“อุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com ยืนหยัดหนักแน่นด้วยสาระข้อเท็จจริงทั้งเศรษฐกิจ, การเมือง, บันเทิง แฟชั่นอินเทรนด์ แบบผู้ญิ้ง… ผู้หญิง ผลแข่งขันความเคลื่อนไหวกีฬาน่าสนใจทั่วโลก” โดย “ไม้หน้าสาม” เริ่มต้น “บุคคลแนวหน้า” ฉบับนี้ด้วยการเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกผู้ทุกหมู่เหล่า “ส่งพลังใจกำลังใจ”ให้แก่ “ฮีโร่ขุนพลเสื้อกาวน์ และนักรบชุดขาว รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์, เหล่าพี่น้องอสม.” ทั่วประเทศที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยเหลือผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ทั้งจากสายพันธุ์เดิม และสายพันธุ์ใหม่ให้กลับมามีสุขภาพปกติใช้ชีวิตได้ดังเดิม...
nn ด้วยความจริงที่ต้องยอมรับกันว่า การแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” นั้นข้อเท็จจริงปรากฏว่าแพร่กระจายไปทุกภูมิภาคของโลกและเชื่อว่าไวรัสนี้จะอยู่กับมวลมนุษยชาติสืบไป เราจึงต้องอยู่ร่วมกับมันให้ได้โดยการปฏิบัติตนตามมาตรการสาธารณสุข หากศึกษาข้อเท็จจริงจากกรณีของ “ไข้หวัดใหญ่สเปน” ที่เกิดขึ้นในค.ศ.1918 จากไวรัสที่มีรหัสพันธุกรรมว่า H1N1 ซึ่งเกิดโดยมีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 ล้านคน ซึ่งถือเป็นมหันตภัยทางธรรมชาติ โดยไม่มีรายงานยืนยันชัดเจนว่าจุดเริ่มต้นของโรคอยู่ที่ใด แต่พบว่า “ทหารจากฟอร์ทไรเลย์มลรัฐแคนซัส” ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สเปนในโรงพยาบาลที่แคมป์ฟันสตัน สหรัฐอเมริกา ก่อนจะแพร่ระบาด...
nn แม้ไข้หวัดสเปน H1N1 จะยุติบทบาทไปเมื่อเกือบ 100 ปี ทว่าก็มีการกลายพันธุ์มาเป็นรหัส H5N1 เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ชื่อ H5N1 ซึ่งพบได้ในสัตว์ปีก ค้นพบครั้งแรกในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในประเทศอิตาลี โดยเกิดจากการผสมผสานของไวรัสสายพันธุ์ของคน หมู และนกแต่เป็นการแพร่ระบาดจากคนสู่คน ดังนั้นมนุษยชาติจึงเห็นการคงอยู่และพัฒนาการกลายพันธุ์ของไวรัสเหล่านี้ตลอดมา ดังนั้น ไวรัสโคโรนาก็เช่นกันคงต้องอยู่กับมวลมนุษยชาติไปชั่วกัปชั่วกัลป์ ... แน่นอน...
nn การประกาศยืนบนขาตัวเองของ “หมอหนู – อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข” จึงเป็นเรื่องที่สมควรได้รับการชื่นชมจากสังคมไทย แต่อย่างไรคือการยืนบนขาของตนเองเล่าหมอหนูไหนๆ ก็ไม่ออกตามเสียงเรียกร้องแล้วอธิบายพอเข้าใจโดยสังเขปด้วยเถิด...
nn วันนี้ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)”ถูกความเจ้าเล่ห์เพทุบายของนักการเมืองฉกฉวยนำมาเป็นประเด็นกระหน่ำซ้ำเติมสังคมไทยให้เกิดความตื่นตระหนกหวาดระแวง ลดทอนพลังสามัคคีแต่ทวีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น นักการเมืองบางคน สื่อมวลชนปีศาจบางตัว ไม่สำรากสำรอกก็ไม่มีใครว่าท่านเห่าหอนไม่เป็นหรอกกระมัง อย่างกรณี “วัคซีนไฟเซอร์” ย้อนไปก็หาประโยชน์มิได้คนไม่ทำงานเท่านั้นมิใช่หรือที่ไม่เคยผิดพลาด “ไม้หน้าสาม”เชื่อว่าคนที่ลงมือทำงานทุกเรื่องทุกประเด็นที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอยากได้กำลังใจอยากได้ข้อเสนอแนะมากกว่าสิ่งอื่นใด ขณะที่คนว่างงานเอาแต่เห่าหอนกัดจิกหาประโยชน์มิได้มีมากกว่าคนทำงานอย่างจริงจังเอาเป็นเอาตาย ...
nn “นักการเมืองพหูสูตร” ผู้หยั่งรู้ทุกเรื่องอย่างงูๆ ปลาๆ และไม่รู้เรื่องที่กระทำผิดกฎหมายสักเรื่องโทษสากกะเบือยันเรือรบออกมาแนะ “ทหารแก่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กัปตันเรือแป๊ะ” ให้สละเรือเพื่อเปลี่ยนไต้ก๋งคนใหม่แทนการล่มกระดานคว่ำเรือ เชื่อว่าไต้ก๋งคนใหม่ใช้เวลาราว 2 ปี จากนี้ทุเลาปัญหาชาติแล้วจัดการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ ยกเหตุคว่ำเรือตอนนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ 3 เดือนเลือกตั้งพร้อมสรรหารัฐบาลใหม่จะไม่ทันการณ์ แล้วสละเก้าอี้ตอนนี้สรรหาไต้ก๋งใหม่ใช้เวลากี่เดือนหารัฐบาล ฮันนีมูนอีกกี่เดือนจึงเข้าใจปัญหา วางมาตรการแก้ไขปัญหาพิบัติภัยธรรมชาติ “โควิด-19” นี้ได้เล่า... หากเปลี่ยนขั้วตอนนี้ทำไม่ได้ดังเห่าหอน ก็จะประกาศว่าผลไม้พิษของต้นไม้พิษคสช.ร้ายเกินกว่าเยียวยาเสียกระมัง ต่างจาก “จตุพร พรหมพันธุ์” ทำนายทายทักไม่นานนักคนชื่อเหมือน สันดานต่าง “ประยุทธ์ จันทร์โอชา”จะล้มกระดานชิงเอาตัวรอดให้เลือกตั้งใหม่...
nn ไม่ใช่แค่คู่ลิ้นกับฟันอย่าง “ภูมิใจไทย– พลังประชารัฐ” เท่านั้น ล่าสุด คนร่วมรัฐบาลที่ชื่อเหมือนอย่าง “พี่ตู่ อู๊ดด้า – จุรินทร์ ลักษณศิษฎ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ถึงกับ “ไอกระแอม” ไม่สบายใจที่แกนนำรัฐบาลส่ง “รัฐมนตรีแป้งฝุ่น – ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่เคยถูกวางตัวให้ไปดูแลพื้นที่จังหวัดพะเยา เชียงราย หนองบัวลำภูล่าสุดมีคำสั่งให้ “อาจารย์แหม่ม - นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อนุบาลการเมือง” ไปดูแลพื้นที่เหล่านั้นแทน แล้วให้ “ธรรมนัส” ลงไปตีท้ายครัวฐานที่มั่นพรรคประชาธิปัตย์ โดยให้ดูพื้นที่สงขลา นครศรีธรรมราช ภูเก็ต หลังเคย “เสียมารยาท” ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมที่เขต 5 นครศรีธรรมราช แทน “นายเทพไท เสนพงศ์” จนได้รับชัยชนะโดยมี “ผู้กองธรรมนัส” เป็นโต้โผใหญ่อำนวยการเลือกตั้งมาแล้ว...
nn ท่ามกลางความร้าวฉานในพรรคร่วมรัฐบาลที่มีจากหลายประเด็นไม่เว้นแม้แต่ปม “การแก้ไขรัฐธรรมนูญ” เสียงอื้ออึงกรณี “พรรคเพื่อไทย” ทนพิษไม่ไหวเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าร่วมรัฐบาลแทน “พรรคอีสานเขียว– ภูมิใจไทย” จึงกระหึ่มในสภากาแฟอย่างมีนัย จะกระตุ้นสามัญสำนึกและจิตสาธารณะ เป็นเรื่องที่สมควรกระทำอย่างยิ่ง แต่ก็เอาแต่พอควรพองามปรับ 20,000 บาทกับผู้ไร้จิตสำนึกที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว แต่แจงให้ชัด บอกให้ดังๆ ว่าเงินค่าปรับจำนวนดังกล่าวนี้จะนำเข้าเป็นรายได้ส่วนไหนไว้ใช้ในเรื่องใดและต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมไม่เหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะในกรณีมีภาพเผยแพร่ตามสื่อโซเชียล เป็นภาพการประชุมเรื่อง “วัคซีน” ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยในภาพปรากฏว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เข้าใจภาษาคนไม่สนใจประกาศกรุงเทพมหานคร นั่งประชุมโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ทั้งที่มีข่าวปรากฏว่า “ตึกไทยคู่ฟ้า” มีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิด-19 เกือบ 10 ราย...
nn ทิ้งท้ายด้วยเรื่องดีๆ ของวงการศึกษาไทย หลังเปลี่ยน “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ” จาก “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” เป็น “ตรีนุช เทียนทอง” ปรากฏว่า “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”ได้รับคัดเลือกให้เป็น “มหาวิทยาลัยแห่งความยั่งยืนอันดับ 1 ในเอเชีย และอันดับ 23 ของโลก” จาก 1,115 แห่ง ซึ่งถือเป็นแห่งแรกครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยไทยได้รับอันดับนี้
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี