สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำลังเตรียมการที่จะแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงิน ในครั้งนี้จะเพิ่มเนื้อหาสาระที่สำคัญคือจะกำหนดให้นักวิชาชีพทำบัญชีและนักวิชาชีพสอบบัญชี รวมทั้งสำนักงานบัญชีมีหน้าที่ในการตรวจสอบเกี่ยวกับการฟอกเงินและรายงานให้กับ ปปง. ทราบด้วย
ดูเหมือนว่าเป็นหลักการที่น่าสนใจ แต่แท้จริงเป็นหลักการที่ขัดต่อกฎหมายการบัญชี กฎหมายสภาวิชาชีพบัญชี และกฎหมายว่าด้วยความคุ้มครองข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งเป็นการเพิ่มหน้าที่ให้กับผู้ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่และเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยที่ผู้ทำหน้าที่ไม่ได้ประโยชน์สิ่งใดเลยนอกจากความรับผิด ซึ่งแท้จริงแล้วควรเป็นหน้าที่ของ ปปง. โดยตรง
ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องเล็กหรือเกี่ยวข้องกับสำนักงานบัญชีหรือผู้ทำบัญชีเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการทั้งหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งต้องจัดทำบัญชีและต้องมีผู้สอบบัญชี ทำให้เกิดการหวาดระแวงและเสี่ยงต่อข้อมูลที่รั่วไหลจากที่กฎหมายซึ่งควบคุมเรื่องบัญชีโดยตรงได้บัญญัติเอาไว้
ประการแรก ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำบัญชีและการสอบบัญชีนั้นเป็นกิจกรรมอันเป็นความลับเฉพาะและมีกฎหมายคุ้มครองความปลอดภัยของความลับดังกล่าว เพราะหากรั่วไหลไปแล้ว ไม่เพียงแต่เสียหายต่อกิจการของเอกชนเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย
การไปแก้กฎหมายให้ผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชีต้องรายงานความลับของลูกค้าตามที่จะมีการกำหนดขึ้น ใครจะรับความเสี่ยงนั้นหากว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น ดังเช่นกรณีการแฮกข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการแฮกข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นข้อมูลของผู้รับวัคซีนหลายล้านคน ทำให้คนเหล่านั้นเสี่ยงอยู่ในอันตรายในประการต่างๆ ได้
ประการที่สอง หน้าที่ของผู้ทำบัญชีตามกฎหมายการบัญชีคือการทำบัญชีให้ถูกต้องตามหลักการบัญชีและมาตรฐานการบัญชี จึงถูกกำหนดให้เป็นวิชาชีพอิสระที่ต้องดำรงความเป็นอิสระและความน่าเชื่อถือได้ เช่นเดียวกับผู้สอบบัญชีเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นทั้งหลายที่ได้รับแต่งตั้งจากที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อให้ตรวจสอบบัญชีของกิจการว่าเป็นประการใด มีความถูกต้องทางบัญชีการเงินตามมาตรฐานการบัญชีหรือไม่ และเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และมีหน้าที่รายงานต่อที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น จะนำข้อมูลหรือผลการตรวจสอบไปแจ้งแก่ผู้อื่นไม่ได้โดยเด็ดขาด
ดังนั้นนักวิชาชีพทำบัญชีและสอบบัญชีจึงต้องเป็นนักวิชาชีพที่ผ่านการศึกษาอบรมโดยเฉพาะและต้องห้ามมิให้ประกอบกิจการอย่างอื่นด้วย
การแก้ไขกฎหมายโดยกำหนดให้ผู้ทำบัญชีและผู้ตรวจสอบบัญชีมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบบุคคลหรือนิติบุคคลที่มีข้อสงสัยว่าจะทำการฟอกเงิน เป็นการล่วงพ้นไปจากวิชาชีพที่นักบัญชีและผู้สอบบัญชีได้เรียนรู้หรือทำการได้ เป็นการยัดเยียดสิ่งที่เขาไม่รู้ เขาไม่ถนัด ให้เป็นหน้าที่ต้องรับผิดชอบ การบังคับลักษณะนี้จึงส่อว่าจะละเมิดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วย
ประการที่สาม ก่อนหน้าที่จะมีการรับงานทำบัญชีหรือสอบบัญชี ทั้งผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชีไม่สามารถรู้รายละเอียดข้อมูลทั้งหมดของลูกค้าได้เพราะยังเป็นบุคคลภายนอก จึงสามารถขอข้อมูลเท่าที่จำเป็นและเป็นรายการที่เปิดเผยต่อสาธารณะได้เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ก้าวล่วงเข้าไปตรวจสอบถึงคุณสมบัติของผู้ถือหุ้นแต่ละคน ว่ามีสภาพครอบครัว มีสภาพธุรกิจอย่างไร หรือมีฐานะสำคัญอันถือได้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลต่อกิจการนั้นอย่างไร โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นในต่างประเทศไม่มีทางที่นักบัญชีและผู้สอบบัญชีจะขอข้อมูลได้เพราะไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
อย่าว่าแต่นักวิชาชีพทำบัญชีหรือสอบบัญชีเลยหลายครั้งที่ ป.ป.ช. หรือ ปปง. หรือ ป.ป.ส. ขอข้อมูลเหล่านี้จากบุคคลในต่างประเทศ เขาก็ไม่ให้ดื้อๆ ปานนั้นแล้วหน่วยงานที่ขอก็ไม่มีปัญญาที่จะดำเนินคดีอะไรได้
การที่แก้กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชีที่จะต้องขอข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นการบังคับนอกเหนืออำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติ และมีบทบัญญัติให้ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พ้นวิสัยที่นักวิชาชีพดังกล่าวสามารถทำได้ จึงเป็นการล่วงละเมิดสิทธิ์ผู้ประกอบวิชาชีพและส่อว่าจะขัดรัฐธรรมนูญด้วย
นี่คือตัวอย่างบางประการที่จำเป็นต้องติติงเอาไว้เพื่อว่าเมื่อมีการเสนอเรื่องนี้ต่อคณะรัฐมนตรี ต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ต่อรัฐสภา ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะได้ตั้งเป็นประเด็นหาความกระจ่างและความถูกต้องให้ได้
และเพื่อให้นักวิชาชีพทำบัญชีและสอบบัญชีได้รู้ตัวไว้ล่วงหน้าว่าหายนะกำลังจะมาเยือน ความรับผิดชอบในสิ่งที่นักวิชาชีพไม่รู้ ไม่มีความชำนาญ และไม่มีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบถ้าหากการแก้ไขกฎหมายนี้สำเร็จ
ก็ได้แต่หวังว่าผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องหรือองค์กรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องตั้งแต่คณะกรรมการ ปปง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คณะรัฐมนตรี และสมาชิกรัฐสภา จะได้รับรู้รับทราบและแสวงหาข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อคุ้มครองประโยชน์แห่งชาติและผู้ประกอบการวิชาชีพดังกล่าวก่อนที่จะสายเกินการ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี