มีคำถามว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องมีสายการบินแห่งชาติหรือไม่ คำตอบคือจำเป็น แล้วมีคำถามต่อว่า สายการบินแห่งชาติของไทยจำเป็นต้องชื่อการบินไทยหรือไม่ คำตอบคือไม่จำเป็น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องให้สายการบินกรุงเทพ สายการบินไทยสมายล์ สายการบินนกแอร์ สายการบินแอร์เอเชีย ขยับฐานะขึ้นไปเป็นสายการบินแห่งชาติของไทย โดยเฉพาะสายการบินจำพวกลูกครึ่งไทยผสมกับต่างชาติด้วยแล้ว ยิ่งไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะสายการบินจำพวกนี้คือตัวการสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้การบินไทยประสบปัญหาการแข่งขันในการทำธุรกิจ แล้วบางสายการบินยังเข้ามาปล้นสิทธิการบินของประเทศไทยไปอีกด้วย
คำถามต่อมาคือ รัฐบาลไทยยังต้องการการบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติต่อไปหรือไม่ หากรัฐบาลคิดว่าต้องการ ก็ต้องทำทุกหนทางเพื่อกอบกู้ชีวิตการบินไทยกลับมาให้จงได้ วิธีการกอบกู้การบินไทยที่ง่ายที่สุดที่รัฐบาลสามารถกระทำได้คืออัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลหลักแสนล้านบาทให้กับการบินไทยแต่ก็มีคำถามตามมาคือรัฐบาลมีปัญญาหาเงินจำนวนมหาศาลมาชุบชีวิตให้การบินไทยหรือ แล้วที่สำคัญคือการที่รัฐบาลจะตัดสินใจช่วยกู้ซากศพการบินไทย ก็ต้องรู้ด้วยว่าการบินไทยตกอยู่ในสภาพล้มละลาย ไม่มีเงินสำหรับดำเนินธุรกิจอีกต่อไปแล้ว
ในวันที่ 3 มีนาคม 2564 สาธารณชนก็คงจะได้รู้กันว่าชะตากรรมของการบินไทยจะออกหัวหรือออกก้อย หลังจากคณะผู้ทำแผ่นฟื้นฟูการบินไทยขอเลื่อนการยื่นเสนอแผนฟื้นฟูต่อศาลล้มละลายกลางมาแล้วสองครั้ง จนไม่สามารถขอผัดผ่อนหรือเลื่อนการนำเสนอแผนได้อีกต่อไป
ส่วนสาระสำคัญที่สาธารณชนต้องการทราบคือท่าที อันชัดเจนของเจ้าหนี้รายใหญ่ของการบินไทย อาทิ กลุ่มบริษัทผู้ให้เช่าเครื่องบิน (lessors) จะตัดสินใจอย่างไรกับแผนฟื้นฟูการบินไทย แต่เท่าที่พอทราบก็คือเจ้าหนี้กลุ่มนี้กลัวหนี้สูญเป็นที่สุด จึงจำเป็นต้องตัดสินใจสนับสนุนการฟื้นฟูกิจการของการบินไทยเพราะหากการบินไทยต้องล้มหายตายจากไป ก็หมายความว่าเจ้าหนี้กลุ่มนี้ต้องประสบปัญหาการทำมาหากินไปโดยปริยาย เพราะขาดผู้เช่าเครื่องบินรายสำคัญไปหนึ่งราย ทั้งนี้ เมื่อดูไส้ในของฝูงบินของการบินไทยจะพบว่า เครื่องบินที่ติดสัญญาเช่าทางการเงิน 31 ลำ วงเงิน 9.47 หมื่นล้านบาท และติดสัญญาเช่าดำเนินการ จำนวน 42 ลวงเงิน 8.34 หมื่นล้านบาท ส่วนเครื่องบินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของการบินไทยจำนวน 48 ลำ ซึ่งแต่ละลำมีอายุตั้งแต่ 6-31 ปี และในจำนวนนี้มีอยู่ 15 ลำที่จอดนิ่งสนิทเพื่อรอการขาย บางลำจอดทิ้งไว้เฉยๆ มา 8 ปีแล้ว
ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าหนี้กลุ่มผู้ให้เช่าเครื่องบินยอมสนับสนุนแผนฟื้นฟูการบินไทย เพราะยังคงหวังว่าการยื้อชีวิตการบินไทยไว้ ก็ยังพอจะมีความหวังได้เงินคืนบ้าง แต่หากการบินไทยมลายไป ก็หมายความว่าฝันที่จะได้เงินคืนอย่างเป็นกอบเป็นกำก็สูญสลายไปโดยพลัน ทั้งนี้เจ้าหนี้กลุ่มนี้กำหนดเงื่อนไขว่าการบินไทยต้องชำระหนี้ 100 เปอร์เซ็นต์ตามงวดที่กำหนดไว้
ส่วนเจ้าหนี้การบินไทยกลุ่มอื่นๆ อีกสามกลุ่มคือ เจ้าหนี้สถาบันการเงิน เจ้าหนี้การค้า และเจ้าหนี้หุ้นกู้รายย่อย รวมถึงเจ้าหนี้สหกรณ์ที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้อีก 89 ราย ก็มีความคิดเห็นต่อแผนฟื้นฟูการบินไทยแตกต่างกันไป โดยบางรายคัดค้านการฟื้นฟูกิจการของการบินไทย
สรุปก็คือ ยังไม่ทราบว่าการบินไทยจะยื่นแผนฟื้นฟู ได้สำเร็จตามกรอบเวลาสุดท้ายหรือไม่ และถ้ายื่นได้ก็ยังไม่มีใครรับรองได้ว่าการบินไทยจะกลับมาทำธุรกิจการบินได้เหมือนดังเดิมหรือไม่ เพราะการบินไทยจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากที่ประเทศไทยจะมีสายการบินแห่งชาติชื่อการบินไทย ต่อให้รัฐบาลไทยอยากจะมีสายการบินแห่งชาติใจจะขาดก็ตาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี