งานต่อต้านคอร์รัปชันต่อไปจะไม่ใช่การขึ้นเวทีแสดงสัญลักษณ์เท่านั้นแล้ว แต่จะเป็นการระดมสมอง รวบรวมความคิดที่หลากหลาย เพื่อสร้างเครื่องมือต้านโกงแบบจับต้องได้ และใช้การได้ทันที
ในเดือนสิงหาคมนี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ร่วมกับองค์กรภาคีอีกหลากหลาย ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม จะจัดงานต้านโกงแบบ online ขึ้น ชื่อว่า “ACTkathon” ซึ่งมาจากการนำชื่อย่อของ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) นั่นคือ “ACT” มารวมเข้ากับคำว่า “Hackathon” อันเป็นรูปแบบของกิจกรรมหลักในครั้งนี้
ทีนี้หลายท่านอาจจะสงสัยว่า Hackathon มันคืออะไร มันคือการนำเอาคำว่า “Hack” และ “Marathon” มารวมกัน กิจกรรมนี้เริ่มต้นขึ้นในวงการ Programmer มาระดมความคิดสร้างเครื่องมือแก้ไขปัญหาอะไรสักอย่าง ซึ่งในงาน ACTkathon นี้ ชัดเจนว่าปัญหานั้นคือการคอร์รัปชัน โดยปกติเหล่าผู้เข้าแข่งขันระดมความคิดนี้จะอยู่ด้วยกัน 2-5 วัน ช่วยกันคิด และลงมือทำจนเกิดเป็นเครื่องมือต้นแบบได้เลย
สิ่งที่จะเป็นวัตถุดิบสำคัญให้เหล่านักคิดนักลงมือทำไปใช้ในการออกแบบและสร้างเครื่องมือต้านโกงในครั้งนี้ก็คือ “ข้อมูล” จากที่เราสามารถเห็นได้จากสื่อทั่วไปว่า ทุกวันนี้ข้อมูลเปิดเริ่มมีมากขึ้น ประชาชนเริ่มสามารถนำข้อมูลสาธารณะมาร้องเรียนจนเกิดความเปลี่ยนแปลงและลงโทษผู้กระทำผิดได้มากขึ้น เช่น กรณีเสาไฟฟ้ากินรี หรือบางกรณีแม้ยังไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ แต่ก็ทำให้ประชาชนอย่างเราได้รู้และเห็นอะไรมากขึ้น และหวังว่าในอนาคตจะต้องเอาผิดและแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ อย่างกรณีนาฬิกาหรู เป็นต้น
งาน ACTkathon จึงเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อต่อยอดความตั้งใจในการผลักดันการเปิดเผยข้อมูลเพื่อสร้างความโปร่งใสของภาครัฐให้เป็นวาระสำคัญ ภายใต้แนวคิด “Power of Data” อันนำมาสู่การแข่งขันในรูปแบบ Hackathon เพื่อชวนทุกคนเข้ามารวมระดมสมอง สร้างกระบวนการหรือเครื่องมือเพื่อแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันร่วมกัน ผ่านการเพิ่มความโปร่งใสให้กระบวนการทำงานของภาครัฐ ภายใต้แนวคิด “พลิกเกมโกงให้อยู่หมัด สร้างไอเดียรัฐเปิดเผย”
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมาก็เป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันระดมความคิดเพื่อต้านโกงนี้ ปรากฏว่ามีผู้ให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ล่าสุดมีจำนวนผู้เข้าสมัครทั้งแบบทีมและแบบเดี่ยวมากถึง 523 คน เห็นได้ว่ามีคนที่ให้ความสนใจและมีความคิดดีๆ ในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันเยอะเลยทีเดียว พอไปเปิดดูข้อมูลก็พบว่าผู้สมัครมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลายมาก มีทั้งที่เป็นสายทั่วไป เช่น ผู้บริหารองค์กร นักออกแบบ นักข่าว นักการตลาด ผู้ประกอบการทางสังคม สายเทคโนโลยี เช่น นักออกแบบระบบ โปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล นักพัฒนาแอปพลิเคชั่นนักพัฒนาสมองกล และสายวิชาชีพ/วิชาการ เช่นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ข้าราชการ อาจารย์มหาวิทยาลัย นักเศรษฐศาสตร์ นักกฎหมาย นักสังคมศาสตร์ ฯลฯผมยังไม่เคยเห็นงานต้านโกงไหนมีผู้เข้าร่วมคิดและทำอย่างจริงจัง ที่มีความหลากหลายทั้งความรู้และประสบการณ์เท่านี้มาก่อนเลยครับ
ทีนี้เราลองไปดูคร่าวๆ ว่าผู้สมัครเหล่านี้มีความคิดอะไรที่น่าสนใจบ้างนะครับ ประเด็นใหญ่ๆ ที่ผู้สมัครหลายคนเสนอมาอยู่ 2 ประเด็น คือ หนึ่ง การพัฒนาช่องทางในการตรวจสอบร้องเรียนอย่างเป็นระบบ โดยใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุน และสอง การป้องกันการคอร์รัปชันในการบริหารงานภาครัฐ หรือ การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภาครัฐ ทั้งการสร้าง platform ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการทำงานและเปิดเผยข้อมูล ไปจนถึงการเสนอการใช้ระบบ blockchain ในการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลต่างๆ รวมถึงการดึงผู้เชี่ยวชาญจากภาคประชาชนเข้ามาร่วมตรวจสอบข้อมูลที่เปิดเผยในระบบดังกล่าว
ประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ การทำฐานข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อสร้างระบบบริหารจัดการใหม่ การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว การตรวจสอบระบบการจ่ายเงินของกองทัพและหน่วยงานอื่นๆ ที่มีความลับสูงการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย การแก้ปัญหาสาธารณูปโภคที่ประชาชนใช้บริการเป็นประจำ ฯลฯ
ในแต่ละประเด็นที่ผู้สมัครเข้าแข่งขันเสนอมา มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ยิ่งเมื่อเข้าไปอ่านดูในรายละเอียดโครงการจะพบว่า ผู้สมัครคิดไตร่ตรองมาเป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่โยนๆ ความคิดมาเผื่อจะทำได้ แต่นำเสนอขั้นตอนการดำเนินงาน พร้อมชี้แจงอุปสรรคต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น และขอความร่วมมือให้ผู้จัดงานไปขอข้อมูลหรือความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมมาด้วย ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของผู้สมัคร และความเป็นไปได้จริงของความคิดต้านโกงเหล่านี้เลย
แน่นอนว่า ความคิดเหล่านี้มีความน่าสนใจมาก และน่าจะทำได้จริงด้วย แต่ก็ยังจำเป็นที่จะต้องขัดเกลาโดยผู้เชี่ยวชาญที่รู้จักระบบจริงๆ เคยพยายามหาทางแก้ไขมาก่อน หรือนักวิชาการที่สามารถให้ข้อคิดเพิ่มเติมจากหลักทฤษฎีได้ ในงานนี้จึงได้เรียนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิตัวจริงจากหลากหลายวงการมาช่วยให้คำแนะนำผู้เข้าแข่งขันด้วย เช่น สายต้านโกง คุณบรรยง พงษ์พานิช คุณธาดา เตียประเสริฐ ผู้ดูแลโครงการข้อตกลงคุณธรรม และตัวแทนจากกลุ่มหมาเฝ้าบ้าน สายเทคโนโลยี เช่น ดร.พณชิต กิตติปัญญางาม CEO and Co-Founder ZTRUS,คุณธนิสรา เรืองเดช Co-Founder Punch Up และ ELECT สายวิชาการ เช่น ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธาน TDRI, ผศ.ดร.ธานี ชัยวัฒน์ ผอ.ศูนย์เศรษฐศาสตร์พฤติกรรมและการทดลอง จุฬาฯ, ดร.พีรพัฒ โชคสุวัฒนสกุลผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและอาจารย์นิติฯจุฬาฯ สายระบบราชการ เช่น ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศอธิบดีกรมสรรพากร เป็นต้น
ส่วนกรรมการตัดสินผู้ชนะนั้นก็มีความหลากหลาย เช่นเดียวกัน ทั้งสายเทคโนโลยี มี ดร.โจ้ ภูริพันธ์ รุจิขจรจาก Boonmee Lab, นพ.ศุภชัย ปาจริยานนท์ จาก RISE สายราชการมี ดร.วันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการสภาพัฒน์, คุณนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. สายสื่อรุ่นใหม่มี คุณเคน นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ จาก The STANDARD, คุณพิ-พิริยะ กุลกาญจนาชีวิน จาก Glow Story และสายต่อต้านคอร์รัปชัน ก็คือ ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการACT นี่เองครับ
งาน ACTkathon จะประกาศผลผู้เข้าแข่งขันจากผู้สมัครทั้งหมดในวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 นี้ และแข่งขันจริงในวันที่ 7-8 สิงหาคม 2564 นี้ อยากเชิญชวนทุกท่านมาติดตามงานนี้และเครื่องมือที่จะสามารถนำมาใช้จริงเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้ใสสะอาดขึ้นได้ที่ www.actkathon.actai.co ครับ
รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค และ ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี