คำถามตัวใหญ่ที่สุดที่สะเทือนทั้งบ้านทั้งเมืองในขณะนี้ก็คือคำถามจากคุณเปลว สีเงิน นักเขียนนามกระเดื่องดังแห่งยุค ซึ่งเป็นที่เชื่อถือของผู้คนจำนวนมาก และเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นผู้มีจุดยืนที่สนับสนุนรัฐบาล คสช. อย่างแข็งขันมาตั้งแต่ต้น
จู่ๆ เปลว สีเงิน ก็ตั้งคำถามซึ่งสื่อนำมาพาดหัวว่ารัฐบาลจะเอายังไง? ซึ่งหมายถึงรัฐบาลจะจัดการกับม็อบกาเหว่าอย่างไร
เป็นคำถามที่เกิดขึ้นหลังจากมีการเคลื่อนไหวม็อบวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งทุกคนเห็นกับตาว่าเป็นการก่อความรุนแรง กักขฬะ เถื่อน และถ่อยชนิดที่ไม่คาดคิดว่าในบ้านเมืองของเราจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น และยังติดตามมาด้วยเหตุการณ์เผาพระบรมฉายาลักษณ์ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม
เป็นคำถามที่ตรงกับหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ และเป็นคำถามที่อยู่ในหัวใจของสื่อมวลชนมาระยะหนึ่งแล้ว แม้คอลัมน์นี้ก็ได้ตั้งคำถามลักษณะนี้มาเป็นเวลาหลายเดือนเต็มที โดยเฉพาะการตั้งคำถามกับผู้มีอำนาจหน้าที่ด้านการต่างประเทศและด้านการควบคุมดูแลโซเชียลมีเดีย ที่ปล่อยให้คนหนีคดีลี้ภัยในต่างประเทศและโซเชียลมีเดียในประเทศตั้งวงโกหกใส่ร้ายป้ายสีบ่อนทำลายสถาบันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ถึงขนาดแนะนำให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกมาแล้วก็หลายครั้ง แต่มาครั้งนี้เมื่อนักเขียนใหญ่ชื่อดังแห่งยุคลงมือตั้งคำถามเองจึงย่อมส่งผลสะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นทั่วทั้งประเทศ
ม็อบกาเหว่าได้สร้างความเดือดร้อนเสียหายในบ้านเมืองชนิดไร้เหตุผลและจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นั่นคือนับตั้งแต่สถาปนาพระราชจักรีวงศ์เป็นต้นมาก็ไม่เคยมียุคใดสมัยใดที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
เพราะแม้มีเหตุการณ์ที่ไม่ถึงขนาดร้ายแรงหรือเป็นจุดเล็กๆ ผู้มีอำนาจหน้าที่เขาก็ทำหน้าที่พิทักษ์ปกป้องและกำจัดเหตุร้ายนั้นเสียในฉับพลัน ไม่ปล่อยหรือฟูมฟักให้เติบใหญ่แบบเดียวกับที่หยวน ซื่อไข่เคยทำกับขบวนการปฏิวัติชิงไห่ในยุคราชวงศ์ชิง
ในปลายราชวงศ์ชิงนั้นมีขบวนการปฏิวัติชิงไห่เกิดขึ้น ประกอบจากนักเรียนนอกโดยเฉพาะจากฝรั่งเศสก่อการเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีการจัดชุมนุมเดินขบวนกันในหลายมณฑลในประเทศจีน ต่อมาราชสำนักชิงได้แต่งตั้งให้นายพลหยวน ซื่อไข่ รับผิดชอบปราบปรามขบวนการปฏิวัติชิงไห่เพราะเข้าใจว่าเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดี
ปรากฏว่านายพลหยวน ซื่อไข่ ด้านหนึ่งทำทีเป็นปราบปรามขบวนการปฏิวัติชิงไห่ แต่อีกด้านหนึ่งก็แอบให้การสนับสนุนช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและการผ่อนปรน เข้าลักษณะจับปล่อยๆ แบบที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราในขณะนี้
ทำให้แกนนำขบวนการปฏิวัติชิงไห่เข้าใจผิดคิดว่าหยวน ซื่อไข่ เป็นคนก้าวหน้า จะเป็นที่หวังในการเปลี่ยนแปลงการปกครองของจีน จึงยื่นข้อเสนอให้หยวน ซื่อไข่ ล้มราชวงศ์ชิงและจะสนับสนุนให้เป็นประธานาธิบดี หยวน ซื่อไข่ ก็ตกลง โค่นล้มราชวงศ์ชิงลงกับมือ
และด้วยการสนับสนุนจากขบวนการปฏิวัติชิงไห่หยวน ซื่อไข่ ก็ตั้งตัวเป็นประธานาธิบดีของจีน และทันทีที่มีอำนาจหยวน ซื่อไข่ ก็เห็นว่าพวกขบวนการปฏิวัติชิงไห่คือตัวอันตรายของประเทศและอำนาจรัฐของตน จึงทำการปราบปรามขบวนการปฏิวัติชิงไห่อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตจนต้องแตกกระสานซ่านเซ็น
หยวน ซื่อไข่ กำเริบใจว่าเมื่อราชวงศ์ชิงก็ล้มลงไปแล้ว ขบวนการปฏิวัติชิงไห่ก็ถูกกำราบปราบปรามจนอ่อนกำลังลงแล้ว จึงคิดจะตั้งตนเป็นฮ่องเต้ ตั้งศักราชราชวงศ์ใหม่ขึ้นและเตรียมทำพิธีที่จะสถาปนาตนเองเป็นฮ่องเต้
ปรากฏว่าบรรดามณฑลต่างๆ ต่อต้านและไม่ยอมรับอำนาจของหยวน ซื่อไข่ ประกาศเป็นอิสระในขณะที่ขบวนการปฏิวัติชิงไห่ก็ฟื้นตัวขึ้น ส่วนพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็เริ่มก่อการเคลื่อนไหวในชนบทเพื่อสถาปนาอำนาจรัฐของประชาชนขึ้น ทำให้หยวน ซื่อไข่ ตกใจและป่วยหนักถึงแก่ความตาย จากนั้น ดร.ซุน ยัตเซ็นจึงได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี
การปราบม็อบแบบหน่อมแน้มในยุคหยวน ซื่อไข่นั้นจึงเป็นเรื่องที่มีวาระซ่อนเร้นดังตัวอย่างที่มีมาในประวัติศาสตร์นั้น
ครั้นเหตุการณ์ม็อบกาเหว่าเกิดขึ้นในประเทศไทยซึ่งใครๆ ก็เห็นอยู่ตำตาว่าเป็นม็อบที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์และมีการเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยในวงกว้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งหากเป็นในอดีตนั้นก็จะถูกกำราบปราบปรามอย่างรวดเร็ว
แต่ปรากฏว่าการจัดการกับการเคลื่อนไหวนั้นมีลักษณะพิลึกพิลั่นดังที่ชาวบ้านเรียกกันว่าจับปล่อยๆหรือหน่อมแน้ม แม้ขนาดมีการล้อมขบวนเสด็จฯหรือมีปรากฏการณ์ที่จะบุกเขตพระราชฐานก็ปรากฏให้เห็นมาแล้ว แต่จนกระทั่งถึงวันนี้ก็มิได้มีการดำเนินการอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน บรรดาหัวโจกหัวขบวนทั้งหลายยังเชิดหน้าลอยนวลกันอย่างสบายใจเฉิบและไม่มีผู้ใดรับผิดชอบเลยแม้แต่คนเดียว
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งต้องถือว่าเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุด จึงทำให้คำถามคาใจนั้นกึกก้องกระหึ่มทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะจากเหตุการณ์นั้นถึงวันนี้ก็ดูเหมือนว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงอาจเป็นที่มาของคำถามใหญ่ว่ารัฐบาลจะเอายังไง?
เพราะถ้าเป็นเรื่องหน่อมแน้มไร้น้ำยาจริงๆก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเป็นเรื่องแกล้งหน่อมแน้มเพื่อให้ม็อบชนเจ้าให้อ่อนแอลงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนล้วนเป็นสัญญาณอันตรายร้ายแรงที่กำลังปรากฏขึ้นพร้อมกับคำถามตัวใหญ่นี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี