ต้องยอมรับก่อนว่า นอกจากประเด็น เชื้อกลายพันธุ์ที่ทยอยเข้าถล่มไทยและทั่วโลก อีกครั้งในตอนนี้ ทำให้เกิดการระบาดที่รวดเร็วและรุนแรงกว่าที่ผ่านมามากแล้วนั้น ปัญหาการสื่อสารของรัฐบาลยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้การบริหารจัดการสถานการณ์แย่ลงไปอีก
ผู้ประสบปัญหาจากวิกฤติล่าสุดรอบนี้ จริงๆ ก็ไม่ได้ต่างจากรอบอื่นๆ สิ่งที่ต่างคือบางกลุ่มอาจจะไม่สามารถจะเดินต่อไปไหวแล้ว ด้วยปัจจัยสำคัญคือ ความเปราะบางทางเศรษฐกิจ อาทิ SMEs, พ่อค้าแม่ขายขนาดเล็ก ร้านอาหารโดยเฉพาะขนาดเล็ก และแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบที่ถูกสั่งให้หยุดทำงาน แต่จริงๆ ยังมีกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระต่างๆ อีกด้วย
เอาจริงๆ แล้วรัฐบาลก็ได้เตรียมมาตรการทั้งสองขาเพื่อรองรับปัญหาของกลุ่มเหล่านี้ ที่ว่าสองขา คือขาควบคุมและขาช่วยเหลือ เพราะการระบาดรอบล่าสุดที่มากับเชื้อกลายพันธ์ุรอบนี้เกิดจากกลุ่มที่ถือว่าเป็นกลุ่มเปราะบางในระบบเศรษฐกิจทั้งสิ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากแคมป์คนงานก่อสร้างต่างๆ ที่เต็มไปด้วยคนงานจากต่างจังหวัดและแรงงานต่างด้าวที่มาใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เหตุใดกลุ่มนี้จึงต่างจากชุมชนแออัดใน กทม. ที่มีการอยู่อาศัยอย่างหนาแน่นเช่นกันและเราสามารถจัดการปัญหาได้แล้วเมื่อช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เป็นเพราะกลุ่มแคมป์คนงานนอกจากจะเป็นผู้มีรายได้จะน้อยแล้วโอกาสที่จะเข้าถึงการบริการสาธารณสุขก็ยากลำบากมากด้วย
เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นประชาชนในระบบของกรุงเทพมหานคร เป็นประชากรแฝงนอกระบบที่มีที่อยู่อาศัยนอกระบบอีกที จึงต่างจากชุมชนแออัดในกทม. ที่จะมีการดูแลและเครือข่ายจัดการชุมชนจากกรุงเทพมหานคร ที่จะรับรู้ปัญหาและมีงบประมาณไปดูแล ทำให้เมื่อเกิดการระบาดเข้าไปในแคมป์ก่อสร้าง
ทั้งหลายจึงไม่มีใครรับรู้เลยจนระบาดไปทั่วแล้ว
อีกส่วนหนึ่งเกิดจาก พ่อค้าแม่ขายหรือร้านอาหารโดยเฉพาะร้านขนาดเล็กหรือริมทาง พบว่าจากข้อมูลหรือข่าวที่ออกมาหลายครั้ง ยังมีร้านอาหารที่ไม่ได้ควบคุมมาตรการในการป้องกันการติดเชื้อ บางร้านถึงกับมีการลักลอบให้ดื่มสุรา ทำให้การนั่งรับประทานในร้านอาหารกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อบ้าง แน่นอนว่ามีร้านที่ควบคุมมาตรการได้ดีจำนวนมากแต่ด้วยช่วงที่มีการระบาดหนักอย่างตอนนี้ทำให้สัดส่วนของผู้ติดเชื้อของประชากรในพื้นที่กทม.มีจำนวนมาก ร้านอาหารในหลายส่วนก็ยากที่จะควบคุมจริงๆ เราจึงเจอสภาพมาตรการแบบปิดๆ เปิดๆ สำหรับการอนุญาตให้นั่งทานในร้านอาหารตามช่วงการระบาดมากน้อย โดยการระบาดหรือการกระจายเชื้ออย่างรวดเร็วยังรวมไปถึงการโดยสารโดยรถสาธารณะต่างๆ ที่จะเป็นการกระจายเชื้ออย่างรวดเร็วของแต่ละกลุ่มเชื่อมไปมาโดยยากที่จะรับรู้ที่มา
เมื่อตัวเลขการระบาดขยับสูงมากต่อเนื่องมากกว่าเดือนแล้ว ก็จำเป็นต้องออกมาตรการดับไฟแบบแรงๆ แต่ด้วยกลุ่มที่รัฐจะต้องดับไฟรอบนี้เป็นกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ รัฐเองก็ต้องออกมาตรการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่ด้วยปัญหาการสื่อสารของรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดปัญหาเป็นวงกว้าง
ที่เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลกำลังมีปัญหาคือเรื่องของการสื่อสารที่ไม่เป็นระบบเสียที โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์ของผู้ใหญ่ทั้งนายกฯ รมว.สาธารณสุข ผอ.ศปก.ศบค. ที่ต่างคนต่างให้ความเห็น ยังไม่นับรวมความเห็นที่ต่างจากที่บุคลากรทางการแพทย์ได้ให้ความเห็นไว้ จนทำให้สังคมเกิดความสับสน อย่างเรื่องที่นายกฯที่ออกมาแถลงเรื่องแคมป์คนงานก่อสร้างและร้านอาหารก็มีความตั้งใจอยากให้ประชาชนได้เตรียมตัวก่อนการประกาศ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ทำให้เกิดการแตกตัวของแรงงานโดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่กลัวการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ก็ต้องเร่งหาที่หลบซ่อนใหม่ จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานก่อนมาตรการทางกฎหมายจะมาบังคับใช้ทันหรือไม่ จนทำให้เกิดการโจมตีอย่างหนักเลยเถิดไปจนถึงไปตีความกันว่าตั้งใจให้เกิดการไหลออกของแรงงานไปยังชนบทหรือไม่ เนื่องจากสถานพยาบาลใน กทม. และปริมณฑลมีไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว
ประกอบกับในต่างจังหวัดเองมีความพร้อมในเรื่องสถานพยาบาล หลายจังหวัดมีการปิดโรงพยาบาลสนามไปแล้วเนื่องจากไม่มีผู้ป่วย ทั้งที่จริงๆ การออกมาตรการเรื่องการคุมแคมป์คนงานไซต์งานก่อสร้างก็มีรายละเอียดยิบย่อยอีกมากแต่ประชาชนไม่ได้รับรู้เพราะไม่ได้มีการมาอธิบายหรือสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ เช่นเดียวกับเรื่องของร้านอาหารที่ถูกสั่งให้ขายแบบนำกลับเท่านั้นไม่ให้มีการนั่งในร้านก็ไม่ได้มีการอธิบายให้ประชาชนเข้าใจเหตุผลและความจำเป็นต่างๆ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ที่จะออกมาอยู่แล้วแต่ต้องรอเข้าครม.สัปดาห์ต่อมาก่อนก็ไม่อธิบายให้ประชาชนเข้าใจ
มติครม.ล่าสุด จึงพุ่งไปช่วยกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจเหล่านี้ก่อน ตั้งแต่การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ SMEs ทั้งหลาย อาทิ การขยายเวลาพักหนี้ และการเพิ่มวงเงินสินเชื่อแบบปลอดดอกเบี้ยระยะหนึ่ง ทั้งจากธุรกิจขนาดเล็กและประชาชนทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระด้วย นอกจากนี้ยังมีมาตรการที่ออกมาจ่ายเงินชดเชยโดยตรงอีกสองกลุ่มคือ การจ่ายเงินชดเชยให้กับกลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ตั้งแต่แรงงานไทยในระบบประกันสังคม ได้รับการเยียวยา 50% ของค่าแรง และได้รับชดเชยจากรัฐบาลอีก 2,000 บาท สำหรับแรงงานนอกระบบจะมีการช่วยโดยลูกจ้างนอกระบบประกันสังคม จะได้เงินช่วยเหลือ 2,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการอุดหนุนผู้ประกอบการทั้งในระบบ/นอกระบบ ได้เงิน 3,000 บาท ตามจำนวนคนงานจริงในธุรกิจแต่กำหนดเพดาน ส่วนกลุ่มร้านอาหาร ต้องไปลงทะเบียนกับแอปพลิเคชั่น ถุงเงิน เพื่อรับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท
ในตอนนี้สถานการณ์เร่งด่วนแพร่ระบาดหนัก การปิดทุกอย่างแบบฉุกเฉินพอจะเข้าใจได้ แต่จริงๆ แล้ว การแก้ปัญหาจริงรัฐได้แก้ปัญหาได้ครอบคลุมตรงจุด
หรือยัง ยังเป็นคำถาม ไปพร้อมกับการสื่อสารของรัฐบาลที่มีปัญหา เพราะสิ่งเหล่านี้บ่มเพาะความไม่เข้าใจของประชาชน จนนำไปสู่ความอึดอัดของประชาชนต่อรัฐบาลก่อนจะบานปลายกลายไปเป็นปัญหาการเมืองแทน
และด้วยสถานการณ์ความอึดอัดของประชาชนขณะนี้ ทำให้นอกสภาเริ่มมีการเขย่ารัฐบาลอย่างแรง ด้วยการเดินเกมของกลุ่มต่างๆที่ออกมา ซึ่งดูเหมือนรอบนี้จะไม่ได้มีแค่ม็อบเยาวชนอีกต่อไป อย่างกลุ่มคนไทยไม่ทน-สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ที่นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์นายจตุพร พรหมพันธุ์ หรืออย่างกลุ่มประชาชนคนไทย ที่นำโดย นายนิติธร ลํ้าเหลือ หรือกลุ่มราษฎร ที่นำโดย นายพริษฐ์ชิวารักษ์ ไผ่-ดาวดิน รุ้ง-ปนัสยา หรือกลุ่ม re-solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่ และกลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า ที่นำโดยนายชาติชาย ไพรลิน ที่แต่ละกลุ่มออกมาเขย่าให้นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง เพื่อหาคนมาแก้ปัญหาวิกฤติแทน รวมไปถึงการเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ
วันนี้พายุกำลังรุนแรง ไม่ว่าจะจากเชื้อโควิด-19 พิษเศรษฐกิจ การเมืองทั้งในพรรคและนอกพรรคก็ต่างรุมเร้านายกฯ และครม. จึงไม่อยากให้นายกรัฐมนตรีต้องเขวจากปัญหาการเมืองอื่นๆ เพราะภารกิจหลักตอนนี้ต้องมุ่งเป้าช่วยประชาชนก่อน นอกจากนี้ถึงเวลาแล้วหรือยังที่พรรคร่วมรัฐบาลที่คุมกระทรวงต่างๆจะต้องร่วมมือกันจัดการวิกฤติครั้งนี้ หน่วยงานต่างๆ ของรัฐ กระทรวงทั้งหลาย อาจต้องลงมาช่วยกันมากกว่ากระทรวงสาธารณสุข หรือ มหาดไทยหรือไม่ ถึงเวลานี้คงต้องใช้สรรพกำลังภาครัฐทุกอย่างที่มีเพื่อช่วยเหลือประชาชนหรือไม่ ทั้งงบประมาณ กำลังคน และเครื่องไม้เครื่องมือของส่วนราชการต่างๆ ที่ต้องปรับโครงการของตนเองในแต่ละกระทรวงตามภารกิจปกติมาสู่ภารกิจนี้ เพื่อเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมข้ามเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมประชาชนจะเป็นคนกำหนดเองว่ารัฐบาลนี้ดีมากพอจะได้ไปต่อหรือไม่? ผ่านการเลือกตั้ง.......
“ฟ้าดินกว้างใหญ่ มีความประหลาดมากมายเหลือรำพัน เรื่องประหลาด แม้ท่านจะมีอายุถึงหนึ่งร้อยยี่สิบแปดปี ก็ไม่มีวันเห็นหมดสิ้น”
โกวเล้ง มังกรเมรัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี