กรณีที่มีกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นนิเทศ จุฬาฯ จำนวนหนึ่ง ทำจดหมายเปิดผนึก กดดันลูกสาวนายกฯ ให้ไปกดดันบิดา ลาออกจากตำแหน่ง อันจะเป็นการเปิดทางให้พวกแร้งกาทางการเมืองได้รุมทึ้ง ต่อรองเก้าอี้ จัดตั้งรัฐบาลกันอีกรอบ นับเป็นอัตวินิบาตกรรมทางการเคลื่อนไหวอย่างแท้จริง
คนที่เกี่ยวข้อง ต้องกลับไปถามบิดามารดา ว่าทำไมไม่สอนสั่งหนูให้ดีกว่านี้
ไร้มารยาท ไร้หลักการเคารพในความคิดเห็นแตกต่าง ไร้ความจริงใจกับเพื่อน
ตอนเพื่อนถูกรุมบูลลี่ ข่มขู่ ไล่ล่า ถึงขนาดจะทำมิดีมิร้ายทางเพศไอ้พวกที่อ้างว่าเป็นเพื่อนกลุ่มนี้ไม่เคยโผล่หัวออกมาปกป้องเลยแม้แต่น้อยถึงวันนี้ จะอ้างคำว่าเพื่อนเพื่อใช้เป็นบันไดทอดไปกดดัน คุกคามความคิดอ่านให้เขาไปกดดันพ่อ ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองที่กระหายอำนาจกลุ่มอื่นๆ
1. หมอตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ในฐานะอาจารย์จุฬาฯ ได้แสดงความเห็น
กระทั่งมีผู้นำไปทำเป็นจดหมายเปิดผนึกบ้าง
เป็น “จดหมายถึงศิษย์”
ข้อความระบุว่า
“...ถึงลูกศิษย์ นิเทศ 40 บางคน ในมุมของแพทย์ และอาจารย์สอนนิสิตคนหนึ่ง การกล่าวหาว่า รัฐบาลบริหารราชการล้มเหลว อันเกิดจากการระบาดโควิดลุกลาม เป็นการกล่าวหาเลื่อนลอยที่ไม่ดูสถานการณ์ของโลกเลย ถ้ารัฐบาลไทยผิดพลาด ก็คงต้องไล่ทุกรัฐบาลออกทั้งโลกเลยมั้ย แม้แต่ที่อเมริกาประเทศผู้ผลิต Pfizer Moderna เองยังติดเชื้อกันพรึ่บพรั่บจนถึงวันนี้ จะโทษว่าสั่งซื้อวัคซีนเทพล่าช้าอีกหรือ?
ในจดหมาย มีจุดเดียวที่จริงคือ ปชช.จำนวนมากบอบช้ำจากพิษเศรษฐกิจ พวกเพื่อนนิเทศงี่เง่าพวกนี้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน จะเขียนจดหมายจากใจชั่วๆ นี้ก็ควรดูตัวเลขทั้งโลกบ้างนะ อายเขา สงสารพ่อแม่จริงๆ...”
โดยมีการแสดงตัวเลขของจำนวนผู้ติดเชื้อ ณ วันที่ 1 สิงหาคม ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสูงกว่า 35,768,924 คน จำนวนผู้เสียชีวิตสะสม 629,380 คน ขณะที่ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อสะสม 633,284 คน และเสียชีวิตสะสม 5,168 คน
2. ถ้าจะทำจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องกดดัน สามารถดำเนินการได้โดยระบุถึงพลเอกประยุทธ์ นายกฯ หรือรัฐมนตรี หรือพรรคร่วม โดยตรง
มิใช่ไปทำถึง “ลูกสาว” ซึ่งไม่เคยมีพฤติกรรมแสวงหาผลประโยชน์ หรือใช้ประโยชน์ หรือมีตำแหน่งแห่งหนในอำนาจรัฐเลย ต่างกับลูกอดีตนายกฯ บางคน
3. ตัวอย่างการทำหนังสือทางการเมือง เพื่อวิพากษ์ หรือเสียดสี สามารถทำได้ หากบุคคลนั้นอยู่ใน “สมการอำนาจการเมือง” หรืออยู่ในเกมอำนาจ
ยกตัวอย่าง ข้อเขียน “จดหมายถึงนายหญิง” โดยอัญชะลี ไพรีรัก เผยแพร่เมื่อ 8 เม.ย. 2552 ในเว็บผู้จัดการออนไลน์ ซึ่งเนื้อหายังน่าสนใจเมื่อเทียบเคียงกับการโหมกระพือของม็อบในปัจจุบัน
บางตอนที่น่าสนใจ ดังนี้
“...นี่เป็นจดหมายฉบับที่สองแล้วนะคะที่หนูเขียนมาถึงนายหญิง
ใจจริงหนูอยากอาจเอื้อมเรียกท่านว่า “คุณพี่” แบบเดียวกับที่นังอรอินทร์มันเรียกดร.วิกันดา ในละครเมียหลวงนะคะ แต่เกรงว่านายหญิงคดีเยอะจะเครียดไม่สบอารมณ์พาลตบหนูเลือดกบปากคะ...งั้นหนูขอเรียก “นายหญิง” อย่างเดิมแล้วกันนะคะ
นายหญิงคะ นายหญิงคงไม่ทราบว่า นายใหญ่มีรีสอร์ตซุกไว้ที่เกาะช้างคะ สวยเชียว ตกแต่งดี และมีห้องออกอากาศขนาดเล็กด้วย
ความว่า ทั้งโฟนอิน ทั้งวิดีโอ ลิงก์ ของนายใหญ่นั้น เขาทำกันที่กาสิโนบนเกาะกง และบางครั้งก็ล่องเรือยอร์ชมาจ้อสดที่เกาะช้าง แหมไม่อยากบอกเลย นายหญิงคงไม่เคยเหยียบมาใช่ไหม หนูก็เหมือนกันคะ เพราะส่วนใหญ่ หนูจะขี่คอนายใหญ่มา ไม่เคยเลยสักครั้งที่ตีนจะต้องเหยียบลงบนผืนทรายให้แขยงเลยคะ...อุ๊ยพูดแล้วเปรี้ยวปากคิดถึงคราวไปมัลดีฟสองต่อสองจัง oops
เห็นนายใหญ่บอกว่า แกหย่ากับนายหญิง เป็นเรื่องหย่าการเมืองคะ ความว่าเดี๋ยว “ล้มเจ้าเผาเมือง” เสร็จก่อน นายใหญ่จะกลับไปกอบกู้บ้านเมือง และชีวิตสมรสให้นายหญิงได้สมรัก และสมใจในบัญชีเงินฝากที่จะเพิ่มพูนอีกหนคะ...
นายหญิงขา ...หนูทราบดีคะว่า พักนี้นายหญิงกลุ้มใจหลายเรื่อง ไหนจะเรื่องๆ ลูก ไหนจะเรื่องผัว ไหนจะคดีความรุงรังนุงนังไปหมด
แต่อย่างไรก็ตาม หนูคิดว่านายหญิงคงกลุ้มใจได้อีกไม่นานหรอกคะ เพราะเวลานี้นายใหญ่แฟนนายหญิงเขาเทหมดหน้าตักท้ารบกับ “อมาตยาธิปไตย” นายใหญ่เก่งนะคะ พูดจาสาไถยหลอกรากหญ้ามาตายแทนได้ แถมรอบคอบส่ง “ลูก-หลาน” ไปอยู่อังกฤษ กับนิวซีแลนด์หมดเลย
เชื่อเถิดคะ ถ้าคนไทยทิ้งแผ่นดินจับมือกับคนหิว และประสานกับความใจถึงในเรื่องชั่วๆ ของนายใหญ่ รบร่วมเป็นร่วมตาย จ่ายงามไม่อั้นอย่างนี้
อีกไม่นานนายใหญ่จะคืนเมืองให้นายหญิงได้ชื่นใจ
ถึงวันนั้นชัยชนะจะเป็นของเราเหล่าคนไพร่ไร้สกุล ระดับสถุลตัวพ่อ และกาลีบ้านกาลีเมืองตัวแม่
แล้วอมาตยาธิปไตยจะถูกโค่น ระบอบการปกครองจะเปลี่ยนแปลง ฟ้าสีทองจะผ่องอำไพ นายใหญ่กับนายหญิงจะเป็นใหญ่ในแผ่นดินคะ
นั่งเฝ้าหน้าจอดีทีวี ดีๆ นะคะ นายหญิงจะได้เห็นพวกเราจะเอากองทัพเสื้อแดงบดขยี้เหล่าศัตรูตัวฉกาจให้พินาศบรรลัย ในฐานะที่ถีบนายใหญ่ตกเก้าอี้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวเมื่อ 19 กันยายน แล้วยังมีหน้ามาสมานฉันท์โธ่เอ๋ย ชนักติดหลังกันเป็นแถวละสิไม่ว่า อย่ามาอ้างให้เหม็นขี้ฟัน
นายหญิงคะ นั่งทำหน้าด้านตีกระบังไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป เมื่อเราชนะแล้วเราจะเปลี่ยนระบอบการปกครองใหม่หมด คนเก่าออกไปคนใหม่ต้องเข้ามา เข้าทำนองของเก่าถอดทิ้งใส่วิคตอเรีย ซีเคร็ท ดีกว่าค่อยสมฐานะดี
เวลานี้นายหญิงต้องแอบซ่อนตัว และความหวาดกลัวไว้ในคฤหาสน์จันทร์เจ้าขานะคะ ที่นั่นปลอดภัยดี เพราะกระจกกันกระสุนที่เปลี่ยนใหม่หมดทั้งหลังมูลค่าเกือบ 60 ล้านบาท จะช่วยบรรเทาให้นายหญิงคลายจากความกังวลใจถึงทุนหายกำไรหด ถือว่า กาลครั้งนี้ “ตดให้หมาแดก” ก็แล้วกัน
ดูเอาเถิดกลิ่นตดครั้งล่าสุด ขนาดระดับ “เจ๊ดา บ้าเงิน” - “หญิงเมาหมัด ขี้เมา” และ “นังสุนัขจิ้งจอกร้อยวิก” ยังชมว่า หอมอย่างโง้น หอมอย่างงี้
นี่ขนาดนายหญิงตดแบบเล่นๆ ไม่จริงจัง มันยังชมขรมขนาดนี้ เห็นไหมว่า เงินสกปรกมีฤทธิ์แค่ไหน
ขนาดลูกเจ้าหลานนายบางคนยังทิ้งเชื้อลืมสาย มาตายบนหน้าตักนายหญิงเพราะ “เงิน” ตัวเดียว คนอกตัญญูแบบนี้เสร็จศึกต้องรีบฆ่า ขนาดกล้าทรยศคดโกงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ลืมสิ้นข้าวแดงแกงร้อนที่ราดรดหัวกระบาลตั้งแต่ครั้งปู่ ครั้งพ่อ เอาไว้ก็รังแต่จะเป็นภัยในอนาคต
อำนาจของเงินโกงชาติเริ่มทำงานแล้วคะนายขา เดี๋ยวนี้เราตั้งเวทีม็อบเสื้อแดงชนบ้านหลายเสาแบบไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น นกมีขนคนมีพวกคะ พวกของเรามีมากมายทุกวงการ ทุกหย่อมหญ้าคะ
อย่ากลัวเกรงอันใดในแผ่นดินนี้ มีเงินเสียอย่าง แจกมันเข้าไป โปรยมันเข้าไป ไม่ใช่เงินเรานี่นา โกงเขามาทั้งนั้นจะกลัวอะไร ขอเพียงแต่ให้ช่วยนายใหญ่กลับบ้านอย่างปลอดภัย และงามสง่าไม่ต้องมีคดี และเล่นการเมืองเพื่อโกงชาติอีกหนเอาทุนคืน
รู้แล้วใช่ไหมว่า “ม็อบเสื้อแดง” เส้นใหญ่แค่ไหน ใหญ่ไม่ใหญ่ไม่รู้ รู้แต่ว่าพวกเราเหล่าอันธพาลเสื้อแดง “ดึงฟ้าต่ำ ทำหินแตก กระแทกอำมาตย์มานับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่ผิดกฎหมายก็แล้วกัน
ลองเป็นพวกพันธมิตรฯ ทำสิป่านนี้ติดคุกกินข้าวแดงเรียบร้อยแล้ว
เห็นไหมคะนายขา เราต้องมีอำนาจการเมืองคะ เราถึงจะรอดคุก และมีเงินใช้ ไม่ทำอย่างนี้ ไม่ล้มเจ้าเผาเมืองแบบนี้ ไม่มีผีโม่แป้งให้อย่างนี้ เห็นทีเราไม่มีแผ่นดินอยู่แน่คะ
คอยก่อนนะคะนายหญิง คอยพวกหนูเหล่าทรชนคนชั่วในนาม “กองทัพเสื้อแดง” ก่อนนะคะ อีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้ไป
กองทัพอันธพาลครองเมืองผู้ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม หรือทหารเสือหน้าไหนทั้งสิ้น จะโค่นเหล่าอมาตยาธิปไตยสัญลักษณ์แห่งพระราชอัธยาศัยให้ดู
เห็นไหมคะคนโง่ และคนหิว หลอกได้ด้วยเศษเงินเสมอคะ...”
จะเห็นว่า แบบนี้ คือ เขียนถึงคนที่อยู่ในสมการผลประโยชน์และอำนาจการเมือง สามารถทำได้
ต่างกับ “จดหมายถึงเพื่อน” ที่ไปกดดันลูกสาวนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จะให้มากดดันบิดาของเขา ซึ่งเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ น่าละอาย ไร้ทั้งหลักการและมารยาททั้งปวง ไม่รู้สี่รู้แปดอะไรเลยในทางการเมือง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี