ขอประณามอย่างรุนแรงต่อผู้ประท้วงซึ่งมีเป้าประสงค์ทางการเมืองทุกรายที่จงใจนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปร่วมประท้วง ขอย้ำว่าผู้ที่กระทำเช่นนั้นไม่มีความเป็นมนุษย์ และเป็นผู้ที่จงใจเอาเปรียบเด็กอย่างไม่สมควรได้รับการอภัยในทุกกรณี และขณะเดียวกันก็ขอประณามอย่างรุนแรงต่อผู้บงการให้เกิดการประท้วงโดยมีเป้าประสงค์การเมือง ที่จงใจหลอกใช้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้ออกไปเผชิญหน้ากับตำรวจควบคุมฝูงชน
ขอย้ำยืนยันว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องไม่ถูกใครหน้าไหนก็ตามนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการประท้วงทางการเมือง
สำหรับในประเทศไทยแล้ว เรามักจะพบว่ามีคนซึ่งไร้มนุษยธรรม และไร้ความเป็นคน มักชอบหลอกลวง และล่อลวงให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ออกไปร่วมประท้วงทางการเมืองเป็นประจำ แต่ที่สุดจะเลวร้ายคือเด็กที่ถูกหลอกไปร่วมประท้วงนั้นเป็นเด็กในกลุ่มเสมือนไร้การศึกษา และไร้พ่อแม่ผู้ปกครองดูแลให้ความอบอุ่น (ซึ่งอาจเรียกได้ว่าบางคนเป็นเด็กในกลุ่มด้อยโอกาสทางสังคม)
เป็นเรื่องจริงที่น่าอับอายมากที่แกนนำผู้ประท้วง รวมถึงผู้ชักใยการประท้วงไม่กล้านำลูกหลานของตนเองไปร่วมประท้วง แต่ใช้กลอุบายหลอกลวงให้ลูกหลานของผู้อื่น ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปอยู่ในการประท้วง ซึ่งเปรียบเสมือนจงใจนำพาให้ลูกหลานของผู้อื่นไปรับอันตรายที่แสนสาหัสที่เกิดจากการประท้วงที่รุนแรงและเต็มไปด้วยอาวุธสารพัดชนิด ทั้งอาวุธสงครามและอาวุธอื่นๆ
ภาพการประท้วงที่หวังผลทางการเมืองซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำในระยะนี้ ทำให้สาธารณชนพบเห็นทั้งด้วยตาของตนเอง และเห็นจากภาพข่าวของสื่อมวลชนแขนงต่างๆ รวมถึงจาก Social Media ต่างๆ ที่ถูกนำเสนอโดยฝั่งของผู้ก่อการประท้วงเองเป็นประจำ แสดงให้เห็นว่ามีการใช้เด็กที่อายุน้อยกว่า 18 ปี เข้าไปเป็นตัวละครในการประท้วงที่เต็มไปด้วยความรุนแรง และมีบางภาพแสดงให้เห็นด้วยว่าเด็กที่อายุไม่ถึง 18 ปี กำลังใช้ความรุนแรงกับตำรวจควบคุมฝูงชน
คำถามคือ ใครนำเด็กเหล่านั้นออกไปร่วมประท้วง พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กเหล่านั้นทราบไหมว่า ลูกหลานของตนกำลังเข้าไปอยู่ในห่วงอันตรายขั้นวิกฤติ
หากจะมีผู้อ้างว่า เด็กเหล่านั้นเข้าไปร่วมชุมนุมด้วยตัวเอง ไม่มีใครหลอกลวงให้เด็กออกไปร่วมประท้วง ก็ต้องบอก ณ ตรงนี้ ว่าผู้ที่เห็นว่ามีเด็กอายุน้อยกว่า 18 ปี เข้าไปร่วมชุมนุมทางการเมืองต้องบอกกับเด็กโดยทันทีว่า ขอให้กลับบ้านไปโดยด่วน อย่าเข้ามาอยู่ในเขตอันตราย เพราะหากเกิดการบาดเจ็บล้มตายขึ้นมาแล้ว เด็กกลุ่มนี้จะไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้
หากเกิดความจำเป็นต้องสลายการชุมนุมโดยใช้กำลังตำรวจปราบจลาจล ตำรวจก็อาจจะไม่สามารถรับผิดชอบกับสวัสดิภาพของเด็กเหล่านั้นได้ เพราะว่าเด็กถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มผู้ขี้ขลาดและปราศจากความรับผิดชอบ
ถามว่าตำรวจมีสิทธิใช้กำลังตามความเหมาะสมและตามยุทธวิธีปราบจลาจลเพื่อจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้ชุมนุมที่ก่อเหตุไม่สงบได้หรือไม่ ตอบว่า ได้ และยืนยันว่าตำรวจมีสิทธิ์โดยชอบธรรมเพื่อนำความสงบสุขมาสู่สังคม
แต่มีคำถามว่า เมื่อตำรวจเห็นว่ามีเด็กอายุน้อยกว่า 18 ปี ถูกดันขึ้นมาเป็นโล่มนุษย์ของกลุ่มผู้ชุมนุมที่จงใจก่อเหตุไม่สงบ หรือก่อจลาจล แล้วตำรวจใช้ความรุนแรงตามยุทธวิธีเพื่อจัดการกับผู้ชุมชนตามหลักการจากเบาไปหาหนัก แล้วก่อให้เกิดอันตรายต่อเด็กที่ถูกใช้เป็นโล่มนุษย์ ในกรณีตำรวจต้องรับผิดชอบหรือไม่
คำตอบคือ ไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะตำรวจมีหน้าที่ต้องรักษาความสงบของสังคม และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเด็ดขาด โดยไม่ปล่อยให้ใครก็ตามนำตัวของเด็กมาเป็นโล่มนุษย์หรือเป็นตัวประกันใดๆ แต่ตำรวจก็จะต้องใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่มากกว่าเดิม และมากเป็นพิเศษ เพราะเห็นชัดเจนว่ามีการนำเด็กมาเป็นโล่มนุษย์ ดังนั้นหากเกิดความสูญเสียใดๆ ต่อชีวิตและร่างกายของเด็กที่ถูกนำมาเป็นโล่มนุษย์ผู้ที่ต้องรับผิดชอบกรณีนี้จึงไม่ใช่ตำรวจเพียงลำพัง แต่ผู้นำเด็กมาใช้เพื่อการนี้จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ทั้งนี้ก่อนที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจะใช้กำลังสลายการชุมนุม จะต้องประกาศให้ชัดเจนก่อน และต้องให้เวลาผู้ชุมนุมนำตัวเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ออกจากที่ชุมนุมให้หมด หรือต้องประกาศให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ออกจากที่ชุมนุมโดยทันที จากนั้นจึงจะใช้กำลังตามยุทธวิธีที่
ถูกต้องตามกฎหมายปฏิบัติการสลายการชุมนุมได้
แต่ถ้าหากตำรวจประกาศแจ้งแล้ว และให้เวลาแล้ว แต่เด็กไม่ยอมออกจากที่ชุมนุม หรือผู้ชุมนุมไม่ยอมให้เด็กออกไปจากที่ชุมนุม เพราะต้องการใช้เด็กเป็นโล่มนุษย์
เมื่อรูปการณ์เป็นเช่นนี้ ตำรวจก็ไม่สามารถปล่อยให้ผู้ชุมนุมก่อความไม่สงบต่อไปได้ จึงจำต้องใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม แต่จะต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษเพื่อรักษาเด็กเอาไว้
คราวนี้มีคำถามว่า แล้วถ้าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ก่อการชุมนุมด้วยความรุนแรง เนื่องจากใช้อาวุธสารพัดชนิด ทั้งอาวุธสงคราม และอาวุธทั่วไปกระทำต่อตำรวจโดยตรง เมื่อเป็นเช่นนี้ตำรวจจะจัดการอย่างไรกับเด็กเหล่านั้น ยกตัวอย่างเช่น เด็กมีระเบิดมือ หรือมีอาวุธสงคราม
คำถามนี้น่าสนใจมิใช่น้อย เพราะหากตำรวจใช้ความรุนแรงกับเด็ก ก็จะถูกสังคมประณาม แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเด็กอายุ 15 ปี ที่มีลูกระเบิดมืออยู่ในมือซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับตำรวจ ก็หมายความถึงความเป็นความตายของตำรวจเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การประท้วงของเด็ก (หรือประท้วงโดยอาศัยมือเด็ก) ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในบ้านเมืองของเราในขณะนี้ ทำให้ตำรวจถูกคนบางกลุ่มประณามว่าใช้ความรุนแรงกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เมื่อเด็กถูกจับกุมพร้อมหลักฐานการกระทำผิดกฎหมาย
เป็นที่น่าสังเกตว่า Amnesty InternationalThailand เคยกล่าวหาตำรวจว่า ใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับเด็กที่ใช้ชื่อกลุ่ม REDEM ที่ก่อเหตุประท้วงเป็นประจำในช่วงปี 2563-2564
คำถามที่สาธารณชนตั้งกลับไปยัง AmnestyInternational Thailand การชุมนุมประท้วงทางการเมืองของเด็กกลุ่ม REDEM เป็นการชุนนุมประท้วงที่สงบ ปราศจากอาวุธสงครามโดยแท้จริงหรือ แล้วการประท้วงนั้นๆ เป็นการประท้วงที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจโดยตรงของเด็กจริงหรือ แล้วถ้าหากเป็นการตัดสินใจของเด็กโดยแท้จริง ก็ต้องตอบให้ได้ว่าเด็กบางคนมีอาวุธสงครามหรือไม่ หรือมีใครแอบแฝงอยู่เบื้องหลังของเด็กหรือไม่ การที่อ้างว่าเป็นการประท้วงของเด็กแล้วจะขอให้ตำรวจไม่เอาผิดกับการจงใจทำผิดกฎหมายนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ด้วยประการทั้งปวง เพราะต่อให้เป็นเด็ก แต่เมื่อจงใจกระทำผิดกฎหมายก็หาได้หลุดพ้นจากการต้องรับโทษที่ได้จงใจกระทำไปแล้ว เพียงแต่กระบวนการในการพิจารณาโทษที่เด็กได้กระทำลงไปจะแตกต่างจากโทษที่ผู้ใหญ่จงใจกระทำเท่านั้น
กลับมาพูดถึงภาพข่าวที่ปรากฏชัดเจนว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าไปร่วมการชุมนุมที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงและบริเวณแฟลตดินแดง โดยภาพข่าวนำเสนอให้สาธารณชนเห็นว่า เด็กเหล่านั้นแสดงอาการยิงหนังสติ๊ก (ซึ่งไม่ทราบว่าใช้ลูกแก้ว ลูกหิน หรือหัวโลหะใดๆ เป็นกระสุน) เข้าใส่ตำรวจควบคุมฝูงชน เป็นการแสดงให้เห็นว่าเด็กกำลังประสงค์จะทำร้ายตำรวจอย่างชัดเจน กรณีนี้จึงมีคำถามว่า ใครใช้เด็กกลุ่มนี้ให้ก่อเหตุ หากตอบว่าเด็กกระทำการด้วยตัวเอง ก็มีคำถามว่า แล้วเหตุใดผู้ใหญ่ที่ก่อการชุมนุมประท้วงไม่ห้ามปรามเด็ก แล้วเหตุใดไม่บอกให้เด็กเข้าไปอยู่ในที่ปลอดภัย เหตุใดปล่อยให้เด็กกลายเป็นโล่มนุษย์เป็นเกราะกำบังภัยให้กับตัวผู้ชุมนุมที่เป็นผู้ใหญ่
ขอร้องให้เลิกหลอกใช้เด็กเป็นโล่มนุษย์เสียทีเถอะ โปรดเห็นแก่เด็ก เห็นแก่มนุษยธรรม และเห็นแก่ความถูกต้องด้วย แต่หากคิดว่าต้องใช้จริงๆ ก็ขอให้นำลูกหลานของผู้ประท้วง และลูกหลานของผู้บงการการประท้วงเป็นโล่มนุษย์ แล้วสังคมจะได้เห็นกันเสียทีว่า คนที่ใช้เด็กเป็นโล่มนุษย์มีความเป็นคนหลงเหลืออยู่หรือไม่ แล้วคนที่ไม่มีความเป็นคนหลงเหลืออยู่นั้นจะมีหน้าอ้างหรือว่าต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงให้สังคมดีขึ้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี