การล็อกดาวน์ครั้งล่าสุดนี้ผ่านมาหลายวันแล้ว และยังไม่เห็นทีท่าว่าจะบรรลุผลสำเร็จดังที่ตั้งความหวังเอาไว้เลย เพราะจำนวนผู้ป่วยเพิ่มแต่ละวันก็พุ่งสูงขึ้นอย่างพรวดพราด และผู้เสียชีวิตแต่ละวันก็เพิ่มสูงขึ้นจนทะลุหลักร้อยมาหลายวันแล้ว
ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์น่าอเนจอนาถใจที่ผู้ป่วยและที่เกิดขึ้นจากการเสียชีวิตได้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง สร้างความสลดใจและความสะเทือนใจแก่ประชาชนชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ผู้คนป่วยคาบ้านและเสียชีวิตโดยไม่ได้รับการรักษาเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ผู้คนรอตรวจเชื้อโคบ้าก็ล้นหลามไปทุกหนแห่ง และเช่นเดียวกัน ผู้คนไปเข้าแถวรอฉีดวัคซีนก็แน่นขนัดจนเห็นได้ชัดว่าเป็นความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวงที่ถ้าหากมีผู้ติดเชื้ออยู่ในพื้นที่นั้นก็จะแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่นได้อย่างกว้างขวาง
สภาพเช่นนี้เกิดขึ้นวันแล้ววันเล่าแต่ก็แทบไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเลย แม้นายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งหรือพูดสักเท่าใดแต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมิหนำซ้ำยังมีข่าวคราวการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างผู้ปฏิบัติและยังมีข่าวคราวเรื่องผลประโยชน์การทุจริตหรือการประพฤติมิชอบเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน สร้างความเคียดแค้นชิงชังในหมู่ประชาชนให้ขยายตัวไปอย่างน่าตื่นตกใจ และถ้าหยุดยั้งไม่ได้สภาพเช่นนี้ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติประชาชาติ ซึ่งจะเป็นเรื่องใหญ่โตและรุนแรงในอนาคตอันไม่ไกลจากนี้
ดังนั้น ณ เวลานี้จึงอาจจะประเมินผลสรุปได้ว่าการล็อกดาวน์ครั้งล่าสุดนี้นอกจากจะไม่สำเร็จแล้ว ยังซ้ำเติมสถานการณ์ให้ทรุดหนักและรุนแรงมากขึ้น จนถึงขั้นที่ภาคประชาชนและหน่วยงานหลายหน่วยงานต้องประสานงานแก้ไขปัญหากันเองเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน
จึงเกิดการปฏิบัติที่เป็นสองพวกสองทาง คือที่ดำเนินการโดย ศบค. และเกิดสภาพดังที่กล่าวนั้น กับการปฏิบัติที่ภาคส่วนต่างๆ และภาคประชาชนช่วยกันคิดช่วยกันทำและทำกันเอง ซึ่งขยายวงกว้างออกไปทุกที
ในขณะที่คุณโทนี่ก็เห็นโอกาสอันดีนี้จึงตั้งตนเป็นผู้ชี้นำการปฏิบัติในการแก้ปัญหากันเองถี่ขึ้นทุกวันดูไปแล้วก็คล้ายกับว่ามีกองบัญชาการใหม่เกิดขึ้นในการแก้ไขปัญหาโคบ้า ซึ่งสักวันหนึ่งอาจจะยกระดับกลายเป็นรัฐบาลประชาชนที่บริหารสั่งการและมีผู้คล้อยตามเห็นด้วยปฏิบัติแข่งขันกับการทำงานของ ศบค. ก็ได้
อย่าทำเป็นเล่นไป!
การล็อกดาวน์ครั้งหลังนี้มีหลายมาตรการที่ไร้ผลปฏิบัติ และก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวง เช่น
ประการแรก มาตรการให้ข้าราชการ Work from Home 100% ซึ่งดูเหมือนโก้เก๋ แต่ในที่สุดก็กลายเป็น stay at home หรือ Work at Home ไปแล้ว
เพราะการ Work from Home นั้นก็คือการทำงานที่เป็นปกติเสมือนหนึ่งว่าทำงานอยู่ในสำนักงานราชการ เพียงแต่ตัวคนไปนั่งทำงานที่บ้านเพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากการแพร่ระบาด แต่จะทำได้ก็ต้องอาศัยปัจจัยสองอย่าง คือข้าราชการทุกคนจะต้องมีชุดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลประจำตัว และจะต้องมีระบบการเชื่อมต่อในระบบออนไลน์หรือ VPN เพื่อเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลที่สำนักงาน เมื่อไม่มีสองสิ่งนี้ครบถ้วนก็ไม่ใช่ Work from Home และอาจส่งผลให้การปฏิบัติราชการหรือการให้บริการประชาชนติดขัดไปทั่ว และในวันนี้ได้ประเมินผลเรื่องนี้กันหรือยัง
เช่น เอกชนนัดทำสัญญากับหน่วยงานราชการ จะ Work from Home ได้หรือไม่ หรือการนัดหมายเพื่อส่งมอบงานหรือสินค้าที่ซื้อหรือจ้าง ซึ่งต้องมีการตรวจรับว่าทำได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ผู้รับเหมาหรือผู้ขายก็ส่งมอบไม่ได้ และไม่สามารถรับเงินเอาไปจ่ายให้แก่ supplier และคนงานลูกจ้างได้ ก็จะได้รับความเดือดร้อนต่อกันไปอีกหลายทอด
ประการที่สอง การสั่งเคอร์ฟิวคือให้ปิดกิจการต่างๆ ในเวลาที่กำหนดยกเว้นกิจการขนส่ง แล้วคำนึงกันบ้างไหมว่าเมื่อผู้ประกอบการขนส่งไปรับสินค้าแต่ผู้ส่งของปิดกิจการก็จะรับไม่ได้ ก็จะต้องจอดรถรอข้ามวันข้ามคืน หรือเมื่อรับของได้แล้วก็เอาไปส่งให้แก่ผู้รับของ แต่ผู้รับของต้องปิดกิจการตามเวลาที่กำหนดก็ส่งของไม่ได้ ต้องจอดรอข้ามวันข้ามคืน ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายจนแบกรับไม่ไหว ในที่สุดก็ต้องหยุดงานกันไป
ดังนั้นข่าวคราวภาคขนส่งที่หยุดกิจการจึงเป็นข่าวคราวที่เกิดขึ้นทุกวัน อันเป็นสัญญาณหมายว่าระบบการขนส่งกำลังล่มสลายอีกระบบหนึ่งแล้ว
ประการที่สาม โคบ้าระบาดในประเทศไทยมา 18 เดือนแล้ว ผู้ประกอบการและประชาชนต่างก็ตื่นตัวระมัดระวังป้องกันตนโดยทั่วไป โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างและการสวมหน้ากากอนามัย แต่กลับจำกัดการทำธุรกรรมโดยให้ปิดกิจการจำนวนมาก ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านั้นล้วนเป็นคนหาเช้ากินค่ำ เป็นรายเล็ก รายน้อย รายย่อย ที่หาวันกินวัน จึงเกิดสภาพขาดรายได้ หนี้สินนอกระบบพอกพูน กระทั่งไม่มีกิน จนต้องฆ่าตัวตายกันเป็นจำนวนมาก
ผู้ประกอบการมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถแท็กซี่ แม่ค้าหาบเร่ การค้าขายรถเข็น และข้างทาง ทุกหัวระแหงทำมาหากินไม่ได้ จนในที่สุดก็อยู่ในสภาพไม่มีกิน เป็นที่น่าเวทนา
ห้ามกิจการเหล่านี้ก็เพราะเกรงว่าจะมีคนมารวมตัวกันมากๆ ซึ่งโดยสภาพเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว การนัดฉีดวัคซีนหรือนัดตรวจที่มีคนแออัดนับหมื่นจึงอันตรายมากกว่า เหตุนี้จึงควรยกเลิกมาตรการนี้เสีย ให้ผู้คนได้พอมีโอกาสหายอกหายใจและทำมาหากินได้บ้าง จะไม่ดีกว่าหรือ
แต่ดูเหมือนว่านอกจากไม่สำนึกว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้เป็นผลจากความผิดพลาดล้มเหลวที่ให้อภัยไม่ได้แล้ว กลับจะเดินหน้าหนักเข้าไปอีก ถึงขั้นมีการเสนอให้ปิดบ้านปิดเมือง ล็อกดาวน์ 24 ชั่วโมงแบบเมืองอู่ฮั่น
คิดกันบ้างไหมว่านั่นคือการปิดบ้านปิดเมืองให้คนอดข้าวอดน้ำ ให้คนป่วยไม่มีที่ไป และหมดสิ้นหวังในชีวิต และเมื่อนั้นอะไรที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่เห็นไม่ได้ยินบ้างหรือว่าสถานการณ์วันนี้ได้ข้ามพ้นความโกรธแค้นไปถึงขั้นความเคียดแค้นอาฆาตชิงชังถึงขั้นทวงหนี้ชีวิตกันแล้ว
ท่านผู้ก่อกรรมทำเข็ญทั้งหลายถ้ายังไม่รู้สำนึกตอนนี้ก็อาจจะสายเกินไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี