“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา”แน่นด้วย ข้อมูลสาระ เพียบพร้อมด้วยข้อเท็จจริง ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขอเริ่มประเดิมเนื้อหา “บุคคลแนวหน้า” ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังกลับมาร้อนเร่าอีกครั้งทั้งในประเทศที่ว่าด้วยญัตติการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ “ทหารแก่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีอีก 10 ราย ตามมาตรา 151 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 หลังเทศกาล “วาเลนไทน์” ระหว่างวันที่ 16-20 กุมภาพันธ์ 2564...
nn ขณะที่การเมืองในภูมิภาคอาเซียนกับประเทศที่มีเขตรัฐสีมาติดต่อกับไทยอย่างเมียนมาที่ว่าด้วยการรัฐประหารรัฐบาลพลเรือนของ “นายอู วิน มินต์ ประธานาธิบดีประเทศเมียนมา” ที่มาจากการเลือกตั้ง โดยกองทัพ พร้อมกับมีการควบคุมตัวนักการเมืองคนสำคัญของ “พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี)” รวมทั้ง “ดอกไม้เหล็กแห่งเมียนมา – นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศ” โดยกองทัพประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี หลังเกิดความขัดแย้งทางการเมืองเรื่องการปฏิรูปกองทัพ และการโกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ (1 ก.พ.) ที่ผ่านมา...
nn ว่ากันว่าที่เมืองย่างกุ้ง, กรุงเนปิดอว์ ถูกตัดสัญญาณโทรทัศน์ โทรศัพท์ อินเตอร์เนต สิ้น ทว่าที่ ประเทศไทย แรงงานชาวเมียนมาจำนวนหนึ่งเดินทางไปที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา เขตยานนาวา เพื่อประท้วงการทำรัฐประหารรัฐบาลนางออง ซาน ซู จี ของกองทัพเมียนมา โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อสีแดง พร้อมชู 3 นิ้ว...
nn “กลุ่มเยาวชนปลดแอก และพรรคก้าวไกล” ออกแถลงการณ์ประณามการทำรัฐประหารในเมียนมา พร้อมเรียกร้องให้กลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว...“ไม้หน้าสาม” เห็นพี่น้องแรงงานชาวเมียนมาเคลื่อนไหวชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตแล้ว รู้สึก “ตระหนก” เหตุเพราะการแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19”ที่ถล่มสังคมไทยระลอกใหม่นี้ต้นตอแรกก็เป็นเหตุมาจากขบวนการค้ามนุษย์ที่ลักลอบขนแรงงานเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำงานในประเทศไทยโดยไม่ผ่านมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ซึ่งรัฐบาลทหารแก่ กระทรวงสาธารณสุข บุคลากรทางสาธารณสุขและทีมไทยแลนด์ต้องทุ่มเทสรรพกำลังทั้งแรงกายแรงใจจนสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ “เจ็บแล้ว.. จบ” อย่างทุกวันนี้อาจจะต้องพบกับปัญหาใหญ่อีกหากมีการแพร่เชื้อจากการชุมนุม “ประมาท การ์ดตก”รัฐบาลอย่ามองว่านี่คือเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยที่สามารถกระทำได้ แต่สมควรใช้มาตรการเข้มข้นในการดำเนินการโดยที่ “บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น”...
nn ต้องไม่ให้เกิด “ซูเปอร์สเปรดเดอร์ คลัสเตอร์ใหม่” เฉกเช่นกรณีของคนในวงการบันเทิงไทยที่ขาดจิตสำนึกความรับผิดชอบเพียงชั่วยามอย่าง “ดีเจมะตูม-นายเตชินท์พลอยเพชร” จัด “ปาร์ตี้วันคล้ายวันเกิดจนลืมวันตายเย้ยโควิด-19” จริงอยู่ที่เรื่องเยี่ยงนี้ไม่มีใครตั้งใจหรืออยากให้มันเกิดขึ้น ทว่า “ไม้หน้าสาม” ได้ข้อมูลมาว่า “กลุ่มดีเจมะตูม”นั้น ใช้ห้องอาหาร “เวอร์ทิโก้ โรงแรมบันยันทรี” โดยโรงแรมมีมาตรการตรวจวัดไข้ เจลแอลกอฮอล์ และรักษาระยะห่างตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ห้องอาหารห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 400 ตารางเมตร... ทว่าหลังจากเวลา 21.00 น. ห้องอาหารแห่งนี้ปิดตามประกาศของกรุงเทพมหานครตามนโยบายของ “ศบค.” กลุ่มดีเจมะตูมได้ย้ายไปทำกิจกรรมต่อที่ห้องพักเป็นลักษณะการเช่าห้องสูททั้งหมด 3 ห้อง พื้นที่รวม 351 ตารางเมตร ในห้องที่เกิดเหตุคาดว่าอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากมีพื้นที่ 143 ตารางเมตร แล้วมีการใช้บัตรเข้า-ออกห้องจำนวน 26 ครั้ง แต่ 26 ครั้งนี้ยังพิสูจน์ทราบไม่ได้ว่ามีกี่คนก็ต้องลุ้นกันต่อไป กลุ่มดีเจมะตูมจะแพร่ “เผ่าพันธุ์โควิด-19” เข้าใจว่าทั้งหมดคงสำนึกและเข้าใจดีว่าได้กระทำการใดลงไป...
nn มาตรการหย่อนยานที่ไม่ขึงตึงจะมาบริหารท้าทายของโควิด-19 คงเป็นเรื่องยากลำบากพอสมควรเปิดเทอมวันแรกก็ทำสังคมไทยป่วนผวาตื่นตระหนกกันเสียแล้ว สุดโกลาหลโดยในเขตเทศบาลนครแม่สอด จ.ตาก พื้นที่ชายแดนประเทศไทยที่ติดต่อกับประเทศเมียนมา หลังเปิดเรียนได้เพียง 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการตรวจเชิงรุกของกระทรวงสาธารณสุขตรวจพบผู้ป่วยติดโควิด-19 ที่อาศัยอยู่ย่านใจกลางเมืองแม่สอดเพิ่มอีกกว่า 5 ราย ซึ่งมีเด็กนักเรียนครอบครัวผู้ป่วยกลุ่มใหม่ติดเชื้อด้วย และมีรายงานว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้เดินทางไปทั่วพื้นที่แม่สอด...
nn หลังกระแสข่าวแพร่ะสะพัดออกไปได้มีคำสั่งปิดโรงเรียนปิดการเรียนการสอนอย่างเร่งด่วนทั่วอำเภอแม่สอด ส่วนพ่อแม่ผู้ปกครองก็แตกตื่นแห่แหนเดินทางมารับลูกหลานตนเองกลับทันที ส่งผลให้การจราจรในอำเภอแม่สอดถึงขั้นจลาจลติดขัดเป็นอย่างมาก...nn มองความเป็นจริงผ่านนโยบายควบคุมโควิด-19 และมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบท่ามกลางสถานการณ์ผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ภายในประเทศทะลุ 800 รายต่อวัน มียอดผู้ป่วยเกือบ 2 หมื่นราย และทยอยเสียชีวิตสะสมกว่า 70 ราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า “ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19” ช่างอ่อนช้อย มะงุมมะงาหราแม้จะประกาศติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนเป็นวาระอยู่ก็ตาม อะไรจะเกิดขึ้นอีกบ้าง ความหายนะทางเศรษฐกิจตั้งอยู่แล้วดับไป เป็นธรรมดาของทุกภูมิภาคทั่วโลก...
nn แต่ดัชนีทุจริตที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ “ทหารแก่และคณะ” ที่ส่วนใหญ่สวมเครื่องแบบจะมานั่งเชิดหน้าชูคอในฐานะผู้นำต่อไปได้ ต้องไม่ลืมว่าเหตุผลหนึ่งที่กองทัพทำการรัฐประหารยึดอำนาจ “รัฐบาลพลเรือนของพรรคเพื่อไทย”ก็คือ “ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น” แต่ 6-7 ปี ที่ผ่านมาของรัฐบาล คสช. ประเทศไทยมีวงจรอุบาทว์ทำให้คะแนนทุจริตคอร์รัปชั่น” สูงขึ้นทุกด้าน จึงมีคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาลทหารแก่ แม้ท่านจะออกมาเน้นย้ำตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งว่าตัวเองที่เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีเป็นที่สุด แต่การเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้มีคุณสมบัติเพียงแค่นี้ ทหารแก่จักต้องหาคำตอบเกี่ยวกับอัตราก้าวหน้าดัชนีความโกงที่สูงขึ้นพรวดๆ เหมือนตัวเลขโควิด-19 ด้วยหาไม่แล้ว รัฐบาลก็คงจะอยู่ยากเสียแล้ว อาจจะเดินทางไป
ไม่ถึงเดือน “ตู่ลา” อย่างที่ชาวส้มหวานคาดการณ์เอาไว้ เพราะศึกซักฟอกครั้งนี้ล้วนมีเรื่องทุจริตร่วมด้วยทุกประเด็นทั้งหวยแพง ไร้น้ำยาแก้ไข ทั้งเรื่องราวของ “โควิด-19” ที่เปิดช่องทางทุจริตมหาศาล ทั้งเรื่องของ “วัคซีน” ที่มีการเปิดประเด็นใหม่ กรณี “ไฟเซอร์” ที่ติดต่อขายให้ไทยในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด เรื่องนี้คงได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงกันกลางสภา แน่นอน โปรดติดตามชม
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี