นับตั้งแต่โคบ้าระบาดในประเทศไทยเป็นต้นมาจนถึงบัดนี้ ความจริงเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าสถานการณ์ทรุดหนักลงเข้าขั้นวิกฤติแล้ว ในขณะที่ประเทศต่างๆ กำลังฟื้นตัวโดยลำดับไป แต่สถานการณ์ในประเทศไทยกลับไม่เห็นฝั่ง
ประเทศไทยขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมมากกว่าสองเท่าของประเทศจีนแล้ว และยังมีผู้ป่วยใหม่วันละร่วม 3,000 คน ในขณะที่มีผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ถึงขนาดวันเดียวก็มีผู้เสียชีวิตมากกว่าปี 2563 ทั้งปี แต่ก็หามีใครสำเหนียกไม่
ที่เป็นทั้งนี้เพราะมีการเอาการเมืองมาเล่นกับการรับมือโรคระบาดโคบ้า ตั้งแต่ต้นมาถึงวันนี้ก็ยังเอาชีวิตของประชาชนไปเล่นการเมืองไม่ยอมเลิกรา จึงปัญหาเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ถึงขนาดเกิดความสับสนอลหม่านจนไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จ และยิ่งซ้ำเติมความเดือดร้อนเสียหายให้กับประชาชนมากขึ้นทุกที
เริ่มต้นในปี 2563 ที่คนทั้งหลายทราบว่าต้องใช้หน้ากากอนามัยในการป้องกันตัว ก็มีการเอาหน้ากากอนามัยมาเล่นการเมืองกัน นัดผู้คนจำนวนมากไปรับแจกหน้ากากอนามัยจนหวุดหวิดจะเกิดระบาดใหญ่ตั้งแต่ปี 2563 มาแล้ว มิหนำซ้ำ ยังมีข่าวคราวฉาวโฉ่เกี่ยวกับการทุจริตทั้งในเรื่องหน้ากากอนามัยและถุงมือยาง ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทุกโอกาสทุกสถานการณ์พวกโกงบ้านกินเมืองก็ไม่เคยคิดจะละเว้น แม้ว่าจะทำให้ชีวิตประชาชนตกอยู่ในอันตรายก็ตาม
จึงเกิดสภาพโกงได้โกงเอา เพราะโกงแล้วเรื่องก็เงียบหายไป ไม่มีใครเอาเรื่องเอาราว การโกงจึงกระจายตัวไปทั่วทั้งแผ่นดิน ที่ไหนมีโอกาสที่โกงได้ก็เกิดการโกงขึ้น นี่ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การรับมือกับการแพร่ระบาดยังแก้ไม่ตก
การนำวัคซีนเข้ามาใช้เป็นมาตรการอย่างหนึ่งในขั้นการป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งย่อมหมายความรวมถึงการนำเครื่องตรวจเชื้อให้เพียงพอ ก็เป็นมาตรการในลักษณะเดียวกัน เพื่อการคัดแยกผู้ป่วยออกจากสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
แต่กลับใช้ทั้งเรื่องวัคซีนและชุดเครื่องตรวจเชื้อมาเล่นการเมือง ใช้เป็นเครื่องมือหาเสียงในทางการเมืองจนได้ โหมโฆษณาชวนเชื่อกันจนราวกับว่าเป็นเทวดามาโปรดสัตว์ ต่างก็ให้คำมั่นสัญญาให้ประชาชนวางใจว่าไม่ต้องห่วงปัญหาเรื่องวัคซีน เพราะประเทศไทยมีวัคซีนมากที่สุดในเอเชีย เพียงพอสำหรับการป้องกันชีวิตคนไทยทั้งประเทศ
แต่ในความเป็นจริงกลับมิได้เตรียมพร้อมในการจัดหาวัคซีนให้เพียงพอและหลากหลาย ที่สร้างความเชื่อถือให้กับประชาชนเลย มีการเตรียมจัดหาวัคซีนเพียงสองยี่ห้อคือแอสตราเซเนกากับซิโนแวค
โดยทำให้ประชาชนเข้าใจว่าประเทศไทยจะมีวัคซีนแอสตราเซเนกามาใช้ตั้งแต่ 62 ล้านโดส ไปจนถึง 100 ล้านโดส โดยจะสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคมาใช้เพียง 2 ล้านโดส ซึ่งนับถึงวันนี้ก็ยังปกปิดข้อมูลกันว่าใครทำสัญญากับใคร เป็นจำนวนเท่าใดแน่ และมีกำหนดส่งมอบเมื่อใดบ้าง เป็นจำนวนเท่าใด ทุกอย่างเป็นความลับที่มืดมนทั้งที่ไม่ใช่เรื่องความลับ และจำเป็นต้องเปิดเผยให้ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศต้องรับทราบ
เมื่อสร้างความเชื่อลักษณะนั้นแล้วก็ปฏิเสธการบริจาควัคซีนจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนหลายราย กระทั่งปฏิเสธไม่เข้าร่วมกระบวนการจัดหาวัคซีนของโคแวกซ์ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การอนามัยโลก โดยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ไม่เข้าร่วม ในขณะที่กว่า 120 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วม แม้ประเทศที่มีฐานะร่ำรวย
ต่อมาความจริงปรากฏขึ้นชัดเจนว่าบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งถูกทำให้เข้าใจมาตั้งแต่ต้นว่าเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายวัคซีนให้แก่ประเทศไทยชนิดไม่อั้นตามที่สร้างความเชื่อเอาไว้นั้น มิได้เป็นความจริงเช่นนั้นเลย
บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์แถลงเองว่าเป็นโรงงานที่ผลิตยาต่างๆ เฉพาะเรื่องนี้บริษัทเป็นเพียงผู้รับจ้างผลิตให้กับบริษัทแอสตราเซเนกาแห่งประเทศอังกฤษเท่านั้น วัคซีนที่ผลิตได้ทั้งหมดเป็นของผู้ว่าจ้าง ที่ผู้ว่าจ้างจะขายให้แก่ใครและส่งมอบที่ไหนอย่างไรไม่เกี่ยวกับผู้รับจ้าง
ความจริงปรากฏชัดเจนปานนี้แล้วแต่บรรดาพวกลิ่วล้อบริวารกองเชียร์กลับไม่สำเหนียก ยังลวงโลกหลอกลวงประชาชนต่อไปว่าบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์จะจัดส่งวัคซีนให้อย่างเพียงพอและตามเวลาที่กำหนดไม่ต้องห่วง
เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ก็จำเป็นที่จะต้องจัดหาวัคซีนเพิ่มอย่างรวดเร็ว ความตื่นตัวเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2564 ที่คิดจะซื้อหาวัคซีนยี่ห้ออื่นเข้ามาทดแทน รวมทั้งการเพิ่มจำนวนซื้อวัคซีนซิโนแวคจากประเทศจีนด้วย แม้ขนาดนั้นก็ยังไม่เพียงพอ
เพราะลำดับการได้วัคซีนนั้นมีถึง 6 ลำดับ โดยประเทศที่จะได้รับวัคซีนแรกสุดก็คือประเทศที่เป็นเจ้าของผู้ผลิตวัคซีน ลำดับที่สองคือประเทศที่เข้าร่วมทุนในการวิจัยและในการผลิตวัคซีน ลำดับที่สามคือประเทศที่จ่ายเงินจองซื้อล่วงหน้า ซึ่งจะได้รับวัคซีนตามลำดับของการจองซื้อ
ลำดับที่สี่คือประเทศที่เข้าร่วมกับโคแวกซ์เมื่อโคแวกซ์จัดซื้อมาแล้วก็จะมอบวัคซีนให้แก่บรรดาประเทศที่จองซื้อ
ลำดับที่ห้าคือประเทศที่จองซื้อในภายหลัง ซึ่งประเทศไทยก็อยู่ในลำดับนี้ที่จะได้รับวัคซีนหลังลำดับอื่นๆ และจะได้รับตามลำดับการจองด้วย ดังนั้นเมื่อจองซื้อเดือนเมษายน 2564 ก็นึกดูกันเอาเองก็แล้วกันว่าจะได้วัคซีนเมื่อใด
ดังนั้นถ้าหากไม่ถือวัคซีนเป็นเรื่องการเมือง ก็ต้องสำเหนียกว่าลำพังกลไกของรัฐไม่มีทางที่จะแข่งขันในการจัดหาวัคซีนกับเอกชนหรือประเทศอื่นๆ ได้
ดังนั้นจึงมีแต่ต้องเปิดเสรีนำเข้าวัคซีนให้ทุกภาคส่วนร่วมด้วยช่วยกัน
ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็อย่าหวังว่าประเทศไทยจะไม่หายนะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี