เพราะเหตุที่อัตราเติบโตด้านประชากรของประเทศไทยอยู่ในระดับที่ต่ำจึงทำให้เด็กและเยาวชนมีจำนวนลดลง ผู้เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนและในชั้นอุดมศึกษาลดน้อยลงโดยลำดับ จึงทำให้เกิดพื้นที่ว่าง รวมทั้งเกิดความว่างของบุคลากรในการอำนวยการศึกษา
ดังนั้นสถาบันการศึกษาต่างๆ ในประเทศทั้งของรัฐและของเอกชนจึงมีความจำเป็นต้องรับนักเรียนนักศึกษาจากต่างชาติเข้ามาทดแทน และในจำนวนนี้ก็มีนักเรียนนักศึกษาจากประเทศจีนเข้ามาศึกษาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นว่าตลาดนักเรียนนักศึกษาจากประเทศจีนเป็นความต้องการและความจำเป็นของสถาบันการศึกษาในประเทศไทยด้วย
ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างไทย-จีน ยกระดับอย่างทั่วด้าน และประเทศจีนก็มีความเจริญเติบโตก้าวหน้าในแทบทุกสาขาไม่ได้ด้อยกว่าประเทศในยุโรปและสหรัฐ ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมของนักเรียนนักศึกษาไทยในการเดินทางไปศึกษาต่อในประเทศจีน ทั้งในระดับประถมศึกษาและอุดมศึกษาและบัณฑิตศึกษา
นักเรียนและเยาวชนไทยแทบทุกสาขาได้เดินทางไปศึกษาในประเทศจีนในมณฑลใหญ่ๆ โดยทั่วไปและเพิ่มจำนวนมากขึ้น สำหรับผู้ที่จบการศึกษามาแล้วก็มีอาชีพการงานทำอย่างทั่วถึงและมีรายได้ค่าตอบแทนไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ที่จบการศึกษาในยุโรปหรือสหรัฐ
ที่สำคัญก็คือเรียนจบกลับมาแล้วไม่มีวันตกงาน เพราะด้วยความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างไทย-จีน จึงมีกิจการต่างๆ ของจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างมากมาย ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องการบุคลากรที่มีความรู้ภาษาจีนและรู้จักจีน
จึงทำให้ผู้จบการศึกษาทุกสาขาอาชีพจากประเทศจีนมีงานทำอย่างต่อเนื่องและอย่างมั่นคง โดยมีรายได้ที่สูงและมีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงยิ่งเพิ่มความนิยมในการเดินทางไปศึกษาที่ประเทศจีน
ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโคบ้าโดยมีการระบาดครั้งแรกขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งมีการสร้างกระแสให้ตื่นตระหนกตกใจกลัวอย่างกว้างขวางจึงเป็นเหตุให้นักเรียนนักศึกษาไทยที่เล่าเรียนในประเทศจีนทุกระดับชั้นพากันเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อความปลอดภัย ในขณะเดียวกันประเทศจีนก็เต็มใจเพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนนักศึกษาต่างชาติ และเพื่อให้การดำเนินมาตรการในการรับมือกับโคบ้าในประเทศจีนมีประสิทธิผลอย่างรวดเร็ว เพียงไม่ถึงปีประเทศจีนก็สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโคบ้าได้สำเร็จ
สถานการณ์ในประเทศจีนกลับคืนสู่ภาวะปกติ การค้าขาย การส่งออก และการท่องเที่ยวในประเทศคึกคักครึกโครมประหนึ่งจะทดแทนในช่วงที่ขาดหายไปใน 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความจริงที่รู้กันโดยทั่วไป และปรากฏว่าในห้วงเวลาเดียวกันนั้นโคบ้ากลับระบาดในประเทศไทยกว้างขวางและรุนแรงมากขึ้น มียอดผู้ป่วยสะสมและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งจนเป็นที่ตระหนกตกใจโดยทั่วไป
เพราะเหตุนี้นักเรียนนักศึกษาไทยที่ศึกษาค้างคาอยู่ในประเทศจีนจึงต้องการเดินทางกลับไปศึกษาในประเทศจีนให้เร็วที่สุด
ดังนั้นจึงต่างคนต่างติดต่อขอเดินทางไปศึกษาต่อในประเทศจีนตามเดิม แต่ปรากฏว่าบรรดาวีซ่าทุกประเภทที่เคยออกให้นักเรียนนักศึกษาไม่ว่าหมดอายุแล้วก็ดี หรือที่ยังมีอายุวีซ่าอยู่ก็ดี ได้ถูกยกเลิกเพิกถอนและต้องขอวีซ่ากันใหม่ตามระบบและระเบียบใหม่ที่ทางจีนกำหนดขึ้น
แต่ปรากฏว่านักเรียนนักศึกษาไทยทั้งหมดที่การเรียนการศึกษายังค้างคาอยู่ไม่สามารถขอวีซ่าใหม่ได้และโดยไม่ทราบเหตุผล จึงเป็นเหตุให้มีการร้องเรียนต่อกระทรวงการต่างประเทศเพื่อหารือกับรัฐบาลจีน และเมื่อ 7-8 เดือนก่อน รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยก็ได้นำเสนอเรื่องนี้กับรัฐมนตรีต่างประเทศหวังยี่ของจีน
รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนได้รับเรื่องไปพิจารณาจนบัดนี้ก็ไม่มีคำตอบใดๆ และในขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยก็ได้เดินทางกลับไปประเทศจีนร่วมสองปีแล้ว นั่นหมายความว่ามีการว่างเว้นระดับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยมาเป็นเวลานานที่สุดนับตั้งแต่มีการตั้งสถานทูตจีนประจำประเทศไทย
เป็นความผิดปกติอย่างยิ่งและอย่างชัดเจนที่คนมีอำนาจหน้าที่จะต้องรีบค้นคว้าหาสาเหตุและแก้ไข เพราะสะท้อนถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่ไม่เป็นปกติชนิดที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
สภาพดังกล่าวทำให้นักเรียนนักศึกษาไทยที่จะเดินทางกลับไปศึกษาในประเทศจีน รวมทั้งครอบครัวญาติพี่น้องต้องพากันเดือดร้อน เพราะไม่สามารถศึกษาในประเทศไทยได้ และยังไม่จบการศึกษา ซึ่งจำนวนมากเหลือเวลาศึกษาเพียง 1 ปี หรือจำนวนหนึ่งก็จบการศึกษาแล้ว รอการฝึกภาคปฏิบัติไม่กี่เดือนเท่านั้น เมื่อเกิดความเดือดร้อนเช่นนี้จึงพากันไปร้องเรียนต่อสมาชิกรัฐสภาและคณะกรรมาธิการคณะต่างๆ จึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อขอเดินทางไปศึกษาที่ประเทศจีน
แต่ปรากฏว่าทุกทิศทุกทางมีแต่ความเงียบงัน ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จนวันนี้ภาคการศึกษาใหม่ได้เริ่มต้นไปนานแล้ว แต่นักเรียนนักศึกษาไทยยังคงเคว้งคว้างไม่สามารถเดินทางกลับไปศึกษาต่อได้
แทนที่จะมีการตื่นตัวแก้ไขด้วยความใส่ใจในความเดือดร้อนเหล่านี้ กลับมีการนิ่งเงียบเสมือนหนึ่งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แล้วใครจะแก้ไขปัญหานี้ หรือจะปล่อยให้นักเรียนนักศึกษาไทยกว่า 30,000 คน พร้อมทั้งครอบครัวญาติพี่น้องต้องเดือดร้อนหรือไม่สามารถศึกษาต่อได้อีกต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี