1.เบื้องต้น ผมขออนุญาต เล่า “เกร็ดบางเรื่องของตนเอง” ที่อาจจะเป็นประโยชน์บ้าง?
lเรื่องรายได้ รายจ่าย จากการ “ทำงานด้วยใจเอาจริง และจริงใจ ด้วยความรัก ความสุข” หลังเกษียณจากการทำมาหากิน เพราะมีเงินเก็บพอควร ที่จะใช้ในชีวิตที่เหลือ และให้ลูกหลาน
บางช่วงทำงาน มีรายได้มากพอควร สมกับค่าแรงคิดและทำอย่างหนัก มีงานออกดอกออกผลเห็นประจักษ์และตัวเองก็ใช้จ่ายอย่างประหยัด จากการมีชีวิตการเป็นอยู่ที่เรียบง่าย พอเพียง
การเพิ่มรายได้ จากการใช้เงินที่มีไปลงทุนในที่ปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยง
คือ ได้นำไปออกดอกออกผล โดยส่วนใหญ่เป็นการซื้อพันธบัตรรัฐบาล ที่ให้ดอกผลสูงพอควร (การซื้อพันธบัตรฯ ในยุคดอกเบี้ย ๕-๖% ต้องไปเข้าคิวรอคอยหลายชั่วโมง)
เงินที่เก็บหอมรอมริบมาได้ นอกจากการใช้จ่าย เพื่อตนเองและครอบครัว แล้ว
-ให้ลูกไป เพื่อที่เขาจะสามารถนำไปต่อทุนในการทำงานฯ เป็นการทำหน้าที่ พ่อแม่ที่ดี ที่ให้ทั้งความคิด การเป็นแบบอย่าง และทุนเริ่มต้นในการอยู่การทำงานฯ
-และได้ “กันเงินบางส่วน เพื่อเจือจุนสังคม” ให้กับเพื่อนมิตรที่ทุกข์ ขาดแคลน และมีความจำเป็น
lเพื่อนให้เรา และเราก็ให้เพื่อน ในฐานะความเป็นมนุษย์ ที่เป็นสัตว์สังคม ต้องอยู่ร่วมกันในสังคม
ผู้มีใจเมตตา กรุณา คิดเรื่องส่วนรวม : ที่ผมมีโอกาสไปทำงานด้วย จึงให้ค่าตอบแทนที่สูงพอควรจากการได้เห็น : หลักการทำงาน เราเอาผลงานที่มีคุณค่าและประโยชน์ต่อส่วนรวม เป็นตัวตั้งและทุ่มเท “ความคิด กายใจ” เอาจริง ทำงานแบบไม่มีวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ก็ทำ และสรุปบททวนแก้ไขปรับปรุง เพื่อให้สามารถทำงานได้มากขึ้น และดีขึ้น ตลอดเวลา
ทำให้ต่างคนต่างได้ เป็น “WIN - WIN Solution” ทั้งผลงาน และความรู้สึกที่ดีต่อกัน
ผู้ว่าจ้าง ก็ได้ผลงาน และความรักความจริงใจ ฉันมิตร
ตัวเรา ก็ได้ คิดและพัฒนาใน “ความคิด จิตใจ และการงาน” ที่มีความก้าวหน้าขึ้น
อีกส่วนหนึ่ง เป็นรายได้จากการเขียนหนังสือ ทั้งเรื่องการเมือง และหลักคิดในการใช้ชีวิตฯซึ่งมีเพื่อนมิตร ที่เข้าใจ เห็นใจฯ ต้องการสนับสนุนช่วยซื้อและนำไปมอบต่อ
lการเขียนหนังสือ (หรือการบันทึกชีวิตและการทำงาน) มีคุณค่า และประโยชน์
-ทำให้เราได้เห็นและทบทวนตัวเอง หลังจากเวลาผ่านไป ว่าเราได้ทำอะไรไปบ้าง ต่อตนเองและสังคม
-ทำให้เราสามารถปรับปรุงและพัฒนาตนเองได้ตลอดเวลา
-เป็นการเผยแพร่ ข้อมูลข้อเท็จจริง ให้กับสังคม และสาธารณะ (ปัญหาใหญ่ไม่น้อย ที่เกิดขึ้นในสังคมที่มีความขัดแย้งสูง คือการพูด การเขียน ในเรื่องราวที่ไม่เป็นความจริง เพื่อหวังยกตัวเอง ให้คนเชิดชู : ของผู้นำบางส่วนโดยเฉพาะ เรื่องสถานการณ์การเมืองในกรณีต่างๆ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในช่วงต่างๆ)
เป็นการนำเสนอหลักคิดที่ดีถูกต้อง เพื่อให้คนอ่านคนฟัง นำไปประยุกต์ใช้และพัฒนาต่อไป
lการศึกษา เรียนรู้ และเลือกสรร นำมาใช้ อย่างสอดคล้องกับชีวิต ที่เราสามารถนำมาใช้ได้จริง
อีกส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เราก้าวหน้าขึ้น ทางความคิด นอกจากเรื่องของการบ้านการเมือง ตามอุดมคติ คือ“การศึกษาเรียนรู้ ในเรื่องของธรรม” ทั้งจากการศึกษา ทำความเข้าใจ ด้วยตนเอง และจากผู้ที่มีภูมิ
ในการฟัง “ความคิดความเห็นที่มีคุณค่าของผู้นำทางสังคมฯ” เราได้อะไรหลายอย่าง?
-เรื่องราว ที่ท่านพูด และตอบเมื่อมีคนตั้งคำถาม
-หลักคิดการทำงาน : ที่มีลักษณะทั่วไป และที่สำคัญคือ ลักษณะเฉพาะของแต่ละคน
-ท่วงทำนองท่าทีที่แสดงออก (อย่างเป็นผู้ใหญ่ ด้วยความรักและเคารพตนเอง และผู้ฟัง)
-เรื่องข้อมูล อะไรควรเชื่อ ไม่ควรเชื่อ และบางเรื่อง อย่าเพิ่งสรุป เมื่อข้อมูลไม่ครบ ไม่พอ
-คุณธรรม และคุณค่าทางจิตใจที่ท่านมี ท่านเป็น
-และการนำ “ความคิดฯ” ที่ได้รับมาสรุปทบทวน(แต่ละคน ล้วนมีข้อดี ข้ออ่อน คนดี มีข้อดีเป็นหลัก เราก็เลือกสรร “ข้อดี” มาประยุกต์ใช้กับชีวิต)
-การนำมา “ปรับปรุงและพัฒนาตนเอง” ให้ดีขึ้น ให้ก้าวหน้า โดยเฉพาะ “การมีความสุขในการทำงาน”
ผมคบผู้คนมากมาย หลากหลาย ในแทบทุกระดับ
ทั้งเพื่อนร่วมเรียน เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมกิจกรรม และคนที่ได้พบปะ สนทนาในชีวิต เพราะ “ชีวิตคน” เป็น “สัตว์สังคม” คือ อยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ทั้งทางตรงและทางอ้อมและ “ทุกคน” มีทั้งข้อดี และข้ออ่อน และแต่ละคน ก็มีการเปลี่ยนแปลง ความคิดยิ่งเติบโตขึ้น ประสบการณ์ต่างกันไป และในยุคหลัง ที่ความขัดแย้งทางความคิด พัฒนาไปมาก
หากเราตั้งใจสังเกต เราจะได้ “อะไรไม่น้อย” จาก “ทุกคน” ทั้งคนเห็นด้วย และเห็นต่าง ทั้งคนที่อยู่ฝ่ายเรา ฝ่ายเขา และวางตัวเป็นกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร
ที่สำคัญ คือ “เราต้องมีความรัก ความจริงใจ และเคารพเขา”
เราต้อง “ให้” ก่อน จึงจะได้รับตอบ
เราต้อง “Respect” เขาก่อน เราจึงจะได้ Respectกลับมา และที่สำคัญ ต้องทำด้วย “ความจริงใจ”
และ “อย่าเสียใจ” : เพื่อนมิตร ที่เรามีความรัก ความจริงให้เขา แต่เขากลับ “มีความจริงใจ” ต่อเรานั่นเป็นเรื่องของเขา เรื่องของเรา คือ “เราต้องคิดดีทำดี ต่อตัวเอง และผู้อื่น โดยเฉพาะส่วนรวม”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี