lแนวหน้า เป็นหนังสือพิมพ์รายวัน เสนอข่าวทั่วไป เน้นการเมือง ธุรกิจ เริ่มออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2523 มี “คำขวัญ” ว่า : มั่นคง ตรงไป ตรงมา
lวันนี้ จึงเป็นวันครบรอบ 41 ปี ของ นสพ. แนวหน้า
lบทความชิ้นแรก ที่ผม ได้รับเกียรติจาก นสพ. แนวหน้า
โดย ใช้ชื่อ “คอลัมน์” ว่า ………
Change with คิด & ทำ : ชัยวัฒน์ สุรวิชัย
วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2559
“สู่แนวหน้า มาสู้แนวหน้า”
ความจริงของชีวิต ผมอยู่ “แนวหน้า” มาตลอด บนเส้นทางการเปลี่ยนประเทศไทย จากเหตุการณ์เล็กๆ ไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ 14 ตุลาคม 16 อันยิ่งใหญ่ของประชาชนไทย
............
บทสรุปจากการผ่านการเมืองไทยมา ร่วม 40 ปี อุปสรรคที่ขวางทางประชาธิปไตยไทย คือ
1.ระบบโครงสร้างของสังคม ที่เหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมคนส่วนน้อยได้ประโยชน์จากคนส่วนใหญ่
2.คุณภาพประชาชนไทยต่ำ ที่ไม่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาจากนักการเมือง ข้าราชการ และนายทุน
lงานใหญ่ทั้งสองนี้ ต้องได้รับการสร้างสรรค์และพัฒนาไปด้วยกันตลอดเส้นทางไปสู่ประชาธิปไตยโดยต้องมีผู้นำและกลุ่มคนที่หลากหลายมีพลังในการสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลง อย่างเอาจริงแน่วแน่
เป็นบทบาทของแนวหน้าและแนวหลัง ที่จะต้องสามัคคีร่วมมือร่วมใจกัน เดินหน้าไปด้วยกัน
นี่คือ “งานแนวหน้า” ที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม : ต้องการคิด-ทำจริง “Change with คิด & ทำ”
lวันนี้ได้มาสู้ “แนวหน้า” อีก เป็นหนังสือพิมพ์ที่นำความคิด เพื่อการเปลี่ยนแปลงไทย
https://www.naewna.com/politic/columnist/26146
lจากวันแรก มาถึงวันนี้ เป็นเวลาร่วม ๕ ปี (๒๕๕๙ - ๒๕๖๔) ประชาชนชาวไทย ได้อะไรบ้าง? จาก “แนวหน้า”
๑.นสพ.แนวหน้า
๒.บทบาทแนวหน้า : ของผู้นำสังคมไทย และชาวไทย
๑.นสพ.แนวหน้า : ได้ทำหน้าที่ของสื่อ (นสพ.) ที่มีคุณภาพ และจรรยาบรรณของสื่อที่ดี
โดยสามารถทำตาม “คำขวัญ” : มั่นคง ตรงไป ตรงมา ได้ดีระดับหนึ่ง
lกล่าวโดยรูปธรรม คือ
-ชาวบ้าน สามารถ ได้รับรู้ “ ข่าวสารข้อมูล ที่ตรงไปตรงมา “จากการอ่านนสพ. และสื่อที่มีคุณภาพ
รวมทั้ง “นสพ.แนวหน้า” ที่มีเนื้อหาสาระ ที่หลากหลาย ที่ผู้อ่านได้ประโยชน์
“คอลัมน์ ข่าวเด่น พระราชสำนัก การเมืองโลกธุรกิจ อาชญากรรม กทม. ในประเทศ เกษตรต่างประเทศ กีฬา
ผู้หญิง บันเทิง ยานยนต์ Like สาระ”
-คอลัมน์ ที่มี “คอลัมนิสต์” ที่หลากหลาย ให้ความคิดความเห็น หลากหลายมุม ส่วนอื่นๆ ให้ความรู้ ความบันเทิง ความสุข เพลิดเพลิน
-จุดเด่นหนึ่ง คือ “มีการสรุป มติ ครม.” ทำให้ ประชาชนได้รับรู้ว่า “รัฐบาลของเรา” ทำอะไรไปบ้าง?
-เรื่องที่มีความสำคัญ ที่เป็นหน้าที่ของ “ประชาชนชาวไทย” คือ การปกป้องรักษา “การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
นสพ.แนวหน้า เป็น นสพ.ฉบับหนึ่ง ที่ได้ทำหน้าที่ที่ดี ในเรื่องนี้ และมีส่วนไม่น้อย ที่ทำให้ “ประชาชนส่วนใหญ่” ที่รัก “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน”
สบายใจ และมีสุข
ในฐานะ ที่เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่“รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ” ทั้งโดยความคิดและการปฏิบัติตลอดชีวิตที่ผ่านมา อย่างตรงไปตรงมา
ขอขอบคุณ “นสพ.แนวหน้า”
และเชื่อมั่นว่า “จะได้ทำหน้าที่ สื่อที่มีคุณภาพและจรรยาบรรณ” คู่กับสังคมไทย ต่อไป
l๒.บทบาทแนวหน้า : ของผู้นำสังคมไทย และชาวไทย
กาลเวลา นำประเทศไทยและประชาชน ก้าวมาถึงจุด : ที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สังคมของสังคมไทยระหว่างการย่ำอยู่กับที่ หรือถอยหลังกลับไปสู่วิกฤติที่จะหนักมากขึ้นและการที่สามารถจะก้าวผ่านระยะเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคม
ที่ดี พ้นทุกข์ มีสุข และพัฒนาไปอย่างยั่งยืน
ซึ่งมิใช่จะสามารถไปสู่จุดทั้งสองได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่ จะต้องใช้เวลาที่ยาวนานพอสมควร
แต่ก็จะมิใช่ยาวนานมาก
เพราะ
๑.สังคมไทยก้าวมาสู่ยุค “สังคมที่ผู้คนในสังคม มีอายุยืนยาวมากขึ้น และจำนวนคนเกิดลดลงมากพอควร”
๒.การเจริญก้าวหน้าในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การแพทย์ ฯลฯ พัฒนาไปในอัตราเร่ง เร็ว
๓.ทางด้านสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ โรคภัยไข้เจ็บและทรัพยากรธรรมชาติฯ ก็พัฒนาไปรวดเร็ว ทั้งลบและบวก
๔.ความขัดแย้งทางความคิด อุดมคติ อุดมการณ์ ของคนในประเทศและระหว่างประเทศ มีความซับซ้อน รุนแรงขึ้น
๕.ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันระหว่างประเทศ มีผลทั้งบวกและลบต่อประเทศและประชาชนสูงขึ้นและรวดเร็ว
๖.ความคิด ความรู้สึกของประชาชนและโลก ขัดแย้งกันมากและรุนแรงขึ้น ระหว่าง “ความรัก และความเกลียด”
๗. ฯลฯ
lในภาวะสภาพการณ์เช่นนี้ เรียกร้องต้องการ “สิ่งที่จำเป็น” ที่เข้ามากอบกู้ พยุง และผลักดันบ้านเมือง
๑.ผู้นำรัฐบุรุษ ที่จักสามารถนำพาสังคมและประชาชนไทย ก้าวผ่านปัญหาอุปสรรค อย่างมีจังหวะก้าว
๒.การร่วมมือกัน และความสามัคคีของสถาบันหน่วยงาน และฝ่ายต่างๆ ที่หันหน้าเข้าหากันและเข้าใจกัน
๓.การปฏิรูป “การเมือง พรรคการเมือง ระบบราชการ ระบบทุน สื่อฯ และประชาชน” ครั้งใหญ่
๔.กระบวนการยุติธรรม เป็นหัวใจหนึ่งของการแก้ปัญหา ที่จักทำให้เกิดความเป็นธรรม ประสิทธิภาพทันกาล
๕.การสรุปบทเรียนครั้งใหญ่ของชาติ ให้รู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า
(๑) ปัญหาวิกฤติของประเทศและประชาชน ทั้งที่เกิดมาแล้ว และจะเกิดต่อไป เกิดจากอะไร?
(๒) การแก้วิกฤติครั้งใหญ่นี้ ต้องใช้ “ใคร สถาบันฯใด”
เข้ามาแก้
(๓) ต้องใช้ “วิธีการใหม่” มิใช่ “วิธีการเก่า”ที่ไม่ได้ผลและซ้ำเติมปัญหาให้หนักขึ้น
(๔) การแก้วิกฤติ โดยผู้นำและรัฐบาลที่มีคุณภาพนั้น ต้องมีความมั่นคงและมีเวลายาวนานพอฯ
(๕) การศึกษาประวัติศาสตร์ไทย ที่สามารถอยู่รอดปลอดภัย มาถึงทุกวันนี้ ได้แสดงถึง “ศักยภาพของสถาบันหลักของสังคมไทย ที่มีพลัง ความสามารถสูง”
จึงถึงเวลา ที่ “ผู้นำของฝ่ายต่างๆ และประชาชน” จะต้องตระหนัก และการนำมาใช้ให้ทันกาล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี