ทฤษฎีการเมืองว่าด้วยการเป็นผู้นำ โดยทั่วๆ ไปได้แบ่งผู้นำออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
1. ผู้นำแบบ Transactional หมายถึงผู้นำที่ชอบและใฝ่หาผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่แบบยื่นหมูยื่นแมว แบบให้ 5 ไปแล้ว ก็เอา 10 คืนมาหรือแบบต่างตอบแทนแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน จัดได้ว่าเป็นพวกมุ่งหาตำแหน่งและใช้ตำแหน่งนั้นทำมาหากิน เสมือนเป็นการหาค่าเช่าจากตำแหน่ง(Rent-Seeking) ผู้นำแบบนี้มีอยู่มากมาย และจัดได้ว่าเป็นกลุ่มผู้นำที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก
เมื่อมองมาที่ประเทศไทยของเรา ก็คงไม่เป็นเรื่องแปลกใหม่ หรือแปลกประหลาด เพราะนักเซ็งลี้การเมืองทั้งหลายต่างเดินขวักไขว่กันเต็มบ้านเต็มเมืองตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงมา ใครเป็นใครบ้างในประวัติศาสตร์การเมืองร่วมสมัยของไทยก็จะจำหน้าค่าตากันได้
2. ผู้นำแบบ Transformative Leader คือผู้นำที่เข้ามาทำการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น คือ ทำงานและอุทิศสติปัญญา กำลังกายใจ ให้กับบ้านเมือง ไม่ตักตวง ไม่โกงกิน ไม่เล่นพรรคเล่นพวกผู้นำแบบนี้จะก้าวสู่ตำแหน่งมาด้วยวิธีใดมิใช่ประเด็นหากประเด็นคือ เมื่อเขาได้ตำแหน่งและอยู่ในตำแหน่งแล้ว ก็มุ่งหน้าทำการเพื่อบ้านเมือง (for public good) ตัวอย่างดังๆ ที่เพิ่งจากไปเมื่อไม่นานมานี้ก็คือ นายลี กวนยู นายกรัฐมนตรียาวนานของสิงคโปร์ ที่ทำการเปลี่ยนรูปโฉมให้สิงคโปร์จากประเทศเมืองท่าทั่วไป ให้กลายมาเป็นประเทศชั้นนำทันสมัย และเพียบพร้อมด้วยธรรมาภิบาล แล้วล่าสุดโลกก็ได้เห็นนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ซึ่งกำลังจะลงจากตำแหน่ง หลังจากครองอยู่ร่วม 16 ปี โดยสุภาพสตรีท่านนี้มิได้เป็นแค่ผู้นำเยอรมนี หรือแค่สหภาพยุโรป หากแต่เป็นผู้นำระดับโลกด้วย เพราะทำงานด้วยความซื่อสัตย์ มุ่งมั่นเพื่อส่วนรวม และดำรงชีวิตส่วนตัวแบบง่ายๆ พอเพียง สมถะ ในขณะเดียวกัน โลกก็ยังมีประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย ที่ทำการกอบกู้ชื่อเสียงของรัสเซีย นำขวัญกำลังใจ ศักดิ์ศรี และเกียรติภูมิสู่ชาวรัสเซีย โดยเป็นคนพูดน้อย ทำมาก และทำจริง
ของไทยเราก็อย่างน้อยมี 3 ชื่อที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่จัดได้ว่า ได้เปลี่ยนแปลงรูปโฉมและเนื้อหาของสังคมไทย คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และพลเอกเปรม ติณสูลานนท์
จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นผู้ส่งเสริมความเป็นชาติไทย
จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เปลี่ยนรูปโฉมการบริหารราชการไทย และการพัฒนาประเทศอย่างคนทันสมัย
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นำไปสู่โลกกว้าง ด้วยเศรษฐกิจโชติช่วงชัชวาล
คำว่า Transactional และคำว่า Transformativeจึงเป็นศัพท์แสงทางการเมืองที่เป็นแสงสะท้อนในแวดวงวิชาการ สื่อ และการเมือง
ผมในฐานะคอการเมืองคนหนึ่ง ก็ขอเสนอเพิ่มเติมอีกคำหนึ่ง คือ คำว่า Transfixed หรือกลุ่มผู้นำที่มึนงง ยึดติดอยู่กับตำแหน่ง และยึดติดกับความคิด ความเชื่อถือน้อยนิดที่มีอยู่ของตนเอง
ผู้นำแบบนี้ ชื่นชมยินดีกับอำนาจวาสนา กับบุญบารมี กับความภูมิอกภูมิใจ ที่มีตำแหน่งหน้าที่ และก็มีหลงตัว มัวเมากับอัตตา โดยเฉพาะความนึกคิดที่ว่า “ข้าดี ข้าเสียสละ ข้าจริงใจ ข้าอุตสาหะ” ซึ่งเป็นการคิดอ่านเข้าข้างตนเอง เอาตนเองเป็นที่ตั้งเท่านั้น โดยไม่รับรู้ ไม่ตระหนักว่า มีผลให้ชาติบ้านเมืองย่ำเท้าอยู่กับที่ หรือไม่ก็ถดถอย ถอยหลังเข้าคลองด้วย สาละวนอยู่กับความคิดเกี่ยวกับความดีงามของตัวตน โดยไม่หยั่งรู้ว่าสภาพแวดล้อมแท้จริงนั้นเป็นเช่นไร และตัวตนนั้นเป็นผู้ทำลายมากกว่าผู้สร้างและฉะนั้น เมื่อยังอยู่กับตนเองในความมืด ก็ทำให้ชาติบ้านเมืองมืดมนไปด้วย
ที่ประเทศไทยย่ำอยู่กับที่มานานปีเช่นนี้ ก็เพราะประเทศของเรานั้นเต็มไปด้วยผู้นำแบบ Transactionและ Transfixed นั่นเอง
คนไทยเราต้องเรียกร้องให้เกิดผู้นำแบบ Transformative Leadership เข้ามาบริหารประเทศไทย มิเช่นนั้นแล้ว อนาคตลูกหลานไทยคงมืดมน
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี