“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com อุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา”... ทำโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ นำข้อเท็จจริงมาตีแผ่ทั้งการเมืองบันเทิงเศรษฐกิจรายงานผลกีฬาที่น่าสนใจเที่ยงตรงฉับไว...ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขอเริ่มต้นด้วยอาการที่น่าผิดหวังจากการอภิปราย “ร่างพระราชกำหนดเงินกู้ 500,000 ล้าน ซึ่งเสนอโดยคณะรัฐมนตรีของนักการเมืองพรรคฝ่ายค้าน” เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา...
nn ติดตามการอภิปรายทั้งวันบอกตามตรงเหมือนเห็น“การเล่นมอญซ่อนผ้า”เสียมากกว่า เพราะยังวนเวียนอยู่กับ“โควิด-19 เมื่อปี 2563” กับ “เรื่องวัคซีน-งบกระทรวงสาธารณสุข”ที่สมเพชก็คือลีลาที่เต็มไปด้วย “ผรุสวาจา” ด่าทอเหน็บแนมประชดประชันผู้นำประเทศอย่างไร้สามัญสำนึก, สมบัติผู้ดี ดั่งคำว่า“เล่นกับหมา หมาเลียปาก” ซะงั้น!! และที่น่าผิดหวังที่สุดก็คงจะเป็น “เจ้าป้ามิ่งขวัญ” ที่อุตส่าห์ตั้งใจฟังเผื่อจะมีทีเด็ด “สอนวิชาเศรษฐศาสตร์ทหารแก่” อภิปรายตั้งหลายนาทีสรุปส่งท้าย“โชว์โง่” เรื่องเดิมๆ โครงการโคแวกซ์ (Covax) ที่ไม่เคยสำเหนียกคำอธิบายของ “ทหารแก่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงสาธารณสุข” แม้แต่น้อย...
nn “ไม้หน้าสาม” นึกในใจถ้าเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันลงมาจากห้องประชุมจะ “ตบกบาล” ประสาเพื่อนร่วมรุ่นสักฉาดแล้วบอกว่า “เมิงไม่เข้าใจไม่สำเหนียกที่อาจารย์หมอเขาอธิบาย” บ้างหรือ?!?!? บังเอิญไม่ได้เป็นอย่างใจนึกเลยรู้สึกผิดหวัง ขอแนะนำ “เจ้าป้ามิ่งขวัญ” น่าจะยกพานดอกไม้ธูปเทียนแพไปกราบ “นายแพทย์นคร เปรมศรี” ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติเพื่อขอความรู้ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ จักได้หูตาสว่างเลิกเว้าวอน “เม้าท์มอย” เสียที...
nn ส่วนนักการเมืองรายนี้เผินๆ เหมือนจะมีความรู้ด้านการแพทย์อย่าง “นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย” อดีตดาวสภาเมื่อยุค “ระบอบทักษิณ” ฟูเฟื่อง เพราะสู้อุตส่าห์ร่ำเรียนจบ “แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข” ยุค “จำนำข้าว 7-8 แสนล้าน” ที่ลุงสุทินสำรอกว่า “ขาดทุนคือกำไร” อวดรู้แดกดันเหน็บแนมรัฐบาลและศบค. (ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ประกอบไปด้วยนักวิชาการข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข, แพทย์อาชีพระดับอาจารย์หมอ และอื่นๆ กรณีคัดแยกผู้ติดเชื้อเข้าอยู่โรงพยาบาลว่าเป็นแนวคิดที่ผิด “ผู้ติดเชื้อ ไม่ใช่ ผู้ป่วย” เพราะการนำผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเท่ากับเป็นการเพิ่มงานเป็นการผลักภาระให้แพทย์-พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่งานล้นมืออยู่แล้วให้เพิ่มมากขึ้นอีก ต้องสร้างโรงพยาบาลสนาม ต้องจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ต้องเพิ่มเตียงผู้ป่วย ซึ่งคือการหาผลประโยชน์จากการนี้ คิดได้เนอะ!! ถ้าไม่ทำเยี่ยงนี้ จะปล่อยให้ผู้ติดเชื้อ เสียชีวิตอยู่บ้านโดยไม่ได้รับการรักษากระนั้นหรือ คิดในใจว่า “หมอชลน่าน” คงมีไอเดียเก๋ๆ เหมือนที่พร่ำกลั่น “ผรุสวาจา” ออกมาบ้างแต่แล้วก็แค่พวก “หมาบ้าพาลกระแชง”เล่นกับวาทกรรมกลางสภาเท่านั้น เพราะยังใช้วาทกรรมเดิมๆอ้างประชาชนเช่นเดิมให้ “ทหารแก่”ลาออกจากตำแหน่งเพื่อให้ประชาชนสดุดีเยี่ยง “วีรบุรุษ” ปราศจากการเกลียดชัง ไร้การประณามหยามเหยียดว่า “ทรราช” ขอให้ลาออกเพื่อบ้านเมือง เท่านั้นยังพออดทนกล้ำกลืนฝืนฟังได้ แต่ช่วงหนึ่ง “เดรัจฉานในแอนิมอลฟาร์ม” หยิบยก “สัมภเวสีหนีคุก Tony Woodsome” ราว “วีรบุรุษ” ของชาติที่พูดเรื่องกู้หนี้มาเป็นทุนไว้ใน “Clubhouse” โดยไม่ได้พูดถึงคดีทุจริตที่มีคำพิพากษาจำคุกจนต้องหนีไปซุกใต้อุ้งชาวต่างชาติ อาทิ ทุจริต “โครงการแปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต” ทุจริต “โครงการบ้านเอื้ออาทร” ทุจริต “โครงการหวยบนดิน” ความเสียหายเหล่านี้ เป็นรัฐบาลหนี้หรือรัฐบาลนำมาเป็นทุน...
nn อยากจะบอกนักการเมืองทั้งสองท่านเพียงว่า “เพียงแต่ท่านหันหน้าเข้าหาแสง ก็จะไม่มีเงามืด” จึงสมควรเพลาๆ หาแสงกันบ้าง...
nn ครั้งที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พุทธศักราช 2565 จำนวน 3.1 ล้านล้านบาท ที่ประมุขกำมะลอฉอเลาะว่า “อภิปรายอย่างราชสีห์ ลงมติแบบหนู (อนุทิน)” ทำให้ผลการลงมติต่อพ.ร.บ.ฉบับนี้ด้วยคะแนน 269 ต่อ 201 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่มีผู้ไม่ลงคะแนน ซึ่งผลมตินี้เอาเสียงนักการเมืองฝ่ายค้านหายไปไม่น้อยทีเดียวคืองูเห่าขาประจำ 11 เสียงจากพรรคเพื่อไทย 5 เสียง เห็นด้วยเช่นเดียวกับ 4 สส.พรรคก้าวไกล มาถึงร่างพระราชกำหนดเงินกู้ 5 แสนล้านนั้นที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 270 ต่อ 196 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง และไม่ลงคะแนน 2 เสียง...
nn พูดดีเสนอแนะดีมีเป็นเหตุเป็นผลก็สมควรต้องชื่นชมปรบมือ “แนน-บุณย์ธิดา สมชัยสส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์” กรณีตั้งกระทู้ถาม “ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” กรณี “วัคซีนโค”ป้องกัน “โรคไวรัสลัมปี สกิน” ไม่ได้ถามแค่เรื่องเงินจัดซื้อวัคซีนอย่างเดียว แต่เสนอแนะการแก้ปัญหาอย่าง “ยั่งยืน” ในฐานะโรคอุบัติใหม่สมควรที่จะมีการพัฒนานวัตกรรมต่อยอดสร้างวัคซีนขึ้นมาใช้เองหรือไม่ มองการณ์ไกล อนาคตมีโอกาสผลิตวัคซีนการเมือง(โควิด-19)แล้ว ยังอาจสามารถผลิตวัคซีนกับโรคอุบัติใหม่ที่เกิดในสัตว์เศรษฐกิจได้ด้วย นี่แหละ “คุณภาพนักการเมืองรุ่นใหม่” ไม่หิวแสงสร้างวาทกรรมปลิ้นปล้อนหลอกขโมยศรัทธาประชาชนเท่านั้น เสนอโครงการสร้างสรรค์ต่อประเทศชาติประชาชนด้วย...
nn ไม่แน่ใจว่าได้ “สำเหนียก” ... มี “สามัญสำนึก” เพิ่มขึ้นบ้างหรือไม่กับ “สิระ เจนจาคะ” สส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร กรณีโดนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตำหนิกลางสภากรณีนำผู้ต้องหาฆ่าคนตาย (นายไชย์พล วิภา) มาแถลงข่าวในสภาร้องเรียนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ... สมควรกระทำหรือไม่??? สังคมไทยคงเหนื่อยกับ “นักการเมืองหิวแสง” กันอีกนาน...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี