คนโกง หนีได้ก็หนีไป
และต้องหนีไปจนตาย ตราบใดที่ยังใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน...
สำหรับคดีโกงข้าวจีทูเจี๊ยะ มีผู้กระทำผิดที่ยังหลบหนีอยู่ 3 คน ได้แก่ หมอโด่ง คุก 50 ปี ลูกสาวเสี่ยเปี๋ยง คุก 4 ปี และนายสุธี ลูกน้องเสี่ยเปี๋ยง คุก 32 ปี
ส่วนอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็ยังหนีคุกอยู่เช่นกัน คุก 5 ปี จากคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 157 ไม่ระงับยับยั้งความเสียหายจากการขายข้าวจีทูจี
ขณะเดียวกัน ยังมีกระบวนการเรียกเงินค่าเสียหายชดใช้คืนแผ่นดิน
การหนี ช่วยให้คนผิดไม่ต้องรับโทษจำคุกอยู่แล้ว
การหนี จึงไม่ควรมาช่วยให้รอดพ้นจากการถูกยึดทรัพย์อีก …
1. สัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานว่า ศาลปกครองกลางได้ออกนั่งพิจารณาคดี กรณีอดีตข้าราชการและนักการเมืองที่ถูกออกคำสั่งชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายข้าวจีทูเจี๊ยะ ได้ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
ศาลได้มีการสรุปข้อเท็จจริง ตุลาการผู้แถลงคดีได้แถลงความเห็นส่วนตัว และได้กำหนดนัดพิพากษาคดีนี้ ในวันที่ 29 มี.ค.2564 เวลา 10.00 น.
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีคำสั่งที่ 457 ลงวันที่ 19 ก.ย.2559 สั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยให้นายบุญทรง ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 1,770 ล้านบาท, นายภูมิ 2,300 ล้านบาท, หมอโด่ง(หนีคุก) 4 พันล้านบาท
นายมนัส, นายอัฐฐิติพงศ์, นายทิฆัมพรรายละ 4,011 ล้านบาท
ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
ก่อนหน้านี้ 5 คน ได้ร้องขอให้ศาลทุเลาการบังคับตามคำสั่งกระทรวงพาณิชย์แต่ปรากฏว่า ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งยกคำขอไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.2560 ความหมายคือ เจ้าหน้าที่รัฐสามารถดำเนินการยึดทรัพย์มาชดใช้ค่าเสียหายได้เลย
2. กรณีนี้ เป็นเรื่องความรับผิดทางละเมิด
คนละส่วนกับความผิดทางอาญา คือ โทษจำคุก ที่แต่ละคนยังรับโทษอยู่ในเรือนจำ
โทษจำคุกทางอาญาก็รับต่อไป ส่วนนี้เป็นการเรียกค่าความเสียหายชดใช้เงินคืนหลวงจากกรณีที่มีการขายข้าวจีทูเจี๊ยะ แล้วทำให้หลวงเสียหาย
ถ้าไม่มีเงินจ่าย ก็ต้องยึดทรัพย์ นำไปขายทอดตลาด นำมาชดใช้คืนหลวงต่อไป
อย่าลืมว่า รัฐบาลปัจจุบัน นายกฯ พลเอกประยุทธ์ เคยเปิดเผยว่า ยังต้องนำเงินแผ่นดินทยอยใช้หนี้โครงการจำนำข้าว ที่ยังติดค้าง ธ.ก.ส.อยู่อีกมหาศาล ปีละกว่าสองหมื่นล้าน ยาวนานเป็นเวลาสิบกว่าปี
3.กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรอัพเดทให้สังคมได้รับทราบ ว่าจนถึงวันนี้ การติดตามยึดอายัดทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อมาชดใช้คืนแผ่นดิน ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว?
เช่นเดียวกับกรณีค่าสินไหมทดแทนค่าเสียหายจากโครงการจำนำข้าว ที่กระทรวงการคลังเรียกจากอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 3.5 หมื่นล้านบาทเศษ ปล่อยให้เกิดทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายตามอำนาจหน้าที่ เป็นเหตุให้ราชการเสียหาย
ทั้งสองกรณี ศาลปกครองยกคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี เพราะฉะนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเดินหน้ายึดทรัพย์มาคืนแผ่นดินได้ตามกฎหมาย โดยไม่ต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองให้ถึงที่สุด
เจ้าหน้าที่บ้านเมืองควรเอาจริงกับกรณีที่เป็นการทุจริตประพฤติมิชอบของข้าราชการและนักการเมืองเช่นนี้ เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป โดยไม่ปล่อยให้มีการนำเหตุที่มีบางคนหลบหนี (หมอโด่งกับยิ่งลักษณ์) มาเป็นเครื่องมือกล่าวอ้างเพื่อชะลอหรือเหนี่ยวรั้งกระบวนการให้รัฐได้มาซึ่งเงินชดเชยอีก
เพราะการหนีช่วยให้คนผิดไม่ต้องรับโทษจำคุกอยู่แล้ว การหนีจึงไม่ควรมาเป็นเหตุช่วยให้รอดพ้นจากการถูกยึดทรัพย์อีก
ขณะนี้ ยึดทรัพย์มาได้สักกี่มากน้อยแล้ว
4.กรณีข้าวจีทูเจี๊ยะ (เฉพาะที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาชี้ขาด คดีถึงที่สุดไปแล้วนั้น) มีการทำสัญญาข้าวจีทูจีเก๊ หรือจีทูเจี๊ยะ 4 ฉบับ
(อีก 4 ฉบับ เป็นคดีข้าวจีทูจีลอตสองขณะนี้ยังอยู่ในชั้น ป.ป.ช.)
ลำพังคิดแค่ราคาที่ขายข้าวออกจากโกดังหลวง ตามสัญญาจีทูจีเก๊ ในราคาต่ำกว่าราคาตลาดขณะนั้น มูลค่าความเสียหายก็มหาศาลแล้ว
สัญญาฉบับที่ 1 เป็นข้าวเก่าทุกชนิดที่มีอยู่ในสต๊อก มีทั้งข้าวหอมมะลิ 100% มีการรับมอบ 49,540 ตัน ข้าวหอมจังหวัด มีการรับมอบ 51,949.57 ตัน ข้าวปทุมธานี มีการรับมอบ 161,928.27 ตัน ข้าวขาว 5% มีการรับมอบ 1,515,795.68 ตัน ข้าวขาว 10% มีการรับมอบ 2,551.46 ตัน ข้าวขาว มีการรับมอบ 200 ตันข้าวขาว 15% เลิศ มีการรับมอบ 18,176 ตัน และข้าวเหนียวขาว 10% ปีการผลิต 2548/49 มีการรับมอบ 18,176 ตัน และข้าวเหนียวขาว 10% ปีการผลิต 2551/52 ปีการผลิต 2552 และปีการผลิต 2554/55 มีการรับมอบ 20,674.68 ตัน
รวมค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 10,991 ล้านบาท
หากคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันรับมอบข้าว คือวันที่ 18 ต.ค. 2554 ถึงวันยื่นคำร้อง รวมเป็นต้นเงินและดอกเบี้ย 14,711 ล้านบาท
สัญญาฉบับที่ 2 เป็นข้าวปีการผลิต 2554/55 ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิ 100%ชั้น 2 มีการรับมอบ 584,497.30 ตัน ข้าวขาว 5% มีการรับมอบ 321,128.23 ตัน ข้าวท่อนหอมมะลิ มีการรับมอบ 30,157.64 ตัน ปลายข้าวหอมมะลิ มีการรับมอบ 280,982.99 ตัน ปลายข้าวขาวเอวันเลิศมีการรับมอบ 156,610.31 ตัน และข้าวขาว 10% มีการรับมอบ 29,161.39 ตัน
รวมค่าเสียหาย 2,135 ล้านบาท
ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี นับแต่วันรับมอบข้าว คือวันที่ 22 มี.ค. 2555 ถึงวันยื่นคำร้อง รวมต้นเงินและดอกเบี้ย 2,789 ล้านบาท
สัญญาฉบับที่ 3 เป็นข้าวนาปรัง ปีการผลิต 2555 ประกอบด้วยข้าวขาว 5% มีการรับมอบ 1,350,986.25 ตัน และปลายข้าวขาวเอวันเลิศมีการรับมอบ 303,466.88 ตัน
รวมค่าเสียหาย 6,687 ล้านบาท
ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันรับมอบข้าว คือวันที่ 1 ส.ค. 2555 ถึงวันยื่นคำร้อง รวมเป็นต้นเงินและดอกเบี้ย 8,554 ล้านบาท
สัญญาฉบับที่ 4 เป็นปลายข้าวเหนียวเอวันปีการผลิต 2554/55 มีการรับมอบ 49,151.54 ตัน และปลายข้าวเหนียวเอวัน ปีการผลิต 2555 มีการรับมอบ 12,231.68 ตัน
รวมค่าเสียหาย 199 ล้านบาท
ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันรับมอบข้าว คือวันที่ 10 ก.ย. 2555 ถึงวันยื่นคำร้อง รวมต้นเงินและดอกเบี้ย 253 ล้านบาท5.การติดตามเรียกค่าเสียหายจากบรรดานักการเมืองและข้าราชการที่กระทำผิด ทุจริตข้าวจีทูเจี๊ยะ จึงไม่ใช่การกลั่นแกล้ง จองล้างจองผลาญ แต่เป็นการดำเนินการบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงละข้อกฎหมาย รวมถึงมีพื้นฐานคำพากษาความผิดในทางอาญาของศาลฎีกาฯ รองรับหนักแน่น
พฤติการณ์แห่งคดีนี้ ชัดเจนว่ามีการแบ่งงานกันทำเป็นขั้นตอน วางแผนเตรียมการ ทำสัญญา หาคนเข้ามารับข้าว จ่ายเงิน มีการเจรจาตกลงอย่างอุกอาจ ไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง ไม่แยแสเสียงท้วงติงของประชาชน โดยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ขณะนั้นรู้จากการอภิปรายของฝ่ายค้าน แต่ก็ยังละเว้น ไม่ระงับยับยั้ง ไม่ยกเลิกสัญญา ปล่อยให้มีการส่งมอบข้าว เบิกข้าว แถมปล่อยให้นายบุญทรงทำสัญญาข้าวจีทูเจี๊ยะในลักษณะเดียวกันต่อไปอีก 4 สัญญา
อย่าปล่อยให้คนผิดลอยนวล
อย่าปล่อยให้คนไทยทั้งประเทศต้องรับกรรมจากการกระทำของคนโกง
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี