งรายได้จากค่าโดยสารให้ กทม.ในช่วง 30 ปี เป็นเงินกว่า2 แสนล้านบาท (ถ้าอยากให้ค่าโดยสารถูกลงไปอีกก็ปรับลดส่วนนี้ได้แน่) นอกจากนี้ บีทีเอสยังจะต้องจ่ายหนี้แทน กทม.(ช่วงปี 2562-72)ราว 68,000 ล้านบาทอีกด้วย นี่คือผลของการดำเนินการเจรจากว่า 2 ปี
8. แนวทางนั้น กระทรวงคมนาคมไม่เคยคัดค้านเลย
รัฐมนตรีเคยมีหนังสือ 3 ฉบับ ได้แก่ หนังสือด่วนที่สุด คค (คปร) 0208/321ลงวันที่ 24 ต.ค.2562, หนังสือด่วนที่สุดที่คค (คปร) 0208/97 ลงวันที่ 30 มี.ค.2563 และหนังสือด่วนที่สุด ที่ คค (คปร)0208/199 ลงวันที่ 9 มิ.ย.2563 ไม่มีความเห็นในเชิง “คัดค้าน”การขยายสัมปทานสายสีเขียวแต่อย่างใดเลย
9. ฝ่ายการเมืองคมนาคมเพิ่งมาแสดงท่าทีคัดค้านหลังจากที่กลุ่มบีทีเอสยื่นฟ้องศาลปกครอง กรณีเปลี่ยนหลักเกณฑ์การคัดเลือกประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม หลังเปิดขายซองไปแล้ว อาจก่อให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม เพราะผู้ชนะโครงการแสนกว่าล้านนั้น อาจไม่ใช่ผู้เสนอผลตอบแทนให้รัฐสูงสุด
หลังถูกขัดคอ ฝ่ายการเมืองคมนาคม ค่อยมีท่าทีขัดขวาง “ผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว” จึงเลื่อนมาเรื่อยๆ และเกิดปัญหาที่ไม่อยากให้เกิดในปัจจุบัน
10. สรุปว่า ราคาค่าโดยสารถูก ใครก็อยากได้
สายสีส้ม... ใครอยากได้สัมปทาน ก็ควรเสนอผลตอบแทนให้รัฐสูงที่สุดเพื่อให้ชนะอย่างใสสะอาด แข่งขันอย่างเปิดเผย ภายใต้กติกาเป็นธรรม ตรงไปตรงมา ส่วนราคาค่าโดยสารกำหนดอยู่ในทีโออาร์อยู่แล้ว
สายสีเขียว... ถ้าไม่อยากขยายสัมปทาน แต่ยังอยากให้ค่าโดยสารต่ำกว่านี้ก็ต้องหาเงินมาให้กทม.ชำระหนี้ โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี
ไม่ใช่ว่า พอ กทม.จะขยายสัมปทานสีเขียวเพื่อลดค่าโดยสารและล้างภาระหนี้ก็ขวาง, พอจะขยับเก็บค่าโดยสารบ้าง ก็ขวางเขาอีก, แถมรถไฟฟ้าสายสีส้มก็ยังจะเปลี่ยนกติกาการประมูลอีก
ยิ่งกว่านั้น โครงการเทอร์มินัลแปะ (North Expansion) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ฝ่ายการเมืองคมนาคมก็ยังจะดึงดันอีก ขัดขืนหนังสือเตือนป้องกันการทุจริตจาก ป.ป.ช.
จำได้ไหม ป.ป.ช.เคยเตือนโครงการจำนำข้าวแบบ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ว่าอย่างไร แล้วรัฐบาลยิ่งลักษณ์ขัดขืนดึงดันต่อไปจากนั้นประเทศชาติเสียหายขนาดไหน แล้วใครติดคุก ถูกยึดทรัพย์ ใครหนีคดีหัวซุกหัวซุนอย่างไร
เรื่องที่ควรทำ ไม่ทำ
เรื่องที่ไม่ควรทำ จะทำ
จะรอดูว่าใครจะติดคุกกันแน่
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี