ในแวดวงสังคมไทยเรา ณ วันนี้ คนส่วนใหญ่ ทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการ ฝ่ายธุรกิจ ฝ่ายสื่อ ฝ่ายวิชาการฝ่ายวิชาชีพต่างๆ ไปจนถึงบรรดาผู้มีอันจะกินน้อยใหญ่ต่างมีความรำคาญอกรำคาญใจระคนไปด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ และเหยียดหยามต่อการที่คนวัยเรียนคนรุ่นหนุ่มรุ่นสาว “บังอาจ” ออกมาตั้งคำถามเชิงเรียกร้องให้ชี้แจง ตอบสนอง เกี่ยวกับ
-การคงอยู่ในอำนาจการบ้านการเมืองของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
-การแก้ไข หรือการเขียนกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อวางโครงสร้างและเนื้อหาการเป็นสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริง หรือในรูปแบบและลักษณะที่อารยะโลกเขาเป็นกัน
-และที่เกี่ยวกับสถานะและบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ในโลกยุคโลกาภิวัตน์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ
เมื่อเวลาผ่านไป ความรำคาญ จงเกลียดจงชัง อาฆาตแค้น ก็ทวีคูณไปยิ่งๆ ขึ้น โดยเฉพาะเมื่อวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวที่ออกมาชุมนุม ต่างเสพ และใช้โซเชียลมีเดียสมัยใหม่ ด้วยวาจาสามหาว หยาบคาย ต่ำช้า ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ผิดพลาดร้ายแรงของฝ่ายชุมนุมประท้วง เพราะในการเรียกร้องใดๆ ต่อสังคมนั้น หากเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ก็ไม่ได้มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องใช้ถ้อยคำสามานย์เหล่านั้น
และเมื่อคนรุ่นใหม่คิดจะตั้งใจทำกิจการงานให้บ้านเมืองดีขึ้น ด้วยความจริงใจ และบริสุทธิ์ใจแล้ว ก็ยิ่งจะต้องไม่มีพฤติกรรมชวนหาเรื่องหาราว ชวนทะเลาะเบาะแว้ง และลบหลู่ดูหมิ่นผู้อื่น เสมือนว่าพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ครูบาอาจารย์ ไม่เคยพร่ำสั่งสอนกันมา
ในประเด็นนี้ บรรดาผู้ชุมนุมเรียกร้อง สมควรที่จะต้องยุติความหยาบคายต่างๆ และออกมากราบขอขมาชาวไทยทุกคน ด้วยความจริงใจ เพื่อที่จะได้ยกโทษให้กัน แล้วเริ่มต้นเจรจาความกันใหม่ บนพื้นฐานของความสุภาพให้เกียรติซึ่งกันและกันทุกฝ่าย
นอกจากนั้น การตั้งประเด็นเรียกหา ถามหาคำตอบดังกล่าว จากฝ่ายผู้ชุมนุมประท้วง ก็มิเคยได้รับคำตอบให้ความกระจ่าง หรือชี้แจงจากทางรัฐบาลว่าทำไม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงไม่ลงมาเป็นผู้ผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามครรลองของประชาธิปไตยแบบสากล และฝ่ายผู้เรียกร้องก็จะต้องชี้แจงแถลงไขต่อสังคมให้กระจ่างและชัดเจนว่าการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ที่พวกเขาต้องการนั้น จะปฏิรูปอะไรบ้าง และอย่างไร รวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ให้สังคมได้พิจารณา
เวลาก็ล่วงมาร่วมปีแล้ว ทางฝ่ายพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมกับฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการ ไปจนถึงบรรดาพวกการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านก็ยังไม่ได้นำเอาคำถามเชิงข้อเรียกร้องของฝ่ายเยาวชนหนุ่มสาวไปพิจารณาเสียที เสมือนเป็นการวางท่าทีว่า อยากถาม ก็ถาม ฝ่ายฉัน (พลเอกประยุทธ์ และคณะทั้งหลาย) ไม่ตอบ ถ้าต้องตอบก็จะใช้กฎหมายเป็นอาวุธเป็นเครื่องมือตอบโต้ และทำลายล้างแต่อย่างเดียวเสมือนเป็นการใช้อำนาจรัฐปราบผู้เห็นต่าง ผู้ร่วมรักชาติและห่วงใยบ้านเมือง
ฉะนั้น แทนที่จะตอบ และแทนที่จะนั่งจับเข่าคุยกัน ก็ได้แต่จัดการกับการประท้วงด้วยข้อกฎหมายและอำนาจรัฐ การเผชิญหน้าและการปราบปรามการประท้วงด้วยการอ้างกฎหมายที่ห้ามโน่นห้ามนี่ ทั้งที่เป็นเรื่องข้องเกี่ยวทางการเมือง ก็ต้องพูดจากันตามภาษาการเมือง มิใช่ตามภาษากฎหมายที่มีผู้ใช้อยู่ฝ่ายเดียว (ฝ่ายพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ)
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีครอบครัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดถึงหัวอกของฝ่ายพ่อแม่เยาวชนเหล่านั้นมากน้อยแค่ไหน เขาผิดหรือไม่ที่ตั้งคำถาม ตั้งข้อเรียกร้อง และขอคำตอบ จากผู้นำประเทศที่บอกว่า ขออาสามาแก้ไขปัญหา แต่กลับทำตัวเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาเสียเอง
ในภาพรวมของความขัดแย้งทางสังคมครั้งล่าสุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ นั้นมีความสนใจเพียงใดที่มีกฎหมายเป็นอาวุธ และก้มหน้าก้มตาใช้อย่างเมามัน ซึ่งอาจจะคิดว่า คำถามต่างๆ คงจะหายไปเอง เมื่อปราบการชุมนุมได้ราบคาบ โดยแกนนำทั้งหลายมีชีวิตอยู่ที่ศาลาศาล และศาลาคุก
จิตใจเราทำด้วยอะไรกัน? จึงยอมปล่อยให้เหตุการณ์เหล่านี้ยังดำเนินไปอย่างไม่รู้จบ
ในเมื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คือต้นเหตุของปัญหา แล้วก็ยังสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ไม่แน่ใจว่า ไม่มีใครรอบๆ ตัวท่านได้ช่วยตักเตือน หรือบอกกล่าวเลยหรือ?
หรือจะปล่อยให้สังคมไทยแตกแยกขึ้นเรื่อยๆเช่นนี้?
พอหรือยัง? พวกเราจะหันหน้ามาคุยกันได้แล้วหรือยัง?
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี