ทีมแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลาย ยืนยันหนักแน่นสอดคล้องต้องกันว่า วัคซีน ที่ดี คือวัคซีนที่เรามี พร้อมฉีดเข้าไปสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายเร็วที่สุดมีประสิทธิภาพยอมรับได้ และอาการไม่พึงประสงค์มีโอกาสเกิดขึ้นเพียงน้อยนิด การฉีดวัคซีนจึงดีกว่าการไม่ฉีดอย่างเทียบกันไม่ได้
แต่สำหรับคนชั่วบางกลุ่ม คนพวกนี้หาเรื่องโจมตีวัคซีนที่เรามี ด้อยค่าสารพัด ไม่สนใจคำยืนยันของแพทย์
ก่อนหน้านี้ พยายามเย้ยหยันว่า ไหนล่ะวัคซีน ไม่เห็นมีวัคซีน ตกขบวนโคแวกซ์
ทางการยืนยันว่า เป็นไปตามแผนการจัดหา ก็ไม่สนใจ
พอเข้าสู่ช่วงที่เริ่มให้จองฉีดวัคซีนกัน เพราะชัดเจนว่าเราได้วัคซีนมาตามแผนแน่นอน ผิดกับหลายประเทศที่เข้าโครงการโคแวกซ์ได้ล่าช้า ไม่ครบจำนวนตามที่ตกลง
คนพวกนี้ ก็หาเรื่องโจมตีวัคซีนที่เรามี ด้วยข่าวเท็จ ข่าวตัดตอนความจริง เอาความกลัวของคนมาใช้เป็นเครื่องมือปั่นกระแสทางการเมือง เพื่อให้คนกลัว ไม่เข้ามาจองฉีดวัคซีนที่รัฐจัดหามาให้ฟรีๆ โดยมุ่งเป้าเดิม
คือไล่รัฐบาล อยากจะได้อำนาจรัฐแทน
ทำราวกับว่า วัคซีนซิโนแวคนั้น ด้อยคุณภาพ อันตราย
ทั้งๆ ที่ ฉีดกันไปแล้วไม่รู้กี่ร้อยล้านคนทั่วโลก รวมถึงผู้นำการเมืองในหลายประเทศ
สส.ฝ่ายค้านในไทยเรา ก็ฉีดกันไปเกือบหมดทุกคนแล้ว ก็ยังไม่ตายสักคน
ยังไม่ต้องเอ่ยถึงวัคซีนแอสตราฯ ที่ผู้นำทั่วโลกฉีดกันมากมาย และเป็นวัคซีนที่ยอดจองซื้อสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในโลก เราสามารถดีลมาผลิตในประเทศได้ ไม่ต้องเสี่ยงว่าจะถูกห้ามส่งออกมาขายให้เรา
เหตุที่คนชั่วมันต้องปั่นกระแสเช่นนี้ เพราะมันเห็นแล้วว่า แผนการฉีดวัคซีนหลังจากนี้มีความชัดเจน เป็นไปได้ เพราะจัดหาสำเร็จ ถ้าจะล้มเหลวก็ต้องสร้างกระแสให้คนกลัว ไม่ยอมมาฉีด
สรุปแผนการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตามที่มีการอัพเดตข้อมูลในที่ประชุม ครม.ล่าสุด ดังนี้
1. แผนการฉีดวัคซีนให้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย 100,000,000 โดส
ความครอบคลุมของวัคซีนร้อยละ 70 ของประชากรไทย ภายในปี 2564 (เดือนพฤษภาคม-ธันวาคม 2564)
ขณะนี้ประเทศไทยมีการจัดหาวัคซีนแล้ว 63,000,000 โดส จึงต้องจัดหา จัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มเติมสำหรับประชากรในประเทศไทยจำนวน 18,500,000 คน หรือวัคซีนจำนวนประมาณ 37,000,000 โดส
โดยการจัดซื้อรวมเป็นวัคซีนที่ประเทศไทยจัดหา จัดซื้อสำหรับประชากรทั้งสิ้น จำนวน 50,000,000 คน หรือวัคซีนจำนวนประมาณ จำนวน 100,000,000 โดส
2. แผนการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของประเทศไทย พ.ศ. 2564
1) วัคซีน Sinovac Biotech จำนวน 2,500,000 โดส (เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2564)
1.1) วัคซีน Sinovac Biotech จำนวน 200,000 โดส วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564
1.2) วัคซีน Sinovac Biotech จำนวน 800,000 โดส วันที่ 27 มีนาคม 2564
1.3) วัคซีน Sinovac Biotech จำนวน 1,000,000 โดส วันที่ 10 เมษายน 2564
1.4) วัคซีน Sinovac Biotech จำนวน 500,000 โดส ปลายเดือนเมษายน 2564
ล่าสุด มาถึงไทยแล้วอีก 1 ล้านโดส เมื่อ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา
จะมาเพิ่มอีก 5 แสนโดส ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ และจะมาอีก 1 ล้านโดสสิ้นเดือนพ.ค.นี้
เท่ากับว่า ในส่วนของซิโนแวค จะได้มามากกว่าแผนเดิม 2.5 ล้านโดส แล้ว
2) วัคซีน AstraZeneca จำนวน 26,000,000 โดส (เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2564) และจัดหาเพิ่มเติมอีก 37,000,000 โดส
2.1) วัคซีน AstraZeneca จำนวน 6,000,000 โดส เดือนมิถุนายน 2564
2.2) วัคซีน AstraZeneca จำนวน 10,000,000 โดส เดือนกรกฎาคม 2564
2.3) วัคซีน AstraZeneca จำนวน 10,000,000 โดส เดือนสิงหาคม 2564
3) วัคซีน AstraZeneca จำนวน 35,000,000 โดส (เดือนกันยายน-ธันวาคม 2564)
3.1) วัคซีน AstraZeneca จำนวน 10,000,000 โดส เดือนกันยายน 2564
3.2) วัคซีน AstraZeneca จำนวน 10,000,000 โดส เดือนตุลาคม 2564
3.3) วัคซีน AstraZeneca จำนวน 10,000,000 โดส เดือนพฤศจิกายน 2564
3.4) วัคซีน AstraZeneca จำนวน 5,000,000 โดส เดือนธันวาคม 2564
3. กำหนดการเสร็จสิ้นการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทุกกลุ่มเป้าหมาย
(1) บุคลากรทางการแพทย์ Sinovac - ฉีดแล้ว ร้อยละ 95
ฉีดเสร็จสิ้น 2 เข็ม ครบร้อยละ 100 ภายในเดือนพฤษภาคม 2564
(2) เจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่เสี่ยงสัมผัสโรค Sinovac - ฉีดแล้วร้อยละ 20
ฉีดเสร็จสิ้น 2 เข็ม ครบร้อยละ 100 ภายในเดือนมิถุนายน 2564
(3) กลุ่มอาชีพเสี่ยง เช่น พนักงานขับรถสาธารณะ และครู เป็นต้นAstraZeneca ฉีดแล้วจำนวนหนึ่ง (ต่ำกว่าร้อยละ 5) จะฉีดเสร็จสิ้นเข็มที่ 1ครบร้อยละ 100 ภายในเดือนมิถุนายน 2564
(4) ประชาชนผู้ที่มีโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุ AstraZeneca ฉีดแล้วจำนวนหนึ่ง (ต่ำกว่าร้อยละ 5) จะฉีดเสร็จสิ้นเข็มที่ 1 ครบร้อยละ 100 ภายใน
เดือนกรกฎาคม 2564
(5) ประชาชนทั่วไป AstraZeneca ฉีดแล้วจำนวนหนึ่ง (ต่ำกว่าร้อยละ 5) จะฉีดเสร็จสิ้นเข็มที่ 1 ครบร้อยละ 100 ภายในเดือนกันยายน 2564
4. ครม.เห็นชอบในหลักการการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ให้มีความหลากหลาย เพื่อให้ประชากรกลุ่มเป้าหมายได้รับวัคซีนครอบคลุมร้อยละ 70 โดยเร็วที่สุด ได้แก่
(1) ภาครัฐจัดหาวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Pfizer Biontech จำนวน 5,000,000-20,000,000 โดส
วัคซีน Sputnik V จำนวน 5,000,000-10,000,000 โดส
วัคซีน Johnson & Johnson จำนวน 5,000,000-10,000,000 โดส
วัคซีน Sinovac จำนวน 5,000,000-10,000,000 โดส
และวัคซีนอื่นๆ เช่น วัคซีน Moderna วัคซีน Sinopharm วัคซีน Bharat หรือวัคซีนอื่นที่จะมีการขึ้นทะเบียนในอนาคต
รวมงบประมาณค่าวัคซีน และเวชภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมอบกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
(2) ภาคเอกชนจัดซื้อวัคซีนอื่นๆ เพิ่มเติม ตามแนวทางความร่วมมือการจัดหาวัคซีนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน
4. เรื่องจุดฉีดวัคซีน ได้มีเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุน เพิ่มจุดฉีดอีกจำนวนมากทั่วประเทศ
เรื่องวัคซีนซิโนแวค ที่สามารถฉีดผู้สูงวัยได้ นั่นก็เป็นไปตามผลการใช้ในประเทศจีน ที่เขาฉีดผู้สูงวัยไปแล้วจำนวนมาก ได้ผลดี ไม่มีอันตราย แต่ทางการไทยก็ยังให้ผู้ลงทะเบียนหมอพร้อมขณะนี้ ทุกคนฉีดแอสตราเซเนกา
เรื่องวัคซีนทางเลือก ก็ได้เจรจาไฟเซอร์ ล่าสุดคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะนำมาฉีดประชาชนอายุต่ำกว่า 18 ส่วนสปุตนิก จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันโมเดอร์นา และยี่ห้ออื่นๆ ก็ยังเดินหน้าคุยต่อไป
แต่กลับมีความพยายามปั่นกระแสจากนักการเมืองบางกลุ่ม เทิดทูนวัคซีนบางยี่ห้อที่เรายังไม่มี บิดเบือนข้อมูลทางการแพทย์ และตัดตอนข้อมูลข่าวสารเรื่องผลกระทบเพื่อให้เกิดความหวาดกลัวในสังคมเกินความเป็นจริงพยายามด้อยค่าวัคซีนที่เรามี เพื่อสร้างความไม่มั่นใจในหมู่ประชาชน แทนที่จะรีบมาฉีดกันตามคำแนะนำของทีมแพทย์ กลับรีรอ อ้างจะรอฉีดวัคซีนทางเลือก ถึงขนาดไปปั่นกระแสการไปฉีดวัคซีนที่ต่างประเทศไปโน่นก็มี
ใครเล่นการเมืองแบบไร้จริยธรรม ต่ำทราม ชั่วช้า เอาเรื่องวัคซีนมาปั่นหัวประชาชน ขอให้ตกนรกหมกไหม้
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี