คนปกติซึ่งไม่มีโรคภัยไข้เจ็บหนึ่งคนสร้างขยะในวันหนึ่งเฉลี่ยประมาณ 1.3-1.5 กิโลกรัม แต่ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 มีรายงานว่า
ผู้ถูกกักตัวเนื่องจากเชื้อโควิด-19 สร้างขยะติดเชื้อทางการแพทย์เฉลี่ยคนละ 1 กิโลกรัม ยกตัวอย่างข้อมูลจากสำนักข่าวสิ่งแวดล้อม (green news) ระบุว่า ปริมาณขยะติดเชื้อจากการกักตัว (state quarantine) ที่พัทยา ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 หนึ่งคน อยู่ที่ประมาณ 0.9 กิโลกรัม ผู้ถูกกักตัวทั้งหมดสร้างขยะติดเชื้อรวมวันละ 3,000 กิโลกรัม สิ้นค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บขยะรวม 45,000 บาทต่อวัน ดังนั้นหากคำนวณค่าใช้จ่ายเรื่องนี้ทั้งประเทศ จะเป็นเงินจำนวนมหาศาล
ข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าในช่วง lock down ประเทศไทย พบว่ามีปริมาณขยะติดเชื้อรวม 147,770 กิโลกรัมต่อวัน เพิ่มจากช่วงเวลาปกติประมาณ 1,900 กิโลกรัมต่อวัน ในขณะที่ประเทศไทยมีศักยภาพกำจัดขยะติดเชื้อวันละ 356,000 กิโลกรัม
ขอย้ำว่า ขยะติดเชื้อคือขยะที่ต้องใช้กรรมวิธีกำจัดที่แตกต่างจากขยะทั่วไป เพราะมีเชื้อโรคติดอยู่กับขยะ และยังเป็นตัวแพร่กระจายเชื้อโรคอีกด้วย การกำจัดขยะติดเชื้อที่ดีที่สุดคือการเผาทำลาย เพราะไม่สามารถนำไปฝังกลบได้เหมือนขยะทั่วๆ ไปได้ ดังนั้นการเก็บขยะติดเชื้อและการนำไปเผาทำลายจึงต้องมีขั้นตอนและกรรมวิธีที่รัดกุมมากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันมิให้ผู้เก็บขยะติดเชื้อได้รับเชื้อจากขยะเหล่านั้น
กรมอนามัยกำหนดว่าการทำลายขยะติดเชื้อ ต้องใช้การเผาในเตาเผาชนิดสองห้อง คือห้องเผาขยะติดเชื้อที่ใช้อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 760 องศาเซลเซียส และห้องเผาควันที่ใช้อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 1 พันองศาเซลเซียส เมื่อผ่านสองขั้นตอนนี้แล้วจะได้ขี้เถ้าปราศจากเชื้อ แล้วจึงนำไปฝังกลบเหมือนขยะทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยมีโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้เผาขยะติดเชื้อเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น เช่น ในภาคกลางมีที่จังหวัดนครสวรรค์ ส่วนภาคตะวันออกมีที่จังหวัดระยอง ส่วนภาคใต้อยู่ที่จังหวัดยะลา ในขณะที่มีการระบุว่าปัจจุบันมีเตาเผาขยะอันตรายจากการแพทย์ได้เพียงแห่งเดียวที่กฎหมายอนุญาตตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อมีสถานที่เผาทำลายขยะอันตรายทางการแพทย์จำนวนน้อย ก็จึงเกิดปัญหาการลักลอบนำขยะอันตรายทางการแพทย์ไปทิ้งตามที่ต่างๆ เสมอๆ
หากติดตามข่าวจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จะพบว่าในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดหนัก มีปริมาณขยะติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นวันละ 2 พันกิโลกรัม ซึ่งเกินความสามารถของการเผาทำลายขยะติดเชื้อไปถึง 4 เท่า ซึ่งหมายความว่าก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนมากขึ้นโดยปริยาย
หากจะมองถึงปัญหาขยะติดเชื้อในชีวิตประจำวันของคนไทยในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ก็ขอให้มองไปที่เรื่องการทิ้งหน้ากากอนามัยในแต่ละวัน ก็จะเห็นปัญหานี้ชัดเจน ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทยระบุว่าคนไทยใช้หน้ากากอนามัยเพิ่งขึ้นมากถึงวันละ 1.5 ล้านชิ้นเรื่องนี้เราทุกคนทราบดีอยู่แก่ใจ เพราะทุกคนใช้หน้ากากอนามัยเป็นประจำ แต่ที่เราเห็นกันเสมอๆ คือ คนไทยจำนวนไม่น้อยยังมักง่าย ไร้จิตสำนึก เพราะทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วไว้ตามที่ต่างๆ เช่น ถังขยะทั่วไป ทิ้งไว้ตามริมถนน และตามพุ่มไม้ข้างทาง โดยไม่ได้บรรจุหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วในถุงพลาสติกที่ปิดมิดชิด พฤติกรรมมักง่ายเช่นนี้คือการทิ้งระเบิดเวลาลูกใหญ่ให้สังคมไทยโดยคนมักง่าย ไร้สำนึกสาธารณะ และระเบิดเวลาลูกใหญ่กำลังจะระเบิดในเวลาอันใกล้นี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี