เสียงเรียกร้องแห่งความถูกต้องนั้นแม้ไร้พลัง ไร้ความกังวานกึกก้อง แต่นั่นเป็นลำพังของความดังของเสียง แต่ความขลังและพลังที่แท้จริงนั้นหาได้อยู่ที่ความกังวาน
และความกึกก้องไม่ แต่อยู่ที่ความถูกต้องของเสียงเรียกร้องนั้นต่างหาก
นับตั้งแต่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมายาวนานในท่ามกลางเวลานั้นก็มีเสียงเรียกร้องให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อคืนความเป็นปกติให้กับประเทศชาติและประชาชน ยุบเลิกหน่วยงานในรูปคณะกรรมการที่เหมาะแก่การบริหารแบบศาลเจ้า เพื่อคืนอำนาจให้แก่รัฐมนตรีทุกกระทรวงให้สามารถบังคับบัญชาข้าราชการกว่า 3 ล้านคน ให้สามารถปฏิบัติราชการได้ตามปกติ
แต่เสียงเรียกร้องนั้นหามีใครเชื่อฟังไม่ ยังคงดึงดันเดินหน้าโดยผลคือการประกาศให้ประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤต อยู่ในภาวะไม่ปกติ อยู่ในสภาพที่มิควรแก่การเชื่อถือหรือติดต่อทำมาค้าขายด้วยประการใดๆ ได้ แม้กระทั่งเกิดความรังเกียจในการไปมาหาสู่
ในขณะเดียวกัน การทำงานในรูปคณะกรรมการแบบคณะกรรมการศาลเจ้าที่ยึกยักยืดยาดไร้ประสิทธิภาพ กระทั่งผิดพลาดล้มเหลวได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการจัดหาวัคซีน ทั้งในเรื่องการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทั้งในเรื่องการจัดหาชุดตรวจเชื้อ ทั้งกระบวนการรักษาและกระบวนการใช้ยาในการรักษา รวมทั้งปัญหาในการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่เกิดปัญหาแทบทุกเรื่องแทบทุกโครงการ
จนกระทั่ง ป.ป.ช. ถึงกับต้องออกมาแสดงท่าทีให้ปรากฏว่าได้พบการทุจริตในแทบทุกโครงการในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งอ้างสถานการณ์ฉุกเฉินและใช้วิธีจัดซื้อ
จัดจ้างผิดปกติ มีกรณีที่พบว่ามีปัญหากว่า 15,000 เรื่องซึ่งต้องนับว่าเป็นเรื่องที่ต้องน่าตกใจ
แต่การแถลงของ ป.ป.ช. ดังกล่าวนั้นแน่นอนว่าย่อมสร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้แก่ขบวนการโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวง เพราะท่าทีดังกล่าวนั้นมีความชัดเจนว่ากรณีจะมีการนำไปสู่การตรวจสอบไต่สวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ความรับผิดทางอาญาและความรับผิดที่อาจจะต้องถูกยึดทรัพย์ แม้คนมีอำนาจสักปานใดก็ย่อมหวั่นไหวพรั่นพรึง ดังนั้น จึงแสดงออกโดยท่าทีที่จะออกพระราชกำหนดห้ามมิให้ฟ้องร้องเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องในกรณีทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตโคบ้า และขยายรวมไปจนถึงผู้รับผิดชอบในการจัดหาและบริหารจัดการเรื่องวัคซีนด้วย
ที่น่าตื่นตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือทันทีที่ข่าวคราวนี้หลุดรั่วไปถึงสื่อมวลชน เสียงคัดค้านกึกก้องไปทั้งแผ่นดิน ชนทุกหมู่เหล่าพร้อมเพรียงกันคัดค้านอย่างกว้างขวางจนเป็นกระแสใหญ่ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ไม่กล้าดำเนินการเพื่อออกเป็นพระราชกำหนด
แต่กระนั้นก็ดูเหมือนว่าความพรั่นพรึงยังไม่สร่างสิ้นไปจากหัวใจพวกโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวง จึงมีความพยายามที่จะหาทางป้องกันการฟ้องร้องดำเนินคดี และล่าสุดก็เพิ่งปรากฏข่าวว่าจะมีการนำเรื่องนี้ไปดำเนินการในการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับโรคระบาด แม้กระนั้นเสียงคัดค้านก็ยังกึกก้องอยู่เหมือนเดิม
รอวันเวลาว่าเมื่อใดร่างกฎหมายนี้จะมีความชัดเจน เมื่อนั้นก็จะเกิดกระแสต่อต้านครั้งใหญ่เข้าสมทบกับบรรดาม็อบทั้งหลายอย่าได้สงสัยเลย
ความเสียหายที่ยังไม่กล้าแถลงตัวเลขก็คือความเสียหายในการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ซึ่งอาจมียอดรวมถึง 3 ล้านล้านบาทแต่ไม่เคยมีการแถลงจำนวนเงินที่ใช้จริงว่าใช้ไปจำนวนเท่าใด ใช้ไปในรายการใดบ้าง แต่ละรายการใช้จ่ายเงินอย่างไรเป็นจำนวนเท่าใด ก็ยังเป็นเรื่องที่คลุมเครือ และวันหนึ่งก็ต้องมีการตรวจสอบเรื่องนี้กันครั้งใหญ่ยิ่งกว่าการตรวจสอบการทุจริตโครงการจำนำข้าวหลายเท่านัก
ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ประกอบการและประชาชนที่กิจการต่างๆ ต้องล้มละลาย ต้องปิดกิจการ ต้องขาดทุน ต้องเลิกจ้าง กระทั่งต้องประกาศขายกิจการกันเกร่อไปทั้งเมือง แม้กระทั่งคนทำงานก็ตกงานมาร่วม 2 ปีแล้วไม่มีรายได้ใช้สอย ส่งผลกระทบต่อรายได้แผ่นดินเป็นระลอก จนกระทั่งอาจนำไปสู่วิกฤตที่ต้องเลิกจ้างหรือลดเงินเดือนข้าราชการเหมือนที่เคยเกิดขึ้นแล้วก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475
เสียงเรียกร้องของผู้ทุกข์เข็ญทั้งแผ่นดินเมื่อไม่ได้รับการสนองตอบจากผู้มีอำนาจก็ย่อมเป็นปกติที่ย่อมแสวงหาที่พึ่งอื่นเพื่อบำบัดทุกข์เข็ญ นั่นก็คือการพึ่งศาลสถิตยุติธรรมโดยนำคดีขึ้นสู่ศาลฟ้องร้องทั้งคดีแพ่งบ้าง คดีอาญาบ้าง ต่อผู้รับผิดตามที่กฎหมายบัญญัติ
การใช้สิทธิ์ทางศาลเพื่อเยียวยาชดใช้ความเสียหายของคนทั้งหลายกำลังเกิดขึ้นดุจดั่งระลอกคลื่นในพระสมุทร และแน่นอนว่าผู้ที่ต้องรับผิดชอบคนที่หนึ่งคือนายกรัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบชุดที่สองก็คือคณะกรรมการ ศบค. และชุดที่สามก็คือคณะรัฐมนตรี
ซึ่งกฎหมายฉุกเฉินได้บัญญัติให้ต้องเยียวยาชดใช้ความเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นเรื่องทางแพ่งที่ผู้ได้รับผลกระทบสามารถขอรับค่าเยียวยาความเสียหายได้และถ้าไม่ได้รับหรือได้รับไม่ครบถ้วน ก็ย่อมมีสิทธิ์ตามกฎหมายฉุกเฉินที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาลส่วนแพ่ง
และถ้าความเสียหายนั้นเกิดขึ้นจากการใช้อำนาจตามกฎหมายฉุกเฉินโดยไม่สุจริต หรือโดยไม่ชอบ หรือโดยเกินความจำเป็น หรือโดยเกินสมควร หรือโดยเลือกปฏิบัติผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบเป็นการส่วนตัวตามกฎหมายฉุกเฉิน มาตรา 17 และต้องรับผิดในทางอาญา เพราะกรณีต้องด้วยองค์ประกอบความผิดอย่างน้อยตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และอาจมากกว่านั้น ถ้าหากการกระทำต้องด้วยองค์ประกอบความผิดมาตราอื่นๆ อีก
ดังนั้นจู่ๆ จึงปรากฏข่าวขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 ว่าจะมีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ยุบเลิก ศบค. ในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อคืนอำนาจให้แก่หน่วยงานปกติแก้ไขปัญหาต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องโคบ้าก็เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขตามระบบราชการปกติ
ซึ่งมีอำนาจบริหารจัดการได้ตามกฎหมายหลายฉบับโดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับโรคระบาดและกฎหมายอื่นๆ ซึ่งต้องถือว่ามีเครื่องมืออย่างเพียงพออยู่แล้ว
ทันทีที่ข่าวคราวนี้ปรากฏขึ้นได้สร้างความยินดีปรีดาและก่อให้เกิดความหวังแก่ประชาชนโดยทั่วไป แต่อาจทำให้คนที่หลงอำนาจบางพวกตื่นตระหนกตกใจที่จู่ๆ อำนาจที่ได้มาแบบส้มหล่นและได้ใช้อำนาจนั้นอย่างเมามันมาตลอด 17 เดือนที่ผ่านมาจะต้องพ้นไปจากอำนาจแบบส้มหล่นนั้น
นั่นก็เพราะก่อนนี้มีข่าวคราวปรากฏให้ได้ยินกันในลักษณะเสียงซุบซิบนินทาว่าขบวนการนี้กำลังวางแผนที่จะให้มีการล็อกดาวน์ครั้งที่สี่ จะให้มีการปิดประเทศอีกยาวนาน เพื่อจะได้เถลิงอำนาจแบบส้มหล่นนั้นต่อไปแบบไม่มีวันสิ้นสุด โดยมิได้คำนึงถึงความฉิบหายวายวอดที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วประเทศ ที่สำคัญคือกำลังทำให้ผู้คนจำนวนมากอดอยาก
สภาพความอดอยากนั้นปรากฏแพร่หลายมาระยะหนึ่งแล้ว จนเดือดร้อนถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระบรมวงศานุวงศ์ และภาคธุรกิจรายใหญ่ที่ต้องเข้ามาแบกรับเอาความทุกข์เข็ญของเพื่อนร่วมชาติ โดยจัดทำอาหารไปแจกจ่ายในหลายพื้นที่ต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว
สภาพเหลืออดเหลือทนเช่นนี้ไม่เพียงเกิดขึ้นแก่ประชาชนเท่านั้น แต่เป็นสภาพที่กำลังคุกคามต่อนายกรัฐมนตรีอย่างหนักหน่วงด้วย เพราะถึงวันนี้นายกรัฐมนตรีที่สายตายังดี โสตประสาทยังดี ย่อมเห็นและได้ยินชัดขึ้นโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ แล้วว่าหายนะใหญ่กำลังแผ่ปกคลุมไปทั่วประเทศ
ขืนปล่อยให้พวกเถลิงอำนาจแบบส้มหล่นใช้อำนาจในลักษณะปฏิวัติซ้อนต่อไป ความบรรลัยย่อมเกิดแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ 3 ป. นั่นแหละเป็นกลุ่มแรก โดยเฉพาะข้อมูลที่ได้มีการอภิปรายกันในสภาผู้แทนราษฎรนั้นกระจ่างแจ้ง ไม่สามารถปฏิเสธได้
และเหล่านี้จึงอาจเป็นที่มาของข่าวการยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน ยุบเลิก ศบค. คืนความปกติให้แก่บ้านเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี