การปั่นกระแส “ย้ายประเทศกันเถอะ” นับเป็นอีเว้นท์การเมืองเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล ด้อยค่าประเทศไทย ในยามสถานการณ์โควิด เป็นสำคัญ
ในจำนวนยอดสมาชิก 6 แสนคน เชื่อว่ามีไม่ถึง 100 คน ที่จะย้ายประเทศไปจริงๆ
แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ทางการสวีเดน โดยเฟซบุ๊คสถานทูตสวีเดน ได้ออกโฆษณาที่สอดรับกับกระแสดังกล่าวอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย ด้วยการโฆษณาประเทศสวีเดนว่าน่าเข้ามาอยู่ร้อยแปด
ปรากฏว่า ดร.บุญส่ง ชเลธร หนึ่งใน 13 กบฏรัฐธรรมนูญ เมื่อคราว 14 ตุลา ใช้ชีวิตอยู่ในสวีเดนมานานหลายสิบปี ปัจจุบัน เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เขียนตีแผ่ กระชากหน้ากากโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองของทางการสวีเดนอย่างถึงกึ๋น
ว่าด้วยเรื่อง “ฝันเข้าสวีเดน : การโฆษณาที่ให้ความจริงครึ่งเดียว”
เนื้อความที่น่าสนใจ ระบุว่า
....
Fb: Embassy of Sweden in Bangkok ทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงในวันสองวันมานี้ ขณะที่การโหมกระแสว่าด้วยการย้ายหนีรัฐบาลคุณประยุทธ์ไปอยู่ต่างประเทศกำลังมาแรง
Fb ของสวีเดนก็ออกมาโฆษณาชวนเชื่อรัวๆ ว่า “ท่านกำลังฝันจะย้ายประเทศอยู่หรือเปล่า เราขอนำเสนอเหตุผลว่าเหตุใดประเทศสวีเดน อาจเป็นจุดหมายปลายทางที่ดี”.. บลา บลา บลา
ผมในฐานะของคนที่อยู่ในสวีเดนมาแล้ว 30 ปี ทุกวันนี้ลูกสาวที่เกิดที่นั่นก็ยังอาศัยอยู่ ไม่ได้ย้ายตามพ่อมาไทย
ถามว่า ประเทศสวีเดนดีไหม เป็นสังคมที่น่าอยู่หรือเปล่า
ตอบได้ว่า เป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ระบบรัฐสวัสดิการที่ดูแลคนตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย ถือเป็นระบบที่ใช้ได้ผล และดีเป็นลำดับต้นๆ ของโลกก็ว่าได้ เช่นเดียวกับ
นอร์เวย์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และไอซ์แลนด์ ที่สำคัญคือเป็นประเทศประชาธิปไตยสุดๆ เท่าที่จะมีได้ประเทศหนึ่งในโลก
เมื่อ fb สวีเดนออกมาอย่างนั้น ภายใน 22 ชั่วโมงที่โพสต์นี้ออกไป ก็มีคนเข้าไปกดไลค์ถึง 5.1 หมื่นครั้ง มีคอมเมนต์เข้ามา 8.1 พันครั้ง และแชร์ออกไปถึง 3.6 หมื่นครั้ง
นับว่า fb สวีเดนประสบความสำเร็จในการโฆษณาชวนเชื่อ ยิ่งดูจากคอมเมนต์ที่เข้ามาที่ส่วนใหญ่ชื่นชม และแน่นอนว่าจำนวนไม่น้อยวาดหวังจะเก็บกระเป๋าบินกันไปเลย
Fb สวีเดน พูดความจริงแค่ครึ่งเดียว
และนี่คือสิ่งที่น่าสงสัยว่า ที่โพสต์มาอย่างนั้นในวันนี้ ต้องการอะไร
เด็กๆ ที่ดูแล fb คิดอะไรกันอยู่หรือ
สวีเดนน่าอยู่ – ใช่
แต่การเข้าไปนั้น –ยากมาก
ถ้าไม่มีคุณสมบัติเข้ากับเงื่อนไขของการเข้าไปอยู่อาศัยแล้ว ไม่มีโอกาสได้เข้าประเทศครับ
ช่วยพิจารณาจุดนี้ด้วย
สวีเดนไม่ได้ให้ใครเข้าไปง่ายๆ
การเข้าสวีเดนได้ หลักกว้างๆ ก็คือ เข้าไปอย่างนักท่องเที่ยว อันนี้ไม่ยาก ซื้อทัวร์ไปง่ายที่สุด แต่จะอยู่เกินกว่ากำหนดการท่องเที่ยวไม่ได้ หรือเข้าไปแบบนักเรียน แต่เรียนจบหรือเลิกเรียนเมื่อไหร่ ต้องกลับไทย ยกเว้นแต่ระหว่างเรียนมีแฟนหรือคู่สมรสที่อยู่ที่นั่น ก็สามารถขอทำเรื่องเปลี่ยนวีซ่าจากนักเรียนไปเป็นผู้อยู่อาศัยและทำงานได้
แต่กับการเข้าไปทำมากิน อยู่อาศัยอย่างถาวร อันนี้มีเงื่อนไขแล้ว
หลักๆ การขอไปอยู่ได้ก็คือ มีแฟนหรือคู่สมรสที่อยู่ที่นั่น หรือขอตามพ่อแม่ ผู้ปกครองเข้าไป (แต่อายุต้องไม่เกิน 21 ปี) หรือเป็นคนที่อยู่อาศัยอยู่แล้วในประเทศยุโรปเหนือ (มี 5 ประเทศ) หรืออยู่ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป(มี 27 ประเทศ) จึงย้ายไปได้ หรือมีองค์กร บริษัท ห้างร้านในสวีเดนรับรอง ทำเรื่องขอเราเข้าไปเป็นคนงาน
อีกอันที่มี คือ ขอเข้าไปเป็นผู้ลี้ภัย
นี่คือเงื่อนไขที่เป็นจริง ไม่ใช่ว่านึกจะบินก็บินไปได้
อันนี้ fb สวีเดนควรแจงให้ชัด จะมาแค่อ้างว่ามีรายละเอียดอยู่ในเว็บอื่นๆ ของสถานทูต เข้าไปหาอ่านเองได้ แค่นี้ไม่ได้ ควรเสนอและให้ข้อมูลที่ชัดเจนและ
ถูกต้องให้มากกว่าการพูดแค่ “ฝัน” จะย้ายประเทศ คิดถึงสวีเดน
วันนี้สวีเดนมีคนในวัยทำงาน ตกงานถึง 10% คิดเป็นจำนวนคนถึง549,300 คน สัปดาห์ที่ผ่านมา คนว่างงานเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนถึง 3% ยิ่งยุคโควิด ยิ่งแย่
ในสวีเดน รัฐบาลโดนโจมตีมาก เรื่องหางานให้คนทำไม่ได้
ทางการเมือง พรรคขวาจัด Sverigedemokraterna ที่ต่อต้านคนต่างชาติแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ คะแนนไล่ๆ กันมากับพรรคสังคมประชาธิปไตย Socialdemokraterna และพรรคอนุรักษ์นิยม Moderaterna
แล้วเขาจะให้คนแห่กันเข้าไปทำไม
ถ้าแค่รังเกียจรัฐบาลคุณประยุทธ์ แล้วย้ายไปที่นั่น จะหนีเสือปะจระเข้ ครับ
มีใครเล่าหรือยังครับว่า หลายปีที่ผ่านมานโยบายของรัฐบาลสวีเดนไม่ได้สนับสนุนให้คนต่างชาติเข้าประเทศมากเลย มีโอกาสพิจารณาจากใบสมัคร ถ้ามี
ช่องโหว่ให้ไล่ ให้ส่งกลับแล้ว เขาจะไม่รอช้า คนที่เข้าไปขอลี้ภัยจำนวนมาก รอฟังการพิจารณาเป็นปีๆ อยู่แบบไม่มีอนาคตและไม่เห็น “ความฝัน” ในชีวิต
ที่ถูกจับตัวขึ้นเครื่องบินส่งกลับประเทศก็มีเยอะแล้ว
แม้กระทั่งว่าหลายคนถูกส่งกลับไปประเทศที่เป็นเผด็จการ
และตำรวจที่นั่นรอรับตัวเพื่อยัดเข้าคุก หรือเอาไปประหารชีวิต ก็เกิดเป็นข่าวเสมอ
คนต่างชาติที่เข้าไปอยู่อาศัยแล้วเป็นปีๆ หรือเกิน 10 ปี หลบๆ ซ่อนๆหนีตำรวจหัวซุกหัวซุนเป็นหลายหมื่นคนในประเทศเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยในประเทศ ทุกวันนี้มีแต่เพิ่มจำนวนขึ้น เกินแสนคนแล้วมั้งครับ
ผมไม่ได้เจตนาขัดขวางความสุขใน “ความฝัน” ของใครที่จะออกนอกประเทศ
ที่เขียนมาทั้งหมด ก็พูดเรื่องสวีเดนประเทศเดียว ที่ผมเห็นว่าเด็กๆ ที่ทำ fb สวีเดน ไม่ได้ให้ภาพที่รอบด้านกับผู้สนใจ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง
ถ้าไม่เตือนกันแล้ว “ความฝัน” ที่วาดหวังไว้จะเป็น “ฝันร้าย” ที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเชียวละครับ
....
ย้ำว่า นี่คือข้อเขียนของ ดร.บุญส่ง ชเลธร อดีตซ้ายไทย ที่เคยต่อสู้กับเผด็จทหารของแท้ในอดีต แล้วลี้ภัยไปอยู่สวีเดนยาวนานกว่า 30 ปี
น่าคิดว่า ทั้งหมดนี้ คือ อีเว้นท์การเมืองฉาบฉวยที่มุ่งหวังผลการเมือง และต่างชาติก็สมคบคิดด้วยการตีฉาบฉวย โฆษณาชวนเชื่อ เพราะตนมีแต่ได้กับได้ในทางภาพลักษณ์ ไม่คำนึงถึงมารยาทและความเป็นจริงที่มีต่อคนที่หลงเชื่อเป็นตุเป็นตะเอาเสียเลย
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี