“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com อุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา”... ทำโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ นำข้อเท็จจริงมาตีแผ่ทั้งการเมืองบันเทิง เศรษฐกิจ รายงานผลกีฬาที่น่าสนใจเที่ยงตรงฉับไว...“ไม้หน้าสาม” เริ่มต้น “บุคคลแนวหน้า” ฉบับนี้ด้วยวิกฤติ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” ที่ดูเหมือนมาตรการของ “รัฐบาลทหารแก่” จะไร้ราคาไร้ประสิทธิภาพลงไปเรื่อยๆ จากการขอความร่วมมือจากสังคมไทยในหลายประการ แต่ภาพรวมตัวเลขผู้ติดเชื้อในแต่ละวันก็สูงมากมายความตายก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น จนผู้คนมองอนาคตตามที่กองโรคระบาด กรมควบคุมโรค คาดการณ์ว่าสิ้นไตรมาส 3 ตัวเลขผู้ติดเชื้ออาจจะทะยานสูงถึงวันละ 3-40,000 ราย อัตราการตายจะอยู่ไม่ต่ำกว่า 500 รายต่อวัน ซึ่งอาจจะเป็นตัวเลขและสถานการณ์ที่ “คนไร้สำนึกบางกลุ่มบางพวก, นักการเมืองชังชาติ, สัมภเวสี, โอปปาติกะพอใจ” หรืออาจเป็นประเด็นที่ทำให้สื่อบางช่องบางพวกออกมาสร้างกระแสให้ในโลกโซเชียลออนไลน์ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มเร่งตุนข้าวปลาอาหารแห้งรองรับสถานการณ์... สถานการณ์อะไรหรือ เรื่องอย่างนี้ 6 องค์กรสื่อมวลชนไม่เห็นไม่ได้ยินใช่หรือไม่...
nn “ไม้หน้าสาม” ไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับทั้ง 6 องค์กรสื่อทั้งยังเคยร่วมเป็นกรรมการในสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยมาด้วย แต่อยากเรียกร้องให้ทั้ง 6 องค์กรสื่อฯที่ทำหนังสือถึงรัฐบาลเรียกร้องให้ยกเลิกข้อความบางข้อความที่ระบุว่าเป็นการลิดรอนการทำหน้าที่ของสื่อ ด้วยการให้ทั้ง 6 องค์กร หากระจกบานใหญ่มาส่องดูพฤติกรรมตนเองรวมทั้งองค์กรสมาชิกของตนเองก่อนว่า ได้กระทำการในสิ่งที่รัฐบาลร่างกฎเกณฑ์ขึ้นมาหรือไม่ “เฟคนิวส์” ทั้งในรูปแบบข่าวข้อความคลิปที่ตัดต่อออกเผยแพร่สาธารณชนนั้นเนื้อหาตรงกับเนื้อแท้หรือไม่ “สุภาษิตไทย” สอนว่า “ให้ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา” ทว่า “ไม้หน้าสาม” ไม่อยากใช้ประโยคนี้กับเพื่อนร่วมวิชาชีพ แต่อยากสะกิดเพียงว่า “คน...ถ้าไร้สำนึกมันก็ไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน” ดังนั้นจะกระทำการใดจึงควรดำเนินภายใต้สามัญสำนึกโดยแท้ รู้กันอยู่สื่อบางสำนักกระทำตนเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้น “เทคไซด์” ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดยที่สมาคมนักข่าวฯก็ดี สภาการนสพ.ฯก็ดีไม่สามารถควบคุมจริยธรรมใดๆ ได้ โดยอ้างเพียงว่าสำนักข่าวนั้นไม่ได้อยู่ในกำกับของสมาคมฯ ทั้งที่ผู้บริหารสำนักข่าวนั้นอยู่ใต้ชายคาองค์กรสื่อยักษ์ใหญ่ในสมาคมฯ เยี่ยงนี้ยังจะหอนเห่าว่าถูกรัฐบาลลิดรอนสิทธิ์กระนั้นหรือ...
nn มองการเมืองระหว่างมหาอำนาจ “พญาอินทรี-พญามังกร” กันบ้างสั่นสะเทือนไปทั่วโลก “สงครามเย็นของจักรวรรดินิยม” ที่ผ่านมา โดยการตั้งกำแพงภาษีสกัดกั้นสินค้าจากจีน ดูเหมือนจะไม่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และแสนยานุภาพของกองทัพจีนที่แผ่ขยายอิทธิพลครอบคลุมไปทั่วภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกได้ ปัจจุบันจีนพัฒนาศักยภาพทางการทหาร โดยกองทัพเรือจีนสยายปีกส่งกำลังทหารตรึงไว้ในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้เบ็ดเสร็จ ย่อมส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และพันธมิตร “ไทย” ถือเป็นพื้นที่ไข่แดงที่มหาอำนาจต้องการเข้ามามีบทบาทเพื่อหวังผลทางการเมือง และเศรษฐกิจ“ไม้หน้าสาม” ต้องชื่นชม ปรบมือให้กับทัพเรือไทย และรัฐบาลที่กล้าตัดสินใจร่วม “ฝึกรบกับเรือหลวงริชมอนด์ (HMS Richmond)จากสหราชอาณาจักร” เข้าสู่เขตน่านน้ำประเทศไทยเมื่อปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดครั้งประวัติศาสตร์ หากมองผิวเผินอาจมีหลายฝ่ายเกรงว่าการตัดสินใจครั้งนี้ จะทำให้จีน
ไม่แฮปปี้กับไทย แต่เจาะลึกลงไปก็พบว่า “ราชนาวีไทย” ส่ง “เรือหลวงกระบุรี” ซึ่งเป็นเรือฟริเกตที่ต่อจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำการที่กองทัพเรือภาคที่ 3 จ.ภูเก็ต เข้าร่วมฝึกในน่านน้ำฝั่งทะเลอันดามัน เรือหลวงกระบุรี สัญชาติมังกรลอยลำอยู่ในทะเลอันดามันท่ามกลางเรือผู้ดี ย่อมบ่งชี้ถึงความแนบแน่นระหว่างไทยกับจีนและภารกิจครั้งนี้ก็เท่ากับว่ากองทัพเรือไทยได้นำเสนอแสนยานุภาพเขี้ยวเล็บกองทัพเรือจีนให้ฝรั่งได้ นั่นคือ “เรือพิฆาต 053 D” ในขณะที่จีนเองพัฒนาเรือพิฆาตขนาดหมื่นตัน รุ่น 055 D พัฒนาจากรุ่น 052 D แถมติดตั้งขีปนาวุธวิสัยไกล บรรทุกเครื่องบินจำนวนมหาศาล บทสรุปการร่วมฝึกรบครั้งนี้ อาจเรียกได้ว่า “บัวไม่ช้ำ...น้ำไม่ขุ่น” ส่วนศึกษานอกจากการฝึกรบแล้ว ก็ยังเป็นการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านการทหารที่ชาติตะวันตกดูหมิ่นนวัตกรรมจีนไม่ได้อีกต่อไป โดยเฉพาะข่าวกองทัพเรือไทยปลดประจำการเครื่องบินขับไล่โจมตี แอร์ออร์ AB-8S พ้นจากเรือหลวงจักรีนฤเบศรไปเมื่อปี 2563 ทั้งที่ซื้อมาจากอังกฤษพร้อมกับเรือหลวงจักรีนฤเบศร แต่ติดปัญหาไม่มีงบประมาณจัดซื้อออปชั่นเสริม (ขีปนาวุธตอบโต้ทางอากาศ) จึงทำให้แอร์ออร์เป็นแค่เศษเหล็กที่บินได้แต่ไร้พิษสง เมื่อจีนนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยมีประสิทธิภาพ แถมราคาถูกกว่าของพวกฝรั่ง จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่สหรัฐฯ และชาติยุโรป ไม่อาจนิ่งเฉยต่อการปฏิบัติการทหารต่อเอเชียได้อีกต่อไป ทั้ง “อาวุธยุทโธปกรณ์-วัคซีน” จึงล้วนแต่มีความสำคัญยิ่งยวดต่อความอยู่รอด และความมั่นคงของไทย“ก๊วน 3 กีบ-นักเลือกตั้งชังชาติ” ที่รับงานรับเงินมาแทรกแซงล้มล้างการปกครองประเทศไทยพึงสังวร...
nn “ไม้หน้าสาม” มีเรื่องที่ต้องชำระสะสาง “โรงงานเอกอุทัย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา” ยักษ์ใหญ่ที่มี “รางวัลเหรียญทองการันตีจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม” ถูกกรมควบคุมมลพิษปิดล้อมตรวจสอบ ยังกล้านำรถขนถ่ายขยะพิษไปทิ้งไว้รอบพื้นที่โรงงาน ซึ่งบางส่วนเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้โดยผลการตรวจน้ำและดินบริเวณโรงงานพบว่า เป็นโลหะหนักหลายชนิดปนเปื้อนอยู่ในชั้นดินและน้ำใต้ดินสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมากรางวัลเหรียญทองนี้เอกอุทัยได้แต่ใดมา...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ประชาสัมพันธ์เพื่อเพื่อนชาวอาทิตย์อุทัย“รพ.เมดพาร์ค” ช่วยฉีดวัคซีนให้คนญี่ปุ่นในไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (เป็นวัคซีนจากสถานทูตญี่ปุ่น) โดยวันที่ 2-9 ส.ค. เป็นคนอายุ 60 ปีและ/หรือมีโรคเรื้อรัง ส่วนวันที่ 10-30 ส.ค. สำหรับอายุ 18 ปีขึ้นไปติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ทางเมล https://medpark.hospital/Covid19VaccineJapanese หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้เที่เบอร์โทรศัพท์ 02-0903170, 02-0903172, 02-0903173...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี