“อุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com ทำโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำข้อเท็จจริงให้ปรากฏนำสาระความจริงมาตีแผ่ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ แวดวงบันเทิง รายงานผลการแข่งขันกีฬาที่น่าสนใจอย่างแม่นยำฉับไว” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม”เริ่ม “บุคคลแนวหน้า” ที่การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2565 จำนวนกว่า 3.1 ล้านล้านบาท ของสภาผู้แทนราษฎรในวาระแรกที่นักการเมืองฝ่ายค้านอภิปรายแสดงความไม่เห็นด้วยกับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ไม่เหมาะสม โดยหยิบยกวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” ที่รัฐบาลตั้งงบด้าน “สาธารณสุข” ไว้ 295,673.9 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบประมาณกระทรวงสาธารณสุข 9 กรม จำนวน 153,940.5 ล้านบาท ลดลงจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ราว 2.74% งบระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า140,550.2 ล้านบาท และกองทุนการแพทย์ฉุกเฉินจำนวน 1,183.2 ล้านบาทต่ำกว่างบประมาณด้าน “ความมั่นคง” ที่รัฐบาลตั้งไว้ 203,282.0 ล้านบาท...
nn เจ้าเก่า “วิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล” ตั้งฉายาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ว่า “งบประมาณไร้สามัญสำนึก” เพราะจัดทำโดย “รัฐบาลลูกทรพี” ที่ไร้สามัญสำนึก ตะบี้ตะบันจ่ายเงินเยียวยาประชาชนไปแล้ว 7-8 แสนล้านบาท แต่ไม่เอาเงินไปซื้อวัคซีนสัญชาติอเมริกัน อาทิ“ไฟเซอร์, โมเดอร์นา ที่มีมูลค่าไม่น่าเกิน 80,000 ล้านบาท มาฉีดให้ประชาชน “วิโรจน์” ย้ำชัดอ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 แล้ว “ลมสันดาน” ขึ้น เพราะจัดทำด้วยรัฐบาลที่ไร้สามัญสำนึกไร้กาลเทศะ...
nn “วัคซีนการเมือง” ยังไม่รู้จบ เพราะ “สื่อปีศาจ-นักการเมืองชังชาติ” กระพือข่าวลือบ้างปลอมบ้าง จนสังคมขาดความเชื่อมั่นหึ่งโอกาสฉีดวัคซีน “แอสตราเซเนกา” เดือนมิถุนายนเลื่อนลอย “หมอหนู” แทงกั๊กทำสังคมขาดความเชื่อมั่นยังดี “ทหารแก่ – พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” แก้เกมฉุดศรัทธาและความมั่นใจกลับคืน ลั่นเดือนมิถุนายนนี้มี “วัคซีนแอสตราเซเนกา” ฉีดแน่นอน พร้อม “วัคซีนซิโนฟาร์ม” ย้ำอย่างนี้ทุกวันความเชื่อมั่นก็กลับคืน เหมือนยื่น “ตะกร้อครอบปากหมา” หยุดเห่าหอนบั่นทอนสังคมไทยอีกต่างหากตอกย้ำคำแถลงของ “นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิตปลัดกระทรวงสาธารณสุข” ที่ระบุชัดเจนว่า “7 มิถุนายน” นี้คนไทยได้ฉีด “วัคซีนแอสตราเซเนกา” แน่นอน ยืนยันว่าจะมีการส่งมอบเดือนนี้ 6.3 ล้านโดส และอีก 10 ล้านโดส ในทุกเดือนจนถึงสิ้นปี “วัคซีนไฟเซอร์” รัฐบาลจัดเข้ามาได้ 20 ล้านโดส ในเดือนกันยายน ตุลาคม เพื่อฉีดให้แก่เด็กไทย เพราะเป็นวัคซีนยี่ห้อเดียวที่ได้รับการรับรองให้สามารถฉีดให้แก่เด็กอายุ 12-18 ปี, “วัคซีนซิโนแวค” เข้ามาในเดือนมิถุนายนอีก 9 ล้านโดส และ“วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” จะเข้ามาอีก 10 ล้านโดส ยังไม่รวมของ “สถาบันจุฬาภรณ์” ที่นำเข้า “วัคซีนซิโนฟาร์ม”อีกจำนวน 10 ล้านโดส...
nn มีเรื่องราวที่น่ารู้ก็เอามาบอกต่อกัน “ไม้หน้าสาม” ได้ข้อมูลมาว่า “กระทรวงสาธารณสุข อุรุกวัย” ประเทศในแถบอเมริกาใต้เผยผลการศึกษาการใช้ “วัคซีนซิโนแวค สัญชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน” พบว่าสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ถึง 97% ป้องกันการป่วยหนัก 95% ป้องกันการติดเชื้อ 57% ได้ผลดีกว่า “วัคซีนการเมือง” อย่าง “ไฟเซอร์” ที่ป้องกันการเสียชีวิตได้แค่ 80% แต่ “ไฟเซอร์” สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ถึง 75%...
nn ก่อนจะตาม “ไม้หน้าสาม” ไปเรื่องอื่นๆ... ขอกำลังใจให้ “นักรบจากกองทัพงูพันคบเพลิง”หลังเกิดกระแสการโจมตีการทำงานของบุคลากรด้านสาธารณสุข ทั้งเรื่องการไม่เผยแพร่ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการแพร่กระจายของเชื้อ การไม่เปิดเผยตัวเลขที่แท้จริงของผู้ติดเชื้อ รวมถึง เรื่องของการจัดการวัคซีนให้ประชาชนเพื่อสู้โควิด-19...nn “นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข” ที่ปรึกษาระดับกระทรวง 11 หัวหน้าสำนักวิชาการสาธารณสุข ถูกโจมตีวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสังคมเรื่องการให้บริการวัคซีนโควิด-19 และถูกนำไปเปรียบเทียบระหว่างไทยกับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการฉีดวัคซีนมากกว่าไทย...
nn “สันดานคนทำงาน” มักก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ที่รับผิดชอบและได้รับมอบหมาย ไม่ประสงค์เห่าหอนอย่างฝ่ายตรงข้าม สื่อสารอย่างมีเป้าประสงค์ แค่บอกเพียงว่าไม่สามารถเอาไทยไปเทียบกับประเทศอื่นได้เพราะจะกระทบกระเทือนกับความสัมพันธ์ ยืนยันเพียงว่าสาธารณสุขไทยยึดหลักการให้บริการที่ไม่เป็นรองทั่วโลก...
nn การให้บริการวัคซีนไทยนั้น “หมอรุ่งเรือง” อรรถาธิบายว่า กระทรวงสาธารณสุขลำดับความสำคัญจากกลุ่มที่มีความต้องการเร่งด่วน ไปจนถึงรองลงมา คือเริ่มตั้งแต่แพทย์ พยาบาล บุคลากรด่านหน้า คนสูงอายุ คนมีโรคประจำตัว และประชาชนทั่วไปตามลำดับ ทั้งยังจะให้บริการกับชาวต่างชาติที่พำนักในไทย ก็เหมือนกับคนไทยในบางประเทศ ที่จะได้รับวัคซีนเช่นกัน เรื่องระยะเวลาที่บอกว่าประเทศไทยช้า ความจริงเมื่อเทียบกับประเทศส่วนใหญ่ในโลกถือว่าไทย ไม่ได้ช้าเลย เราให้บริการกว่า 1 ล้านโดสพอกับหลายประเทศในอาเซียน สำหรับวัคซีนที่ไทยให้บริการนั้น เป็นวัคซีนที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลก เช่น ซิโนแวคใช้ในประเทศจีน แอสตราเซเนกา ใช้ในอังกฤษ และหลายประเทศในยุโรป นอกจากนี้ประเทศไทยมีระบบดูแลผู้ฉีดวัคซีนอย่างดีมาก ทั้งก่อนฉีด ขณะฉีดและหลังฉีด รวมถึงระบบการดูแลชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนทุกราย ขอให้ประชาชนโปรดเชื่อมั่นระบบ ความปลอดภัย และประโยชน์จากการฉีดวัคซีน “ไม้หน้าสาม” ว่เชื่อ “หมอ”เถอะ “หมอ” มีหน้าที่ดูแลรักษาชีวิตผู้ป่วยตามจรรยาบรรณแพทย์ ไม่ได้ออกมาเห่าหอนตอนเห็น “สัมภเวสี”เหมือน “นักการเมืองชังชาติ และกลุ่มโอปปาติกะ”ที่ใช้สื่อโซเชียลทำลายศรัทธานักรบชุดขาวและ “ขยี้รัฐบาล” เพื่อประโยชน์ทางการเมือง...
nn แม้สถานการณ์จะยังไม่เบาบางนักกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา(โควิด-19) ในพื้นที่ “กรุงเทพมหานคร” พบว่าขณะนี้สถานประกอบการบางประเภทไม่พบเป็นคลัสเตอร์การระบาด กทม.จึงผ่อนคลายให้สถานประกอบการเหล่านั้นสามารถเปิดดำเนินการได้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของภาคธุรกิจ ประกอบด้วย อาทิ พิพิธภัณฑสถาน, สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย,ร้านทำเล็บ, สถานเสริมความงาม และคลินิกเวชกรรมเสริมความงาม, สถานบริการควบคุมน้ำหนัก สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อเสริมความงาม นวดแผนไทยนวดฝ่าเท้า งดเว้นการอบตัว อบสมุนไพร หรืออบไอน้ำ และการนวดบริเวณใบหน้า, สวนสาธารณะ สวนดอกไม้ สวนพฤกษศาสตร์...
nn เรื่องน่าสนใจอีกเรื่องในยุค “นิว นอร์มอล”...“พลตำรวจโท รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2” เร่งเจ้าหน้าที่เผยแพร่โครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนโดยเป็นคลิปเผยแพร่ชื่อว่า “สายเชียร์ หัวร้อน” โดยให้ประชาชนสามารถแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับเอกสารหายได้ทางออนไลน์ แค่มีมือถือ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนสามารถสแกน QR code เข้าสู่กระบวนแล้วทำรายการกรอกข้อมูลแล้วกดตกลง...รอเจ้าหน้าที่ตอบกลับรอรับเอกสารได้เลย นี่แหละ “โครงการรับแจ้งเอกสารหายออนไลน์”
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี