โคบ้าระบาดมาถึงบัดนี้เป็นเวลาถึง 16 เดือนแล้ว ระยะเวลา 16 เดือนที่ผ่านไปได้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นในประเทศต่างๆ เกือบทั่วโลก จะต่างกันตรงที่ความหนักเบาและความเสียหายว่าประเทศใดเสียหายมากกว่ากันหรือหนักกว่ากัน
โดยเฉพาะมาตรการของแต่ละประเทศในการรับมือแก้ไขปัญหาโคบ้านั้นเป็นอย่างไร ประเทศใดประสบความสำเร็จมากกว่ากัน และประเทศใดล้มเหลวมากกว่ากัน
มาถึงบัดนี้ข้อเท็จจริงและข่าวคราวทั้งหลายที่ปรากฏต่อชาวโลกอุดมสมบูรณ์ชัดเจนโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ แล้วว่าประเทศจีนได้ประสบความสำเร็จในการรับมือกับโคบ้าอย่างยอดเยี่ยมของโลก และทำให้ทั้งประเทศกลับคืนสู่ภาวะที่เป็นปกติมากที่สุดของโลกแล้ว
หมายถึงประสบความสำเร็จในการรับมือกับโคบ้า และความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด จนมีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก และระบบต่างๆ ทางเศรษฐกิจได้กลับคืนสู่ความเป็นปกติ ทั้งช่วงชิงโอกาสในการขยายตัวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดด้วย
ประเทศจีนมีประชากร 1,400 ล้านคน ประสบชะตากรรมกับการแพร่ระบาดตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2562 และถูกกระหน่ำซ้ำเติมด้วยเครือข่ายสื่อของประเทศนักล่าอาณานิคมอย่างขนานใหญ่ ถึงขั้นทำให้คนจีนถูกชิงชังรังเกียจประหนึ่งว่าเป็นซอมบี้หรือผีดิบที่ถูกไล่ฆ่าไล่ทุบตีในบางประเทศ
ปรากฏว่า 16 เดือนผ่านไป ผลสรุปรวมปรากฏว่าประเทศจีนมีผู้ป่วยสะสมสูงสุดแค่ 90,000 คน มีผู้เสียชีวิต 4,000 กว่าศพ นั่นเป็นตัวเลขที่เกิดขึ้นและสรุปตั้งแต่ยามที่ประเทศจีนยังไม่ทันตั้งตัว และไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของโคบ้าว่าเป็นอะไร มาจากไหน
จนกระทั่งทราบความจริงกระจ่างโดยกระบวนการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าโคบ้าไม่ใช่ไวรัสธรรมชาติ แต่เป็นนวัตกรรมที่เกิดจากการตัดต่อพันธุกรรมระหว่างเชื้อไวรัสซาร์สกับเชื้อไวรัสเอดส์ จึงได้คิดโครงสร้างยาในการปราบโรคนี้ได้สำเร็จ และได้ระดมภูมิปัญญาจีนทั่วประเทศมาร่วมด้วยช่วยกันรับมือกับการแพร่ระบาดอย่างได้ผลกระทั่งพัฒนามาเป็นการใช้ยาพ่นจมูกและปากในการป้องกันรักษาโคบ้า จนกระทั่งไม่มีใครต้องใส่หน้ากากอนามัยกันโดยทั่วไปแล้ว ยกเว้นจะอยู่ในที่เสี่ยงและจำกัดเท่านั้น
ประเทศจีนใช้มาตรการอะไรบ้างจึงเกิดผลสำเร็จดังกล่าวนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรต้องศึกษาทำความเข้าใจและต้องไม่ปิดหูปิดตาตัวเอง หรือหลงยึดมั่นถือมั่นเป็นทาสความคิดฝรั่งจนพาชาติฉิบหายวายวอด
ประเทศจีนได้ใช้มาตรการที่สำคัญในการป้องกันรับมือกับโคบ้าดังต่อไปนี้
คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้กำหนดแนวทางนโยบายในการรับมือที่สำคัญคือ
ประการแรก โคบ้าเป็นการทำสงครามชีวภาพของมหาอำนาจตะวันตก ต้องสามัคคีคนจีนทั่วประเทศเข้าสู่สงครามและต้องเอาชนะอย่างเดียวเท่านั้น แพ้ไม่ได้
ประการที่สอง ระดมพลังทั่วทั้งพรรค ทั่วทั้งกองทัพ และทุกองค์กรของรัฐบาลและประชาชนจีนทั่วประเทศให้สามัคคีกันเข้าสู่สงคราม การสร้างความสับสนปั่นป่วนคือการบ่อนทำลายความมั่นคงแห่งชาติ ต้องลงโทษสถานหนักถึงขั้นประหารชีวิต
ประการที่สาม ให้ยกเว้นบรรดากฎหมายและระเบียบทั้งหลายที่เป็นอุปสรรคหรือที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาล่าช้าในทันที ต้องไม่ให้กฎหมายและระเบียบใดๆ เป็นอุปสรรคขัดขวางในการแก้ไขปัญหาโคบ้าโดยเด็ดขาด โดยรัฐบาลจีนเป็นศูนย์กลางในการจัดการเรื่องนี้
ประการที่สี่ ข้าราชการใดขัดขวาง ไม่ร่วมมือ ไม่ใส่ใจ หรือละเลยในการทำหน้าที่ ให้ปลดออกจากราชการทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น และถ้าเป็นการกระทำทุจริต ให้ลงโทษสถานหนักถึงขั้นประหารชีวิต
ประการที่ห้า ให้คณะกรรมการวิทยาศาสตร์แห่งชาติเป็นศูนย์กลางในการกำหนดมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาด ในการตรวจหาเชื้อและในการรักษา โดยให้ระดมภูมิปัญญาจีนและแพทย์แผนจีนทั่วประเทศในการแก้ไขปัญหา
ประการที่หก จัดงบประมาณ 500,000 ล้านหยวน เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโคบ้า และจัดตั้งงบประมาณพิเศษ 5 ล้านล้านหยวน เพื่อเป็นงบฉุกเฉินในการทำสงครามชีวภาพทั่วประเทศ
พรรคคอมมิวนิสต์จีนออกนโยบายหกประการดังกล่าวจากนั้นทุกองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทุกองค์กรของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน และทุกองค์กรของรัฐบาลจีน รวมทั้งองค์กรแนวร่วมมวลชนทั่วประเทศจีนก็ได้ขานรับนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับคณะกรรมการวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติอย่างยิ่งใหญ่ โดยสรุปคือ
ข้อแรก ได้ค้นพบอย่างรวดเร็วว่าโคบ้าเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีชีวภาพ โดยตัดต่อพันธุกรรมจากเชื้อไวรัสซาร์สและเอดส์ และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการคิดโครงสร้างยากำจัดโคบ้า ซึ่งมีโครงสร้างเป็นยาผสมระหว่างยาต้านโรคซาร์สกับยาต้านโรคเอดส์หรือที่เรียกว่าค็อกเทล และได้ผลิตขึ้นใช้อย่างได้ผล
ข้อสอง สามารถระดมการแพทย์แผนจีนและภูมิปัญญาจีนแต่โบราณ ประสานกับการแพทย์แผนปัจจุบันกำหนดแผนการรับมือให้ผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่ไม่มีโรคประจำตัวกักตัวตรวจรักษาอยู่ที่บ้าน โดยประกาศรายชื่อยาให้ซื้อหามากินเอง และแนะนำแบบแผนวิธีปฏิบัติในระหว่างกักตัวอยู่ที่บ้าน คงให้ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเท่านั้นเข้ารักษาในโรงพยาบาล
ข้อสาม ประสบความสำเร็จในการใช้ยาจีนทั้งในด้านป้องกันและการรักษาหลายร้อยขนาน และประสบความสำเร็จในการระดมแพทย์แผนจีนทั่วประเทศเข้าร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบันในการป้องกันรักษาประชาชนทั่วประเทศ
ข้อสี่ ประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนหลายยี่ห้อ รวมทั้งล่าสุดประสบความสำเร็จในการพัฒนายาป้องกันรักษาประเภทที่ใช้พ่นเข้าจมูกและปาก ซึ่งไม่กระทบต่อภูมิต้านทานและโครงสร้างเลือดของมนุษย์
ประเทศไทยของเราประสบชะตากรรมหนักหน่วงมาก ลองพิจารณาดูเถิดเหตุแห่งความสำเร็จแม้แต่เรื่องเดียวก็ไม่เคยทำ ดังนั้นจึงถึงเวลาต้องทบทวนการรับมือกับโคบ้าใหม่ได้แล้ว ก่อนที่ชาติจะล่มจมไปมากกว่านี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี