l การตาย & การมีชีวิต
การมีชีวิต มาก่อน การตาย
การตาย : เป็นของตาย เป็นเรื่องแน่นอน สำหรับทุกชีวิต ทุกคน : ต่างกัน คือ เมื่อไหร่? อย่างไร ?
การมีชีวิตอยู่ อย่างเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ผู้อื่น ชุมชน
- ถือเป็นหน้าที่ และต้องรู้หน้าที่ของตนการทำหน้าที่ให้ถูกต้อง
คือ การประพฤติและปฏิบัติธรรม
ซึ่งก่อนอื่น ต้อง มีการศึกษา เรียนรู้ และปฏิบัติ สรุปบทเรียนเพื่อให้เข้าใจ “ธรรมที่แท้จริง”
l เพื่อการเตรียมตัวที่ดี
- ในช่วงที่อยู่ (ก่อนตาย)
- การตายที่สุข ไม่ทุกข์ ไม่เดือดร้อน หรือทิ้งภาระให้คนที่อยู่ และเมื่อตายแล้ว ให้คนคิดถึง ไม่ให้คนบ่นกล่าวว่า ในสิ่งที่ไม่ดี
ในช่วงมีชีวิตอยู่ ฯลฯ เช่น การจัดงานศพ จะจัดแบบไหน?
l การมี “อวิชชา” (ความไม่รู้) ครอบงำความคิด ทั้งปัจเจก
และส่วนรวม (สังคม)
เป็นเหตุและปัจจัยหลัก ที่สำคัญ ๑ ต่อการตายไม่ดี
รวมทั้งการอยู่ไม่ดี
การมี “วิชา” ที่รู้เข้าใจ เข้าถึง แล้วนำมาพัฒนา ในการใช้ชีวิต
เพื่อให้ตายดี ทั้งระหว่างการเติบโต มีชีวิตอยู่ และการดับไปทีละส่วน
ของชีวิต เจ็บ ไข้ ได้ป่วย เป็นโรค นอนเตียง ห้องไอซียู
lเรื่องสำคัญยิ่งของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ในชาตินี้
(และชาติเดียว) คือ
การคิด & การปฏิบัติ และการสรุปบทเรียนประจำ > เพื่อให้เกิด “วิชา” : เพื่อดับ หยุด ขจัด “อวิชชา”
ในเรื่องที่สำคัญ และเป็นเหตุปัจจัยของมนุษย์
๑.โลก จักรวาล ธรรมชาติ โดยเฉพาะ การเกิด การตาย การพัฒนา เพื่อการอยู่ที่ดีของมนุษย์
๒.ชีวิตคืออะไร เกิดมาเพื่ออะไร สิ่งที่ควรรู้ และควรทำ
คืออะไร?
๓.หลักคิดที่ถูกต้อง เป็นจริง ในการดำรงอยู่ และการพัฒนา ของโลก ประเทศ มนุษย์และตัวเรา
๔.การศึกษาเรียนรู้ และการพัฒนา ที่ถูกต้อง เป็นจริงได้ คืออะไร และต้องทำอะไร ก่อน หลัง
๕.ชีวิตทางกาย ชีวิตทางใจ เพื่อความเข้าใจ กาย และ ใจ
อย่างถูกต้อง ใช้เป็น
๖.การศึกษา เรียนรู้ ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับ “ระบบโครงสร้างของสังคม และ ตัวมนุษย์ในฐานะปัจเจก”
๗.การกิน นอน เล่น หายใจที่ถูกต้อง การออกกำลังกาย พัฒนาอารมณ์จิตใจ (แก้อารมณ์เสีย และอคติ)
๘.การเป็นคนดี มีสุข มีองค์ประกอบอะไร ต้องศึกษาเรียนรู้ และปฏิบัติอย่างไร
๙.ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน (ต้องเคารพตัวเอง) แต่เราต้องอาศัย เคารพคนอื่น และความจริง พระไพศาล วิสาโล
๑๐.บุคคลที่เราควร เคารพ ยกย่อง และตอบแทนบุญคุณ รวมทั้งแผ่นดินเกิด
lการดับไม่เหลือ ที่สมบูรณ์ ด้วย สติ ปัญญา ความจริง มี ๒ ประเภท ตามขั้นตอนของชีวิต
๑.ในช่วงมีชีวิตอยู่ ให้ดับความรู้สึก ยึดถือ “ตัวกู ของกู” อยู่เป็นประจำ
๒.ดับสุดท้าย ไม่มีอะไรเหลืออยู่ หมดไปกับสังขาร ไปตามธรรมชาติ
@มีความเข้าใจ หรือ ความเชื่อสำคัญ ๒ แบบ ต่อการตาย
๑.มีชีวิตต่อไป หลังจากการตาย
-ศาสนาที่มีพระเจ้า มีพระเจ้า มาตัดสิน ใครไปนรก สวรรค์
-ศาสนาไม่มีพระเจ้า บางส่วนหรือส่วนใหญ่ เชื่อว่า “มีการเกิดใหม่ เวียนว่ายตายเกิด”
๒.ชีวิตหมด จบลง สูญสลายไปสู่ที่มา คือ ธรรมชาติ
l@ ตัวข้าพเจ้า เข้าใจ ในแบบ ที่ ๒ : อันมีเหตุ ปัจจัย มีหลักการทางวิทยาศาสตร์รองรับ
จึงเข้าใจต่อไปว่า มีตัวกูของกู และเราต้องรักษา พัฒนา
“ตัวกู” ให้ดีขึ้น ต่อตัวเอง และผู้อื่น
ทำให้ “ตัวกู” : ว่างและวาง
-ว่าง : เพื่อ นิ่งสงบ มีสติปัญญา
-วาง : ทุกสิ่ง ทั้งกาย และนอกกาย ไว้ มิให้ยึดติด อันก่อปัญหา ที่จะทำให้เราทำในสิ่งที่ไม่ดี
lการดับในช่วงมีชีวิตอยู่ คือ : การตายก่อนตาย
คือ การเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ถึง การตาย และการมีชีวิต (ก่อนที่จะตาย ดับสูญ)
เพื่อให้สามารถ ใช้ชีวิต ก่อให้เกิดคุณค่า ความหมาย และมีประโยชน์
โดยการศึกษา หาความรู้ ความเข้าใจ ด้วยสติปัญญา
ความจริง และโดยต้องมีการฝึกฝน และปฏิบัติ อย่างเอาจริง ต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าใจจึงสามารถนำมาใช้ นำพาชีวิตที่เหลือของเรา ให้เดินไปในทางที่ถูกต้องชอบธรรมทำใจให้ว่าง แล้วใช้ความรู้สติปัญญา พิจารณา ให้เห็นสภาพและสรรสิ่งทั้งหลาย ตามความเป็นจริง
ซึ่งมีหลากหลาย ความคิดและแนวทางปฏิบัติตามหลักศาสนา นิกายต่างๆ
ที่สำคัญ ต้อง “ยึดทางสายกลาง” ไม่ตึง และหย่อนเกินไป ในทางใดทางหนึ่ง
lหลักสำคัญ หรือหัวใจที่เป็นตัวชี้วัด คือ
1.เมื่อได้ทำไปแล้ว
๑.ผู้ทำ ผู้ปฏิบัติ มีความสุขกายสุขใจ : ทำได้ดีขึ้น มากขึ้น มีคุณค่า ประโยชน์มากขึ้น
๒.สิ่งที่ได้ทำ ได้ปฏิบัติ เกิดผลดี มีคุณค่า ความหมายและมีประโยชน์ต่อ ผู้อื่น ชุมชน และสังคม
2.การเกิดและการดับ
๑.เกิด และดับอะไร
เกิด : ความรู้ สติปัญญา ปิติสุข ที่ใกล้ความจริง สามารถนำไปใช้เกิดประโยชน์ได้จริง
การดับ : หรือทำให้หมดไป ใน “ความไม่รู้ ความทุกข์กาย ไม่สบายใจ”
๒.การเกิด และดับ จะเป็นกระบวนการของการพัฒนา
ความรู้ (วิชา) ความสุขจาก ไม่มี
สู่มี จากน้อยสู่มาก
ความไม่รู้ (อวิชชา) ความทุกข์ จากมีมาก ลดลง จนหมดไป
lในยามชรา ก็นึกถึง ประโยค อมตะ ที่ว่า “ตายก่อนตาย” ที่ ท่านพุทธทาส เป็นท่านหนึ่ง ที่เอ่ยถึง
สรุปเอาง่าย มี ๒ ประเด็น : สิ่งที่ควรมี ควรเป็น ที่ควรทำ ในยามมีชีวิต
๑.การเป็นคนดี และ คนไม่ดี
๒.การมีความสุข และมีทุกข์
คนดี คือ ใคร?
- ทำดี ไม่ทำชั่ว ทำจิตใจผ่องแผ้ว (สงบ มีสติปัญญา เพื่อทำดี ไม่ทำชั่ว)
- ทำดี ได้ง่าย ทำชั่วได้ยาก (พระโพธิรักษ์ สันติอโศก)
- ทำด้วย ความรู้ สติปัญญา ความจริง
สุข ทุกข์ คือ อะไร?
- สุข จากการทำดี ทำให้ตนเองเป็นคนดี ทำเพื่อผู้อื่น
ส่วนรวม และการตอบแทนคุณแผ่นดิน ก่อนตาย
- ทุกข์ คือ การทำไม่ดี ทำเพื่อกอบโกย เอาแต่ตัวเอง
ไม่สนใจ ที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เสียหาย
คนดี คือ คนที่มีสุขภาพกายใจดี หรือถึงแม้สุขภาพกายจะไม่ดี แต่ใจ ก็ดี
คิดดีทำดี สนับสนุนคนดี คนทำงาน
คนไม่ดี คือ คนป่วยทางใจ แม้ร่างกายจะแข็งแรงดี มีฐานะ วุฒิสูง แต่ก็ยังคิดและทำสิ่งไม่ดี สนับสนุนคนชั่ว
lคำสอนหนึ่งของท่านอาจารย์พุทธทาส ที่แปลกแตกต่าง และกระทบใจ คือ “จงตายเสีย ก่อนตาย”
การหัดตาย...ก่อนนอน ทำท่าและนึกว่าตัวเองตาย วิธีนี้ก็ทำให้ ลดรักโลภโกรธหลงไปได้
อะไรคือต้นเหตุของการเกิด และอะไร คือ ปลายเหตุของการดับ
ประดุจห่วงของลูกโซ่ที่ผูกต่อกันไปหาที่สุดมิได้ เรียกว่า เป็นวงจรของบาทฐานการเกิดของกองทุกข์
ปฏิจจสมุปบาท...สายโซ่แห่งทุกข์ เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
องค์ประกอบของปฏิจจสมุปบาท
“อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปทาน ภพ ชาติ ชรามรณะ”
โดย อวิชชา (ความไม่รู้ ตัวไม่รู้) เป็นตัวตั้งต้น
คนที่ทำผิด ทำไม่ถูก เพราะมีอวิชชา หรือขาดวิชชา (ความรู้ สติปัญญา ความเข้าใจ)
lบ่อเกิดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ เกิดขึ้นมาได้เพราะอวิชชา
เพราะเกิดการผูกต่อกันมาเป็นลำดับ เกิดเป็นปฏิจจสมุปบาทขึ้นมา
ปุถุชน ดับวงของปฏิจจสมุปบาทได้บ้าง เป็นการดับชั่วขณะจึงต้องเกิดอีก เพราะตัววิชชายังไม่แจ้งในขันธ์ 5
อริยชน ดับวงของปฏิจจสมุปบาทได้สนิท
เพราะดับได้ด้วยวิชชา จึงไม่ต้องเกิดอีก เป็นการดับไม่เหลือเชื้อ
เพราะวิชชา แจ้งในขันธ์ 5 : พ้นจากการเกิด เปรียบเหมือนไฟที่สิ้นเชื้อดับไปแล้ว
lผู้ที่สนใจในหลักการสำคัญนี้ คือ “ตายก่อนตาย”
ควรที่จะต้องศึกษาต่อ จากผู้มีภูมิรู้ที่ได้นำเสนอต่อสังคม เช่น ท่านพุทธทาส พระไพศาล วิสาโล กลุ่มนิ้วกลม ฯลฯ
https://adaymagazine.com/die-before-die
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี