“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา” อัดแน่นด้วยสาระข้อมูลที่น่ารู้ เพียบพร้อมด้วยข้อเท็จจริงกับทุกข่าวสารรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง บันเทิง กีฬา ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม”ขอเริ่มต้นด้วยสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มวีโว่และคนต่างด้าวเชื้อสาย “เมียนมา” ที่ส่วนใหญ่ “สวมใส่เสื้อสีแดงและชู 3 นิ้ว” บริเวณหน้า“สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ถนนสาทร เขตยานนาวา” เมื่อเย็น-ค่ำอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 และมีเหตุขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่เข้ากระชับพื้นที่ รวมทั้งเกิดเสียงคล้ายระเบิดและมีกลุ่มควันขาว หลังการชุลมุนยุติลงพบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 14 นาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมส่งฟ้องศาลแขวงพระนครใต้ จำนวน 3 ราย อัปรีย์จัญไรด่ากันขรมไม่ใส่ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยบาดเจ็บคอมเมนท์อีกต่างหากพวกขยะสังคม...
nn มีเรื่องให้ทึ่งตะลึงหงายเมื่อ“รอยเตอร์” รายงานข่าวว่า “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ”ได้จ่ายเงินช่วยเหลือรัฐบาลพลเรือนเมียนมาจำนวน 350 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 10,000 ล้านบาท เพื่อเป็นกองทุนช่วยเหลือต่อสู้กับ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)” เมื่อเกิดการรัฐประหาร โดย นายพลมินอ่อง หล่าย ก็มีความพยายามจะทวงเงินจำนวนนี้คืน แต่คาดการณ์กันว่าคงไม่ทันการณ์เสียแล้ว เนื่องจากกรณีนี้เป็นเงินให้เปล่า น่าอิจฉาเพื่อนหม่องไม่ใช่น้อย...
nn เห็นพฤติกรรมที่เกิดแล้วไม่ได้ห่วงใยสังคมไทยอย่างเดียว แต่ห่วงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจด้วย เพราะทั้งภัยร้ายจาก “ไวรัสมรณะ” ที่เกิดขึ้นมาแล้วยังไม่ยอมตายหายไปจากประชาคมโลก ภัยจากสัมภเวสีบ้างคำผกาบ้าง และล่าสุดภัยจาก “ปรสิตที่อยู่ในคณะผู้บริหารประเทศ” ที่ฉุดความเจริญของประเทศอย่างไม่จบสิ้นอย่างมีนัยสำคัญ...
nn “สีซอให้ควายฟัง” จนเหนื่อยใจหนักสมองมากมายกับประดา “กระบือใส่สูท” ที่ป้อนข้อมูลเบลอๆ บลาๆ ให้ “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะ” อาทิ ทำหนังสือแนะนำให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 เรื่องแนวทางการพัฒนา กำหนดและประกาศพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ให้เป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะเช่นเดียวกับโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า “นิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา” ซึ่งเป็นโครงการด้านความมั่นคง ด้วยข้อเสนอ “เบลอๆ บลาๆ” นี่เอง ทำให้เกิดการชะลอโครงการ ทั้งที่โครงการนี้เป็นโครงการที่จะสร้างเงินสร้างงานสร้างความเป็นอยู่ที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนให้แก่ประเทศชาติและประชาชนในพื้นที่ แต่นั่นน้อยไป “กระบือใส่สูท” กลุ่มนี้นอกจากจะไม่สนับสนุน “นักลงทุนไทย” ให้ได้งานลงทุนในประเทศได้เป็นส่วนหนึ่งของ “ทีมไทยแลนด์” ร่วมพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนไม่เป็นกลุ่มก้อน “คนชังชาติ” แบบ “สามตะกร้า” ยัง “อุบาทว์” เรียกร้องแนะนำให้ “ทหารแก่” ที่ไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจจนแตกฉานด้วยเพราะเป็นผลผลิตจากนักเรียนเหล่าทัพเชิญชวน “นักลงทุนต่างชาติ” มาลงทุนในโครงการนี้แทนกลุ่มทุนไทยที่กำลัง “ขมีขมัน-ขะมักเขม้น”ดำเนินการโครงการนี้ ... เฮ้อ... เพลียใจ!!! ...
nn “ไม้หน้าสาม” ไม่อยากจะคิดไม่อยากจะกล่าวให้ร้ายว่ารับจ๊อบรับงานจาก “คนแดนไกล” ที่ “ทุจริตคอร์รัปชั่นโกงขโมยศรัทธาประชาชน” จนต้องหัวซุกหัวซุนไปอยู่ใต้อุ้งต่างชาติมาหรืออย่างไร ถามจริงๆ“นักลงทุนต่างชาติ” ที่ไหนจะกล้าเสี่ยงมาลงทุนในประเทศที่มีรัฐบาลผู้บริหารที่รับข้อเสนอของ “กระบือใส่สูท” มาดำเนินการ พร้อมออกคำสั่งเบลอๆ บลาๆ มาให้ปฏิบัติเยี่ยงนี้...
nn “ไม้หน้าสาม” พูดได้คำเดียวว่ารัฐบาลของประเทศกลุ่มอาเซียน อาทิ เวียดนามและเมียนมากำลังกระหยิ่มยิ้มย่องสมเพช “ราชอาณาจักรไทย” ว่ามีรัฐบาลและรัฐมนตรีเศรษฐกิจบ้องตื้นบริหารเศรษฐกิจประเทศเสมือนไล่นักลงทุนไทยให้ไปลงทุนที่เวียดนามและเมียนมา เฉกเช่นภาคเอกชนต่างชาติทั้ง ญี่ปุ่น เกาหลี และสาธารณรัฐประชาชนจีนก็ไปลงทุนที่เวียดนามและเมียนมาไม่มาลงทุนในไทยแน่นอน ไม่ใช่เพราะข้อกล่าวหาสืบทอดอำนาจเผด็จการทหาร ไม่เป็นประชาธิปไตยหรอก แต่เพียงเพราะรัฐบาลไทยขาดสติเสียสมาธิจนไม่เกิดปัญญาตรึกตรองอะไรควรไม่ควร...
nn อย่าปล่อยให้นักลงทุนไทยที่หวังดีกับการพัฒนาประเทศสร้างความเจริญบนแผ่นดินแม่ช่วยนำความเจริญสู่ภูมิภาคให้คนรากหญ้าลืมตาอ้าปากต้องสู้กับ “สัมภเวสีอัปรีย์” ที่จ้องฮุบจ้องทำลายอย่างเดียวดายเลย... ทหารแก่ควรตั้งสติเพื่อให้เกิดปัญญา พิจารณารอบด้านอย่าไปฟังแต่ข้อเสนอของ “กระบือใส่สูท”แล้วคิดสรุปไปเองว่ามันคือ “ทฤษฎี”...
nn เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ยังไม่เกิดการแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)” ระลอกใหม่ “ไม้หน้าสาม” ได้มีโอกาสไปนั่งฟังทีมเศรษฐกิจรัฐบาล อาทิ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์,อาคม เติมพิทยาไพสิฐ และข้าราชการระดับสูง" ซึ่งเป็นขุนพลที่จะปลุกปั้นก่อรากฐานทางเศรษฐกิจของประเทศยืนยันหนักแน่นว่า ไทยภูมิคุ้มกันดี มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ผล ขอให้คนไทยเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยกลับมาได้แน่นอน ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” หนึ่งในทีมบริหารเศรษฐกิจของ “รัฐบาลเรือแป๊ะ” ตอกย้ำอีกว่า หากคุมการแพร่ระบาดได้ในเดือนมกราคม เชื่อว่า เดือนกุมภาพันธ์เศรษฐกิจจะดีขึ้น ไม่น่าจะบอบช้ำอะไรมากมั่นใจเศรษฐกิจโตขึ้นร้อยละ 2.8-3 เปอร์เซ็นต์ ก็โครงการที่จะพัฒนาชาติบ้านเมืองยังถูกกระทำปู้ยี่ปู้ยำ นักลงทุนไทยขวัญกระเจิงเยี่ยงนี้ สิ่งที่สำรอกออกมายังสามารถเชื่อถือได้กระนั้นหรือ...
nn หวังว่าเรื่องนี้คงถึง “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” เพื่อสะกิดต่อมสำนึกไม่หยิบเศษทิสชู่เปื้อนสิ่งโสโครกมาพิจารณาดำเนินการ แต่ได้ยั้งคิดกระทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองโดยสมบูรณ์สั่งการให้ผู้รับผิดชอบโครงการ “นิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา” ได้เดินหน้าดำเนินโครงการนี้ตามนโยบายตามมติคณะรัฐมนตรีต่อไปโดยเร็ว เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ด้วยงานขาว-ดำอีกครั้ง กำหนดสวดพระอภิธรรมและพระราชทานเพลิงศพ พลตำรวจเอกอมรินทร์ อัครวงษ์ อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ และอดีตผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน ที่เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งกล่องเสียง โดยสวดพระอภิธรรมศพระหว่างวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ ณ ศาลา 5/1 วัดตรีทศเทพเวลา 18.30 น. ทุกวัน และพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดตรีทศเทพ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 16.00 น.เจ้าภาพครอบครัว “อัครวงษ์” เรียนเชิญญาติสนิทมิตรสหายร่วมบำเพ็ญกุศลและส่งดวงวิญญาณผู้วายชนม์ตามวันเวลาดังกล่าวด้วย พร้อมขออภัยที่ไม่ได้เรียนเชิญด้วยตนเอง...
nn สุดท้ายขอแสดงความยินดีกับ “เสี่ยหนึ่ง-จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์” บุตรชายคนโตของ นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตสส.นครปฐมและรัฐมนตรีหลายกระทรวงที่ได้รับการประกาศชื่อรับรองผลการเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม อย่างเป็นทางการ จากนี้คงได้แสดงฝีมือและสร้างความเจริญให้จังหวัดนครปฐมสมความตั้งใจในนโยบายด้านต่างๆ ต่อไป...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี