เรื่องเล่าของป๋าเปรม FM90.5 ที่เล่าเรื่องโดย ดร.สุเมต สุวรรณพรหม เข้มข้นขึ้นตามลำดับ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้กล่าวอยู่เสมอว่า “ถ้าเราแก้ปัญหาความยากจนได้เราจะแก้ไขปัญหาอื่นๆของชาติได้ง่ายขึ้นมาก”
หลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อสงครามประชาชน ยุติลง แต่เงื่อนไขอันหนึ่งเคยถูกวิเคราะห์ว่า เป็นเงื่อนไขสงครามประชาชนยังต้องขจัดให้หมดสิ้น โดยเฉพาะเงื่อนไขปัญหาความยากจน ความเคลื่อนไหวอันเป็นจุดกำเนิดของระบบการพัฒนาชนบท เพื่อช่วยเหลือ ประชาชนที่ยากจนในชนบท ได้เริ่มต้นขึ้น อย่างเงียบๆ
โดยพลเอกเปรม ได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อศึกษา นโยบายการพัฒนาชนบท เมื่อปี 2523 โดยใช้ชื่อว่า คณะทำงานศึกษานโยบายการพัฒนาชนบท ประกอบไปด้วย คณาจารย์จากมหาวิทยาลัย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพียงแค่ 6 เดือน คณะทำงาน ได้เสนอรายงาน เรื่อง นโยบายในการพัฒนาชนบทต่อนายกรัฐมนตรี รายงานชิ้นนี้ ได้สรุป สภาพปัญหาในชนบท แนวทางในการวางแผน พัฒนาชนบท และข้อเสนอแนะในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 ในด้านที่เกี่ยวกับสภาพปัญหาในชนบท
โดยรัฐบาลพลเอกเปรมได้ประกาศ นโยบาย พัฒนาชนบท แนวใหม่ ย้ำนะครับว่าเป็น “การพัฒนาชนบทแนวใหม่” ขึ้นเป็นครั้งแรก 2 กลุ่มแรกในวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2524 หลังการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ถึง 1 ปี ได้มีสารของนายกรัฐมนตรี ใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า
การแก้ไขปัญหาชนบท ตามแนวทางใหม่ จะต้องยึดหลักเพื่อให้พี่น้อง ประชาชน ชาวชนบท สามารถช่วยเหลือตนเอง และชุมชนได้อย่างแท้จริงในที่สุด เพื่อการนี้จำเป็นจะต้องทุ่มทรัพยากรในรูปแบบ ที่จะไม่สร้างความสามารถของชาวชนบท ในการผลิตอย่างแท้จริง เช่น การสร้างถนนเกินความจำเป็น หรือการปลูกสร้าง สิ่งอื่นๆ ซึ่งไม่ช่วยทำให้ชาวชนบท ยากจนมีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ขึ้น
โดยหันไปเพิ่มความพยายามที่จะเข้าใจ และหาทาง แก้ปัญหาที่ชาวชนบท เผชิญอยู่ให้หมดสิ้นไปให้จงได้ “รัฐบาล ตระหนักดีว่าชนบทไทยคือ หัวใจของประเทศชาติ ถ้าชนบทอยู่ไม่ได้ ประเทศชาติก็อยู่ไม่ได้” รัฐบาลนี้ถือว่า การพัฒนาชนบท เป็นภาระหน้าที่ที่พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกกลุ่มทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาล หรือเอกชน จะต้องร่วมมือร่วมใจกันทำให้บังเกิดผลอย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดไป อย่างน้อยก็ในระยะ 10 ปีข้างหน้าผมจึงตั้งความหวังไว้ว่า แนวทางการพัฒนาชนบทแนวใหม่นี้ จะเป็นการเปิดศักราช ของทศวรรษแห่งการพัฒนาชนบท อันจะเป็นการสร้างหลักประกัน ให้เกิดเสถียรภาพ และสันติสุข ให้แต่พี่น้องทั้งหลาย และประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราสืบไป
ยุทธศาสตร์แก้ปัญหาความยากจน คนที่จะแก้ปัญหาความยากจนได้ ต้องรักที่จะทำ หากไม่รักที่จะทำเรื่องนี้แล้ว ไม่มีวันที่จะทำได้สำเร็จ คนที่จะแก้ปัญหาความยากจนได้ ต้องรักคนยากจน ไม่ใช่เหม็นสาบคนจนไม่ใช่กอดกับคนจนแล้วบ่นว่าเหม็น ถ้าคุณเหม็นคนจนเมื่อไหร่ คุณไม่มีวันแก้ปัญหาได้ คุณจะต้องไม่รังเกียจเขาต้องไปพูดกับเขาว่าปัญหาของเขาอยู่ตรงไหน ถึงจะแก้ได้ เพราะฉะนั้นคำว่า “แคร์” ถ้าคุณไม่แคร์คนจน เห็นขอทาน คนยากจน คุณก็ไม่รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของเราหรือเปล่าที่จะต้องช่วยเขา ไม่มีวันที่จะแก้ปัญหาได้รัฐบาลมีส่วนปลดเปลื้องความทุกข์ยากของคนไทยด้วยกัน ผมมั่นใจว่าท่านทั้งหลายคงอยากจะเห็นคนไทยมีฐานะดีขึ้น คนยากจนน้อยลง ถ้าช่วยกันทุกฝ่ายคงจะสำเร็จ ผมเคยอยู่ในชนบทผมรู้ดีว่าเขาช่วยตัวเองไม่ได้อย่างไรเขาไม่สามารถเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จากตลาดได้ผมเคยเข้าไปในหมู่บ้าน หิวน้ำมาก็ขอให้เขาไปตัดมะพร้าวลงมาเขาก็ตัดลงมาเลี้ยงทหารมากมายถามเขาว่าราคาลูกละเท่าไหร่ เขาบอกว่าไม่เคยขายราคาเท่าไรไม่เคยรู้เขายากจน เขาจึงไม่รู้จักการบริหารทรัพยากรที่เขามีอยู่ อย่าว่าแต่จะไปแย่งชิงหรือเรียกร้องต่อรองผลประโยชน์ต่อใคร ใครไม่เห็นด้วยกับการพัฒนาชนบท ก็ถือว่าใจดำเต็มที
นโยบายของพลเอกเปรม ต่อมาถูกแปลเป็นแผนปฏิบัติการ พัฒนาชนบทใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 มีสาระสำคัญ 5 ประการคือ
ข้อ 1 ยึดพื้นที่เป็นหลัก โดยให้ความสำคัญแก่พื้นที่ยากจนหนาแน่นก่อน
ข้อ 2 พัฒนาฐานะประชาชน ให้พออยู่พอกิน และมีการบริการ พื้นฐานขั้นต่ำอย่างทั่วถึงในเขตชนบท ที่มีความยากจนหนาแน่น
ข้อ 3 เน้นการปรับปรุง เพื่อให้ประชาชนช่วยเหลือตัวเองให้มากขึ้นตามลำดับ
ข้อ 4 แก้ปัญหาที่ประชาชนยากจน เผชิญอยู่จริงให้ทั่วถึงพื้นที่ชนบทยากจน โดยเน้นเทคนิคที่ประชาชนทำได้เองและมีการลงทุนต่ำ
ข้อ 5 ให้ประชาชน มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาของตัวเองให้มากที่สุด
ครับหมดพื้นที่พอดี อังคารหน้ามาทำสงครามกับความยากจนต่อนะครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี