ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ร่าง ล้วนแต่เป็นผลประโยชน์ของนักการเมือง นักเลือกตั้ง
ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับชีวิตความเป็นอยู่ และปัญหาใหญ่ของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ
เมื่อวาน มี สว.แถลงจุดยืนคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญในบางประเด็น ที่เห็นชัดๆ ว่าจะเข้าไปเพิ่มอำนาจนักการเมืองนักเลือกตั้ง โดยเจาะจงไปร่างที่เสนอโดยพรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้เอง
สะท้อนบทบาทและการทำหน้าที่ของ สว. มิว่าใช่จะเป็นลูกกะจ๊อกของฝ่ายรัฐบาล
1. นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา เปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการฯ มีมติร่วมกันไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้แก้ไขมาตรา 144 และมาตรา 185 เนื่องจากบทบัญญัติดังกล่าวได้วางหลักการสำคัญห้ามไม่ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าไปแทรกแซงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีและมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ หรือให้ความเห็นชอบในการจัดทำโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นหลักการที่มีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2540 และ 2550
แม้การเสนอแก้ไขครั้งนี้จะยังมิได้ทำลายหลักการสำคัญดังกล่าว แต่การเสนอแก้ไขตัดส่วนสำคัญที่มีขึ้นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เกี่ยวกับบทลงโทษออกไป และตัดข้อห้ามในการเข้าไปมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ หลักการที่โดนตัดไป ยังถือเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐธรรมนูญ 2560 รวมถึงขัดต่ออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการคอร์รัปชั่น ข้อ 7 และ 8 อีกด้วย
2. อดีตประธาน ป.ป.ช. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ สว.ยืนยันว่า ในมาตรา 185 เป็นเรื่องของการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตัว ขัดอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยคอร์รัปชั่นที่ไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย
ในรัฐธรรมนูญ 2560 ในหมวดที่ 8 มาตรา 184 -187 มีสาระสำคัญ คือ สส.และสว.ต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่ง ก้าวก่ายประโยชน์ตนเองหรือผู้อื่นไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม 1.การปฏิบัติหน้าที่ราชการประจำ 2.การทำให้ตนมีส่วนร่วมการใช้จ่ายงบประมาณ 3. การบริหารบุคคล และใน มาตรา 144 วรรค 2 ไม่ให้ สส.-สว. เสนอแปรญัตติงบประมาณทั้งทางตรงและทางอ้อม
พูดง่ายๆ คือ แก้เพื่อเพิ่มอำนาจของตัวเอง
3. นายคำนูณ สิทธิสมาน สว. ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ ระบุว่า เนื่องด้วย มาตรา 144 และ 185 อยู่ในร่างแก้ไขของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งประเด็นนี้รวมอยู่ 5 ประเด็นอื่นด้วยๆ ดังนั้น จึงบอกไม่ได้ว่า สว.จะลงมติรับหรือไม่รับ
ทาง สว. แค่แสดงออก ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 144 และ มาตรา 185
ส่วนการตัดสินใจ ในการลงมติในขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ให้เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกแต่ละคน ซึ่งต้องฟังจากผู้เสนอญัตติ มีคำชี้แจง ความคิดเห็นอย่างไร เพราะมีเสียงคัดค้าน ค่อนข้างมาก
ถือเป็น 2 มาตราที่ สว. หยิบยกขึ้นมาหารือกันเป็นอย่างมาก
ส่วนกรณีที่ พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้าน เสนอแก้ไขมาตรา 272 ยกเลิกอำนาจ สว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี นั้น นายคำนูณ กล่าวว่า ประเด็นนี้ เป็นเรื่องของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งแต่ละคนมีมุมมองที่เหมือนกันบ้าง แตกต่างกันบ้าง แต่วันนี้ ประเด็นที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดคือ เรื่องมาตรา 144 และ มาตรา 185 ส่วนประเด็นอื่นๆ ขอให้ติดตามดูในวันที่ลงมติ
4. ความเห็นของ สว. อีกหลายท่าน เป็นไปในทางเดียวกับมติของคณะกรรมาธิการฯ ข้างต้น
ยกตัวอย่าง
แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สว. แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า
“การเสนอแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สอง นับแต่ทำหน้าที่
เคยได้รับความรู้เรื่องหลักการรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยเมื่อได้เรียนหลักสูตรปปร. 17 ครั้งนี้มีการเสนอญัตติเข้ามา 13 ญัตติ แบบเร่งรีบ
12 ฉบับลงวันที่เสนอ 16 มิ.ย. นี้เอง ได้เอกสารเมื่อมีการบรรจุเป็นวาระประชุมร่วมในอาทิตย์ที่ผ่านมา มีเนื้อหาค่อนข้างมากที่ต้องทำความเข้าใจในเจตนาของการแก้
นั่งแกะเนื้อหาก็สรุปได้ว่า พรรครัฐบาลเสนอแก้มากที่สุด และเป็นพรรคเดียวที่ขอแก้เรื่องการปรับให้อำนาจสส.พิจารณาแปรญัตติงบประมาณได้ และขอแก้เรื่องโทษของการเข้าไปก้าวก่ายการทำงานของข้าราชการ
น่าสนใจว่า รัฐบาลมาจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เน้นการปราบโกงนักการเมือง ทำไมจึงเสนอแก้เองพรรคเดียว
มีการเสนอแก้ระบบเลือกตั้ง คงเพราะคิดว่ารัฐธรรมนูญเป็นปัญหาในการได้มาของสส.
และมีอีกหลายเนื้อหาที่ดูดี คือ เรื่องสิทธิในกระบวนการยุติธรรม แต่จริงๆ แล้ว เป็นการคัดลอกรัฐธรรมนูญเก่ามาใส่ไว้เนื่องจากแอบแฝงการดำเนินคดีทางการเมือง
เวลาที่มีน้อย เนื้อหาที่ซับซ้อน มีเงื่อนซ่อน ต้องใช้สมาธิทำความเข้าใจ
อย่างน้อยหมอก็เป็นผู้สนับสนุนให้ตัดอำนาจสว.ในการเลือกนายกฯ มาตลอด ก็คงจะมีคำตอบอยู่บ้าง
เล่าสู่กันฟัง ภารกิจในทางธรรมที่ท่านเจ้าคุณสอนไว้ “เดินในเส้นทางคนอื่นเพื่ออุดมการณ์ของเรา”...”
5. ขอประณามและคัดค้านการจะแก้รัฐธรรมนูญที่เพิ่มอำนาจนักการเมืองนักเลือกตั้ง โดยเฉพาะการเข้าไปก้าวก่ายงบประมาณแผ่นดิน
จำได้ไหม โกงสนามฟุตซอล นั่นก็งบแปรญัตติ
ถ้าปล่อยให้ผ่านไปได้ ต่อไป การเมืองเน่าๆ สส.หากินกับงบประมาณแผ่นดิน แย่งทึ้งงบลงพื้นที่ตัวเอง แบบเบี้ยหัวแตกจะกลับมาเต็มรูปแบบ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี