ถ้าเราจะหาซื้อปากกาใช้เขียนทั่วไป เพื่อความคุ้มค่า เราอาจจะดูที่ราคาว่าที่ถูกที่สุด แต่ถ้าเราจะต้องผ่าตัดหัวใจ ถ้าสามารถเลือกได้ คงไม่เลือกคุณหมอที่ค่าผ่าถูกที่สุดใช่ไหมครับ แล้วชุดตรวจโควิดล่ะครับ เราจะเลือกกันอย่างไรดี
สรุปอย่างสั้นๆ เลยก็คือ กรณีการจัดซื้อ ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) จำนวน 8.5 ล้านชิ้นที่เกิดในขณะนี้ เกิดจากความแตกต่างในวิธีการจัดซื้อของ 2 หน่วยงาน
ฝ่ายหนึ่งคือคณะกรรมการต่อรองราคาของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เจ้าของงบประมาณ ซึ่งได้ส่งรายชื่อบริษัทผู้ผลิตชุดตรวจที่มีคุณภาพสูง ผ่านการรับรองคุณภาพแล้วจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งมีอยู่เพียง 2 รายในประเทศไทย แต่ราคาสูงกว่าชุดตรวจอีกหลายยี่ห้อ
อีกฝ่ายหนึ่งคือ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อตามมาตรฐานคุณภาพและข้อกำหนดที่ สปสช. ส่งมาให้ ต้องการจะให้มีการประมูลคัดเลือกโดยใช้วิธีการแข่งขันราคาจากผู้เข้าประมูลจำนวนมากๆ เพื่อให้ได้ราคาถูกที่สุด ทั้งนี้โดยถือว่าทั้ง 16 รายที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วล้วนมีของที่มีมาตรฐานเท่าเทียมกันทั้งหมด
แต่อย่าลืมว่า ในความเป็นจริงยาและเวชภัณฑ์ในการแพทย์ เช่น ยาต่างๆ นั้น แม้จะมีสรรพคุณอ้างว่ารักษาโรคได้เช่นเดียวกัน แต่แพทย์ผู้รักษาก็จะเป็นผู้กำหนดชื่อยาเฉพาะเจาะจง ที่แพทย์เชื่อมั่นให้กับคนไข้ในความดูแลใช้
สำหรับชุดตรวจเชื้อไวรัส โควิด-19 ด้วยวิธีตรวจ Antigen หรือที่เรียกชื่อย่อ ว่า ATK (Antigen Test Kit) นี้ เป็นชุดตรวจผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้รวดเร็วกว่าและค่าตรวจถูกกว่าวิธีตรวจแบบมาตรฐาน RT-PCR ซึ่งใช้เวลามากต้องส่งไปเข้าคิวรอทดสอบในห้องแล็บที่มีเครื่องมือพิเศษ ใช้เวลา 2-3 วันกว่าจะทราบผล ในขณะที่ ถ้าใช้ Antigen Test Kit (ATK) นี้จะรู้ผลภายใน 15 นาที แถมมีราคาถูกกว่า 10 เท่าเป็นอย่างน้อย
ยิ่งในวันนี้ที่เชื้อไวรัสโควิดได้กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อว่า สายพันธุ์เดลต้า ที่กำลังระบาดไปทั่วทั้งโลกแล้วในขณะนี้ สามารถแพร่กระจายเชื้อระบาดไปได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้การที่จะลดจำนวนผู้ป่วยจากการแพร่ขยายการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าลงได้ ก็คือการตรวจพบผู้ป่วยที่ไม่มีอาการให้เร็วที่สุด แล้วกักตัวแยกไว้ ก่อนที่ผู้ป่วยที่ไม่รู้ตัวเหล่านี้จะไปแพร่เชื้อต่อๆกันไป ในประเทศจีนซึ่งก็ใช้วิธีการตรวจหาผู้ติดเชื้อด้วยวิธี ตรวจ Antigen อย่างรวดเร็วนี้ ตรวจคนทั้งเมืองอู่ฮั่น 11 ล้านคนได้ใน 5 วัน ทำให้สามารถชะลอการระบาดลงได้เป็นผลดี
ดังนั้นการจัดซื้อชุดตรวจ ATK จำนวนมาก 8.5 ล้านชุดในครั้งนี้ จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญมาก ในการที่จะหยุดการระบาดรุนแรงของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้านี้ลงได้โดยเร็วในประเทศไทย ทั้งนี้จะต้องได้มาอย่างเร็วที่สุดและจะต้องได้ชุดตรวจที่มีคุณภาพสูงมาใช้
คำถามสำคัญเลยคือ แล้วระเบียบราชการที่เรามักจะบ่นกันว่าไม่มีประสิทธิภาพนั้น จะเอื้ออำนวยให้เราหาชุดตรวจที่มีคุณภาพสูงมาได้อย่างรวดเร็วไหม คำตอบคือ ทำได้ครับ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ฉบับใหม่นี้ ก็มีหนทางให้ นั่นคือการวิธีเฉพาะเจาะจง เลือกผู้ขายรายเดียวที่เหมาะสมที่สุดเลย ยกตัวอย่างเช่น อะไหล่สำหรับเครื่องบินรุ่นต่างๆ จะไปหาซื้อของเทียมมาเทียบเท่าย่อมไม่ปลอดภัย หรือ การพัฒนาปรับปรุงซอฟต์แวร์ที่ใช้มานานต่อเนื่องก็ต้องกำหนดเฉพาะเจาะจงไปเลย ยิ่งในกรณีนี้มีมติคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาจัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ร.บ.ฉุกเฉินฯ และระเบียบขององค์การเภสัชฯ แล้ว ยิ่งสามารถทำได้ง่ายขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม การใช้วิธีเฉพาะเจาะจงนี้ก็มีข้อควรระวัง เพราะถ้าการกำหนดคุณสมบัติและกระบวนการคัดเลือกผู้ขายแบบเฉพาะเจาะจงไม่มีความโปร่งใส ทำให้มีการแทรกแซงด้วยอำนาจมืด ทั้งอำนาจการเมืองและอำนาจการเงิน ก็จะกลายเป็นช่องทางในการคอร์รัปชันได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้น ทางออกหนึ่งคือการใช้ ข้อตกลงคุณธรรม เข้ามาช่วย โดยเป็นความร่วมมือกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ที่เป็นองค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งจะคัดเลือกและส่ง
ผู้สังเกตการณ์อิสระที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ เข้าไปช่วยสังเกตการณ์การออกแบบคุณสมบัติสินค้า ไปจนถึงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพสูงสุด
เพื่อประโยชน์ของสังคม
ล่าสุด ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ก็ออกมาโพสต์ใน Facebook ว่า “น่าเสียดายที่การจัดซื้อครั้งนี้ไม่ได้ใช้ “ข้อตกลงคุณธรรม” ทำให้พลาดโอกาสแสดงความโปร่งใส แล้วยังพลาดโอกาสที่ตัวแทนภาคประชาชนผู้ชำนาญธุรกิจยาจะเข้าไปเสนอแนะข้อมูลและแชร์ประสบการณ์ดีๆ”
หากมีชุดตรวจคุณภาพสูงที่แพทย์มั่นใจ สามารถเริ่มให้การรักษาในทันทีโดยไม่ต้องรอทำ RT-PCR ซ้ำ ก็จะรักษาได้เร็ว ช่วยลดอัตราการป่วย อัตราการเสียชีวิตลงได้ ประหยัดเงินค่ายาค่ารักษาพยาบาล ได้เป็นมูลค่าเงินมหาศาล และอีกข้อที่สำคัญคือ การจัดซื้อต้องทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยสุจริต และต้องอย่างโปร่งใสให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี